เป็นไปได้แค่ไหน! กับการ “ถอดถอน” โดนัลด์ ทรัมป์

ภาพจาก newsweek.com

เงื่อนงำในการปลด เจมส์ โคมีย์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังคงเป็นที่จับตามองของทั่วโลกว่า จะส่งผลต่อตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของ โดนัลด์ ทรัมป์ จนถึงขั้นโดนยื่นถอดถอนหรือไม่

ทั้งนี้ เป็นเพราะคำสั่งปลดดังกล่าว มีขึ้นในระหว่างที่เอฟบีไอกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหากรณีที่รัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งทรัมป์เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งและได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯคนใหม่

ล่าสุด โคมีย์เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในประเด็นที่ว่า ทรัมป์มีเจตนาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ หลังจากอดีตผอ.เอฟบีไอมีถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เขาถูกกดดันจากผู้นำสหรัฐฯ ให้ยกเลิกการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ กับ รัฐบาลรัสเซีย  ที่มีการติดต่อกันทางโทรศัพท์บ่อยครั้ง ซึ่งหากมีการใช้อำนาจเพื่อขัดขวางกระบวนยุติธรรมจริง ก็มีสิทธิ์ที่ทรัมป์จะถูกพรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างเดโมแครตยื่นเสนอให้ถอดถอดเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีได้

อย่างไรก็ตาม โคมีย์ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ทรัมป์มีคำสั่งให้เขายุติการสอบสวน โดยบอกเพียงว่าการสนทนากันระหว่างเขากับผู้นำสหรัฐฯ ที่มีขึ้นหลายครั้งนั้น ทำให้เขาเกิดความกังวลใจ  และมองว่าคำพูดของทรัมป์ส่อไปในทางชี้นำและร้องขอให้ยกเลิกการสอบสวนดังกล่าวเสีย แต่เขาไม่มีหน้าที่ตัดสินว่าทรัมป์พยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

แม้ผลสำรวจความเห็นของคนอเมริกันก่อนหน้านี้ จะมีเสียงสนับสนุนให้มีการยื่นถอดถอนทรัมป์จากตำแหน่งประธานาธิบดีในสัดส่วนที่มากกว่า (43 ต่อ 36 เปอร์เซ็นต์) แต่หลังคำให้การของอดีตผอ.เอฟบีไอที่ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับรัฐบาลรัสเซีย  ก็ส่งผลให้อัตราเดิมพันจากเว็บไซต์พนันที่ถูกกฎหมายสวนทางกัน

โดยพบว่าอัตราต่อรองที่ทรัมป์จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ไม่ครบวาระนั้นลดน้อยลงจากเดิม หากเทียบกับตอนที่เขามีคำสั่งปลดโคมีย์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อีกฝ่ายขาดหลักฐานที่ชัดเจนในการสนับสนุนว่า ทรัมป์มีเจตนาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

…เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่งจึงลดน้อยลงไปโดยปริยาย