แล้วเส้นทางนักร้องสาววัย 18 ปีที่มีชื่อเหนือจินตนาการว่า “ลำไย ไหทองคำ” เจ้าของผลงานเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ก็กลายเป็นประเด็นระดับชาติ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ติงการแต่งกายของนักร้อง “ลำไย ไหทองคำ” ที่ล่อแหลมและอาจจะไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เยาวชนจนทำให้ขาประจำเรื่องวัฒนธรรม ต่างก็ดาหน้ากันออกมาพลอยพยักไปกับเสียงติติงของท่านผู้นำ
อันที่จริงแล้ว จุดเริ่มต้น และ ความเป็นไปของนักร้องสาววัย 18 ปีอย่าง ลำไย ไหทองคำ ดูจะไม่ใช่เรื่องใหม่นักสำหรับวงการบันเทิงไทย ที่ใช้เพศเป็นเครื่องมือในการนำทางสู่ความสำเร็จ ก่อนหน้านี้ก็เคยมี ใบเตย สั้นเสมอหู ไปจนถึง “จ๊ะคันหู” จนทำให้นักร้องลูกทุ่งที่เคยดูแล้วเรียบร้อย อย่างกระแต อาร์สยาม ก็ลุกขึ้นมาสลัดผ้าเซ็กซี่บ้าง
แล้วในเมื่อเส้นทางสู่การเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงมันมี Model of Success อยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่จะมีการกำเนิดขึ้นมาของ “ลำไย ไหทองคำ” ที่มาพร้อมกับท่าเต้นยั่วยวน การแต่งตัวที่ชวนให้จินตนาการในเชิงเพศ รวมไปถึงประวัติสู้ชีวิตที่ต้องทำวันนี้เพื่อครอบครัว
ถ้าย้อนกลับไปดูอดีต จะพบว่าความบันเทิงเชิงเพศ ในสังคมไทยนั้นมีมาช้านานแล้ว อันที่จริงก็ต้องรวมไปถึงสังคมโลกด้วย นักร้องอย่างมาดอนน่า ในอดีตนั้นเรียกได้ว่า เปรี้ยวที่สุดของวงการ เพราะนอกจากเนื้อเพลงของเธอมักจะเกี่ยวกับเรื่องทางเพศแล้วการโชว์เนื้อหนังมังสาของ มาดอนน่า ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของตัวเธอเอง แม้ทุกวันนี้อายุจะหกสิบแล้วแล้วคุณแม่ก็ยังคงความเซ็กซี่ไว้ทุกกระเบียดนิ้วเป็นต้นแบบให้กับนักร้องสาวรุ่นหลังๆอย่าง บริทนี่ย์ สเปียร์ส หรือ ไมลีย์ เรย์ ไซรัส ที่ต้องการสลัดคราบของนักร้องแนวป๊อปใสๆ มาเป็นตัวแม่แนวกร้านโลกบ้าง
ทีนี้ วกกลับมาที่สังคมไทย ในอดีตนั้นก็มีนักร้องสาวหลายต่อหลายคนที่ใช้ความเซ็กซี่เป็นตัวนำ ถ้าใครยังจำ เพลงแมงมุม ของ แสงระวี อัศวรักษ์ กันได้ก็คงพอจำข่าวที่เธอขึ้นคอนเสิร์ตพร้อมกับชุดแมงมุมสุดเซ็กซี่ จนทำให้เธอนั้นกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่นานหลายสัปดาห์ หรือแม้แต่ ขาแดนซ์ตัวแม่อย่าง ติ๊นา เองเวลาขึ้นคอนเสิร์ตทีหนุ่มๆ ก็ต้องขอรออยู่หน้าเวทีกันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลกันว่า “ลำไย ไหทองคำ” จะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนไทยตามที่ท่านผู้นำแสดงความกังวลนั้น คงต้องตอบว่าวิธีการขาย ความบันเทิงเชิงเพศ แบบนี้มีวันหมดอายุ เมื่อกระแสซา คนก็จะลืม เพียงแต่ในอนาคตจะมีตัวตายตัวแทนเกิดขึ้นอีก
หากสิ่งที่น่ากังวลกว่า “ลำไย ไหทองคำ” ในวันนี้น่าจะเป็นวัฒนธรรมออนไลน์กับสิ่งที่ได้คำจำกัดความว่า “เน็ตไอดอล” ที่ปัจจุบันนอกจากจะเต้นโยกไปโยกมา ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น แล้วขายยาลดความอ้วน หรือยาทำให้ขาวแล้ว ก็ไม่ได้มีความบันเทิงเชิงเพศใดๆ อยู่ในบรรดา “เน็ตไอดอล” เหล่านี้เพราะคุณค่าของพวกเธออาจเปรียบได้กับ “เมียงู” ที่โชว์ตามงานวัดเพื่อขายยาผีบอกซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความเสื่อมให้สังคมอย่างแท้จริง
แล้วถ้ากลัวว่าเยาวชนไทยจะเสพสื่ออย่าง “ลำไย ไหทองคำ” จนเอาเป็นแบบอย่าง ก็ต้องบอกว่าเยาวชนสมัยนี้ฉลาดพอที่จะรู้จักแยกแยะหากมาในรูปของสื่อบันเทิง แต่พวกเขาอาจจะไม่กร้านโลกพอที่จะแยกได้ว่า “เน็ตไอดอล” ที่เต้นโยกนมแล้วขายยาอยู่นั้นถูกหรือผิดเพราะตั้งแต่เกิดจนโตเยาวชนในปัจจุบันก็เห็นสิ่งที่เรียกว่า “เน็ตไอดอล” มาโดยตลอดจนขนาดบางคนมองว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทำเงินได้ง่ายๆ ความเคยชินแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ยิ่งเมื่อเปรียบกับ “ลำไย ไหทองคำ” ที่โยกเพื่อแม่แล้วเรื่องของ “ลำไย” ดูจะซอฟท์ลงไปเลยทีเดียว