ข่าวของไฮโซดังแห่งจังหวัดภูเก็ต ขับรถยนต์ ซูบารุ Impreza ประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องของสาเหตุที่ชนยับแล้ว ประเด็นยี่ห้อและรุ่นรถยนต์คันดังกล่าว ยังกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ว่าช่างเป็นรถที่ดูธรรมดาเหลือเกิน แล้วคุณล่ะครับ หากนึกถึง “ซูบารุ” ภาพในหัวนึกถึงอะไร
รถสองแถวเล็ก ภาพจำ “ซูบารุ”
เรามักจะได้ยินคำที่เรียกชื่อรถสองแถวขนาดเล็ก ต่อ ๆ กันมาจากรุ่นคุณตา มาจนถึงรุ่นคุณพ่อ ว่า “รถซูบารุ” หรือบางคนเรียกว่า “รถกระป๊อ” (กั๊บป๊อ) ซึ่งอาจทำให้ที่เกิดภาพในหัวเมื่อนึกถึงรถยนต์ยี่ห้อนี้ ว่าเป็นรถขนาดเล็ก ราคาประหยัด และไม่ได้มีพิษสงใด ๆ ในด้านสมรรถนะ เนื่องจากจุดเริ่มของการนำรถประเภทนี้เข้ามาวิ่งในบ้านเรา ซูบารุ เป็นรถเจ้าแรก ๆ ที่เข้ามา
รถรุ่นดังกล่าว คือซูบารุ Sambar ครับ เป็นรถตู้เล็ก เครื่องยนต์ไม่เกิน 600 ซีซี ที่เริ่มต้นผลิตเจเนอเรชันแรกมาตั้งแต่ปี 1966 ส่วนรุ่นที่นำมาวิ่งเป็นรถสองแถวเข้าซอยในบ้านเรา คาดว่าเริ่มต้นที่เจเนอเรชันที่ 3 ในยุคปี 1980 ก่อนที่จะมีการนำรถลักษณะเดียวกันยี่ห้ออื่น ๆ เข้ามาวิ่งให้บริการ อย่างไรก็ดี การที่ซูบารุเป็นเจ้าแรก ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ติดปากเรียกยี่ห้อนี้ไปโดยปริยาย
ถ่ายทอด DNA แรลลี่สู่รถบ้าน
นอกจากรถไซส์เล็ก ซูบารุ ยังผลิตรถยนต์คอมแพ็กคาร์ทำตลาดควบคู่กันไปด้วย ก่อนจะเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตเต็มตัวตั้งแต่ยุค 80 มีทั้งผลิตเครื่องยนต์ป้อนทีมแข่งเอฟวันในปี 1990 รวมถึงส่ง ซูบารุ Impreza เจเนอเรชันแรก คว้าแชมป์แรลลี่ชิงแชมป์โลก (WRC) ปี 1995 จากผลงานรถ Impreza 4 ประตู สีน้ำเงิน เวอร์ชัน WRC ที่ขับโดย โคลิน แม็คเรย์ ตำนานนักขับชาวสกอต
โดยก่อนที่ Impreza เวอร์ชัน WRC จะคว้าแชมป์โลกครั้งแรกได้ ซูบารุยังผลิตรถเวอร์ชัน WRX ที่ย่อมาจาก World Rally Cross(X) ถ่ายทอดอารมณ์รถแข่งแรลลี่ ทั้งชุดพาร์ทและเครื่องยนต์ออกมาสู่รถบ้าน ต่อด้วยรุ่น WRX Type RA (RA ย่อมาจาก Rally group A) ที่เป็นพื้นฐานของรถแรลลี่ในยุคนั้น
เท่านั้นยังไม่พอครับ ในปี 1994 ยังมีตัวแรงมากไปกว่านั้น ภายใต้ชื่อต่อท้ายว่า WRX STI ซึ่งไอ้เจ้า STI ย่อมาจาก Subaru Tecnica International เป็นหน่วยงานย่อยของซูบารุที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาเครื่องยนต์ในสนามแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งการยกระดับสมรรถนะทั้ง WRX และ STI ก็กลายเป็นจุดขายเรื่อง “ความแรง” มาจนถึงทุกวันนี้
เครื่องยนต์สูบนอน (Boxer)
อีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์จากค่ายโลโก้ดาวลูกไก่ คือเครื่องยนต์สูบนอน หรือ Boxer เรียกตามลักษณะการชกของนักมวย ที่ปล่อยหมัดสวนกันออกไปตามแนวขนานกับพื้น ถูกนำมาใส่ในรถซูบารุทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 1965 ซึ่งต่างจากเครื่องยนต์ของรถเจ้าอื่นที่จะเป็นสูบวางตั้ง หรือเป็นสูบวางเอียง 2 ข้างเป็นแบบตัววี จุดเด่นของเครื่องยนต์ Boxer คือการที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เหมาะกับการเข้าโค้ง
ฉะนั้น ประเด็นการขับรถบนเส้นทางบริเวณใกล้ รร.บ้านอ่าวน้ำบ่อของเจ้าของโรงแรมคนดัง ว่าสมรรถนะของรถไม่เหมาะกับเส้นทางที่เป็นทางขึ้นลงเขานั้น คงตัดออกไปได้เลย เพราะซูบารุ Impreza คือรถที่ออกแบบมากับการขับบนเส้นทางประเภทนี้ ประกอบกับการที่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ยิ่งทำให้แม่นยำมากขึ้นในการเข้าโค้งและควบคุมรถขณะขับด้วยความเร็ว
ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์ แต่อย่าไปท้าทาย!
หากย้อนกลับไปดูรูปโฉมและวัสดุในการผลิต ซูบารุ Impreza WRX ตั้งแต่รุ่นแรก ต้องยอมรับว่าวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ ก็ไม่ต่างอะไรกับรถคอมแพ็กคาร์ญี่ปุ่นค่ายอื่น ๆ ทว่าสมรรถนะของมันคือสิ่งที่แฟนซูบารุและคนวงการรถยนต์รู้ดี ว่ามันสามารถขึ้นไปสู้กับซูเปอร์คาร์ราคาสิบกว่าล้านบาทได้เลย
เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว วิศวกรของซูบารุ สามารถพัฒนาเครื่องยนต์ EJ20G ความแรง 220 แรงม้า ที่อยู่ในรุ่น Legacy RS ให้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 240 แรงม้าได้ ทำให้ Impreza WRX รุ่นแรก เป็นรถคอมแพ็กคาร์ญี่ปุ่นที่แรงที่สุดในยุคนั้น ออกตัว 0-100 กม.ได้ภายใน 5.5 วินาที และทำท็อปสปีดได้ถึง 240 กม./ชม.
Impreza โฉมแรก ณ ปัจจุบัน
Impreza เจเนอเรชันแรก มีถึง 6 เวอร์ชัน มีรุ่นย่อยเยอะมาก ยังไม่นับรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาแบบลิมิเต็ด หากนับเฉพาะที่ผลิตจากโรงงานตั้งแต่ปี 1992 ถึงปี 2000 ก็มีบอดี้ถึง 3 แบบ ทั้ง 4 ประตูซีดาน, 5 ประตูแฮทช์แบ็ก และ 2 ประตูคูเป้ มีทั้งขับ 2 และขับ 4 ส่วนเครื่องยนต์ก็มีตั้งแต่ 1.5 ลิตร ไปจนถึง 2.5 ลิตร ราคามือสองสำหรับโฉม 4 ประตู ในตลาดบ้านเราจะอยู่ราว ๆ 4-7 แสนบาท
ทว่าเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า Impreza ที่ประกาศขายตามหน้าเว็บ เป็นเวอร์ชัน WRX แท้ ๆ จากโรงงานหรือไม่ ส่วนรุ่นที่ “แรร์” จริง ๆ โดยเฉพาะ 2 ประตูคูเป้ โฉมเดียวกับที่ไฮโซดังขับไปชนนั้น บอกเลยว่าชั่วโมงนี้หายากมาก หากจะให้เดาราคาถ้าสภาพสวย ๆ ก็น่าจะมีแตะหลักล้าน และยิ่งหากเป็น WRX ต่อด้วย STI แท้ ๆแล้วด้วย ยิ่งแพงไปกันใหญ่ครับ
สิ่งที่จะยืนยันได้คือรหัสรถครับ Impreza ขับ4 เวอร์ชัน WRX จากโรงงานทุกคัน จะต้องขึ้นด้วยรหัส GC8 ฉะนั้นคงไม่ต้องเดาหรือเถียงกันให้วุ่นวายว่ามันคือรุ่นใดกันแน่ เว้นแต่จะไปเปิดฝากระโปรงดูรหัสรถ หรือขอดูเล่มทะเบียน แบบนั้นถึงจะฟันธงได้
เอาเป็นว่าสำหรับผมถ้านึกถึงซูบารุ ผมจะนึกถึงความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาครับ รถที่คนทั่วไปมองดูไม่มีพิษสงอะไร แต่ใต้ฝากระโปรงของรถยี่ห้อนี้บอกเลยไม่ธรรมดาครับ