อยากลด “คลัสเตอร์โควิด-19” อย่าละเลย 6 กลุ่มเสี่ยงนี้

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในประเทศไทยยังคงอยู่ที่หลักพัน และมีผู้เสียชีวิตหลักสิบกันทุกวัน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยังไม่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้อยู่ในวงจำกัดได้ เป็นเพราะมีการแพร่ระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อนหรือที่เรียกกันว่า “คลัสเตอร์” เป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้ วงการแพทย์จึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้น อย่างน้อยเมื่อติดเชื้อโควิด-19 ก็จะช่วยลดการสูญเสียชีวิต หรือบรรเทาอาการป่วยไม่ให้รุนแรงได้

นอกจากภาครัฐจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งเป็นด่านหน้าที่ต้องรับมือกับโควิด-19 แล้ว กลุ่มที่เสี่ยงต่ออาการรุนแรงจากการติดเชื้อ คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง (โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรังระยะ 5, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน) ก็เป็นกลุ่มที่ต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากต้องการลดการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ กลุ่มบุคคลที่สายอาชีพของตนเองจำเป็นต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก ก็ถือเป็นกลุ่มที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเช่นกัน

หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งที่เกิดคลัสเตอร์ “สถานบันเทิง” ระลอกสาม เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้การแพร่กระจายเชื้อไปถึง 62 จังหวัด และมีการติดเชื้อแบบก้าวกระโดดเกือบทุกจังหวัด ก่อนจะมีคำสั่งให้ปิดบริการสถานบันเทิงเป็นการชั่วคราว รวมถึงสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก อาทิ โรงภาพยนตร์ สนามแข่งขันกีฬา และสถาบันการศึกษาตามมา

ดังนั้น อาชีพที่หลีกเลี่ยงการเจอคนหมู่มากไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่มาจากหลากหลายพื้นที่ด้วย จึงกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองก่อนเป็นอย่างแรก และเพื่อหยุดการเป็นต้นตอของการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยไม่รู้ตัว

พ่อค้า-แม่ค้าในตลาด 

ตลาดถือเป็นศูนย์รวมผู้คนที่ก่อให้เกิดคลัสเตอร์โควิดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงระลอกสามในจังหวัดนนทบุรีที่กำลังมีข่าวอยู่ตอนนี้ด้วย ส่งผลให้ทางจังหวัดต้องดำเนินการตรวจเชิงรุกตามตลาดต่าง ๆ ในนนทบุรี ตลอดเดือนพ.ค.นี้ เพราะหากพ่อค้า-แม่ค้า ติดโควิด-19 ก็มีสิทธิแพร่กระจายเชื้อให้กับลูกค้าคนอื่นได้

ผู้ที่อยู่ในชุมชนแออัด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือพื้นที่ชุมชมแออัดต่าง ๆ ในย่านคลองเตยที่พบผู้ติดเชื้อกว่า 800 รายแล้ว หลังจากมีการตรวจเชิงรุกมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสภาพแวดล้อมของชุมชนแออัดซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีรายได้น้อยนั้น เอื้อต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เนื่องด้วยสมาชิกในหลายครอบครัวต้องอยู่ร่วมกันในพื้นที่แออัดหรือจำกัด และไม่ได้มีอากาศถ่ายเทอย่างเหมาะสม และมีปัญหาในเรื่องสุขอนามัย ทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว

พนักงานที่ให้บริการขนส่งต่าง ๆ 

เมื่อหลายคนยังต้องเดินทางโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 มากที่สุด จึงหนีไม่พ้นพนักงานที่ให้บริการขนส่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนขับ พนักงานเก็บค่าโดยสาร หรือพนักงานขายตั๋ว ต่างก็เสี่ยงทั้งสิ้น โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะที่มีคนจำนวนมาก ทั้งรถโดยสายประจำทาง รถไฟฟ้าบีทีเอส เอ็มอาร์ที หรือแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ขณะที่รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็เช่นเดียวกัน เพราะมีผู้โดยสารใช้บริการจากหลากหลายพื้นที่

พนักงานส่งอาหารดิลิเวอรี่

บริการส่งอาหารดิลิเวอรี่กลายเป็นธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากในช่วงนี้ เนื่องจากร้านอาหารไม่สามารถให้นั่งรับประทานที่ร้านได้ ขณะที่หลายบริษัทให้พนักงานทำงานที่บ้าน จึงเลือกใช้บริการดิลิเวอรี่จากแอปฯ สั่งอาหารต่าง ๆ ซึ่งพนักงานส่งอาหารคือสื่อกลางในการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในวงกว้างได้ เนื่องจากในแต่ละวันต้องวิ่งรับส่งอาหารตามสถานที่หลายแห่ง

พนักงานขายในห้างสรรพสินค้า

จากคลัสเตอร์ที่เกิดในห้างสรรพสินค้าดังย่านบางแค ทำให้หลายคนอดหวั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้บริการไม่ได้ โดยเฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นศูนย์รวมผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของเข้าบ้าน จึงทำให้พนักงานขายที่อยู่บริเวณแคชเชียร์กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงไปโดยปริยาย

ครู อาจาย์ ในสถาบันศึกษา

หากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยกลับมาเปิดเทอมตามปกติ กลุ่มครูบาอาจารย์ที่ต้องสอนหนังสือในห้องเรียนก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะโรงเรียนที่สอนชั้นอนุบาล และชั้นประถมต้น ซึ่งเด็ก ๆ จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครูผู้สอน และครูพี่เลี้ยงเป็นพิเศษ ขณะที่เด็ก ๆ เองก็ยังไม่สามารถดูแลเรื่องสุขอนามัยด้วยตนเองได้ดีนัก

ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้ตนเองต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ทางออกที่ดีที่สุด คือการรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด ซึ่งประชาชนทั่วไปจะสามารถจองคิวฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป

หากใครไม่สะดวกลงทะเบียนผ่าน LINE OA หมอพร้อม สามารถลงทะเบียนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ได้เช่นกัน