SM กับคอนเสิร์ตออนไลน์ฟรีฉลองปีใหม่ Comeback อย่างสวยงาม?

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

หากจะพูดถึงค่ายเพลงเกาหลีใต้ยักษ์ใหญ่ที่โด่งดัง ชาวติ่งเกาหลีทั้งหลายจะต้องรู้จักค่าย SM Entertainment อย่างแน่นอน เป็นอันรู้กันว่าค่ายนี้ผลิตศิลปิน K-POP ที่โด่งดังระดับขึ้นหิ้งมามากมายทั้งทงบังชินกิ (TVXQ) ซูเปอร์จูเนียร์ (Super Junior :SJ) เกิร์ลเจเนอเรชัน (Girls’ Generation : SNSD) ชายนี่ (SHINee) โบอา (BoA) คังตะ (KangTa) ที่มีอายุงานในวงการมากกว่า 10 ปีแล้ว

ส่วนเอ็กโซ (EXO) เรดเวลเวต (Red Velvet) เอ็นซีที (NCT) ก็ยังมีกิจกรรมในวงการและมีแฟนคลับมากมาย และเกิร์ลกรุ๊ปวงล่าสุดที่ SM เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็คือ เอสปา (æspa) ก็ได้รับการตอบรับจากแฟนคลับเป็นอย่างดี

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

ด้วยการแข่งขันที่สูงมากในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ หลายบริษัทแข่งขันกันปั้นไอดอลทั้งศิลปินเดี่ยว เกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ ซึ่งก็มีทั้งวงที่ได้ไปต่อ และบางวงต้องยุติกิจกรรม หรือยุบวงไปอย่างน่าเสียดาย แต่ SM ก็ยังประคองตัวมาได้ด้วยฐานแฟนคลับเก่าที่ปัจจุบันเป็นวัยทำงานกันหมดแล้ว มีกำลังทรัพย์ที่จะเปย์หากศิลปินคัมแบ็กหรือค่ายออกสินค้าออฟฟิเชียลมาขาย

ด้วยศิลปินส่วนใหญ่ในค่ายเรียกได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของวงน้องใหม่หลายวง อายุของศิลปินส่วนใหญ่ในค่ายคือ 30+ รวมถึงก่อนหน้าเป็นช่วงที่ศิลปินชายเข้ากรมรับใช้ชาติเกือบจะพร้อมกัน (ด้วยอายุที่ไล่เลี่ยกัน) ทำให้กิจกรรมวงถูกพักชั่วคราว สมาชิกที่ยังกลับมาไม่ครบ วงก็ยังคัมแบ็กไม่ได้ บางวงจะมีจำนวนสมาชิกไม่ครบเท่าตอนเปิดตัว วงน้องใหม่ก็ดังขึ้นมาเร็วมากตามเทคโนโลยีที่ไวกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน SM Entertainment จึงเป็นค่ายเพลงเกาหลีที่ยักษ์ใหญ่ก็จริง แต่ก็เงียบหายจากเสียงฮือฮาไปพักใหญ่ ๆ

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

อย่างไรก็ดี ชื่อเสียงและชื่อเสียที่ควบคู่กันมา ชาวติ่งค่าย SM ก็รู้ดีเหมือนกันว่าค่ายอาจดูแลศิลปินไม่ดีเท่าที่ควร บางคนประสบปัญหาตกลงกับค่ายไม่ลงตัว บางคนถูกดองงานทั้งที่ยังไม่หมดสัญญา เมนของใครหลายคนมีปัญหากับค่ายถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล และเมนของใครหลายคนก็ฆ่าตัวตาย

การกลับมาของ SM เรียกว่า Comeback อย่างสวยงามได้หรือไม่

เป็นที่ฮือฮามากส่งท้ายปี 2020 เมื่อ SM Entertainment ประกาศจัดคอนเสิร์ตต้อนรับปีใหม่ในรูปแบบออนไลน์ฟรี หลังจากที่ไม่ได้จัดคอนเสิร์ตรวมค่ายมาพักใหญ่ โดยใช้ชื่อ SMTOWN LIVE “Culture Humanity” ปล่อยโปสเตอร์โปรโมทออกมาในวันที่ 27 ธันวาคม 2020 ส่งผลให้ชื่อคอนเสิร์ตทะยานติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย (และหลายประเทศ รวมทั้งเทรนด์โลก) ทันที ที่สำคัญ ติดเทรนด์ไทยอยู่นานหลายวัน (ติดข้ามปี) ไม่เพียงเท่านั้น เทรนด์ชื่อศิลปินที่ขึ้นคอนเสิร์ต หรือชื่อวงศิลปินก็ตามมาด้วย โดยกินพื้นที่ 1 ใน 3 ของเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยอยู่หลายวัน

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

สิ่งที่หลายคนตื่นเต้นกับคอนเสิร์ตนี้ เป็นเพราะไลน์อัปของศิลปินที่ขึ้นคอนเสิร์ต หลายวงเป็นวงที่เงียบจากการทำกิจกรรมไปนาน แต่แม้ว่าจะใช้ชื่อวงในการโปรโมทคอนเสิร์ต แต่ก็ไม่ใช่ทุกวงที่มีสมาชิกขึ้นครบ ทงบังชินกิ มีสมาชิกเหลืออยู่ 2 คน เป็นดูโอ (แต่ยังใช้ชื่อวง) เกิร์ลเจเนอเรชัน สมาชิกหลายคนหมดสัญญาและไม่ต่อสัญญากับค่าย มีสมาชิกที่เป็นศิลปินเดี่ยวขึ้นคอนเสิร์ต ชายนี่ หลังจากสมาชิกคนหนึ่งเสียชีวิต (เหลือสมาชิก 4 คน) สมาชิก 3 คนเข้ากรมรับใช้ชาติในเวลาใกล้เคียงกัน เพิ่งออกมาครบในช่วงปลายปี มีสมาชิกคนเดียวที่เป็นศิลปินเดี่ยวขึ้นคอนเสิร์ต เอ็กโซก็มีสมาชิกเพียง 2 คนที่ขึ้นคอนเสิร์ตเช่นกัน

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

ศิลปินทั้งหมดที่ขึ้นคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ประกอบด้วยศิลปินแนวหน้าของค่าย aespa, Red Velvet, NCT Dream, NCT 127, NCT U, WayV, แบคฮยอน EXO, ไค EXO, แทมิน SHINee, แทยอน Girls’ Generation, SuperM, Super Junior, TVXQ และคังตะ H.O.T.

คอนเสิร์ตจัดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2021 เวลาไทย 11.00 น. (เวลาเกาหลี 13.00 น.) LIVE สดผ่านทางสตรีมมิ่งของค่าย VLIVE, Beyond LIVE, YouTube, twitter, facebook, TikTok และ KNTV ของญี่ปุ่น พร้อมคำอธิบายการจัดคอนเสิร์ตที่ขึ้นเป็นภาษาต่าง ๆ หลายภาษา

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น กับคอนเสิร์ตออนไลน์ฟรีครั้งนี้ มีคนนับล้านที่รอหลังจากเห็นไลน์อัปศิลปิน โดยทำสถิติยอดผู้ชมสตรีมมากถึง 35.83 ล้านสตรีม จาก 186 ประเทศทั่วโลก สร้างสถิติใหม่สำหรับการชมคอนเสิร์ตออนไลน์ของเกาหลีที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ถึงความนิยมของศิลปินในค่ายที่ยังครองใจแฟนคลับทั่วโลกได้ พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังระดับโลกของศิลปินค่าย SM Entertainment และยังเป็นเทศกาลดนตรี K-POP ระดับโลกที่ก้าวข้ามขอบเขตพรมแดนในวันขึ้นปีใหม่ หลังจากนั้นก็มีคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่ศิลปินออกมาแสดงคำขอบคุณพร้อมอวยพรปีใหม่ให้กับแฟนคลับในหลาย ๆ ภาษาด้วย

นอกจากนี้ ความสำเร็จของคอนเสิร์ตฟรีที่ว่านี้ คือการที่ถูกชาวเน็ตพูดถึงกันหนาหู ชาวเน็ตบางคนวิเคราะห์ว่า คอนเสิร์ตนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้เพิ่มฐานแฟนคลับ เพราะการที่คนนั่งไถโทรศัพท์ผ่าน ๆ แล้วเห็นสตรีมสดนี้ขึ้นมา หลายคนอาจสะดุดภาพลักษณ์นักร้อง บางคนสะดุดเพราะเพลงเพราะ กระตุ้นให้เกิดการฟังต่อ ดูต่อ หากติดใจก็จะถูกศิลปินในค่ายตกเข้าด้อม จนต้องเปย์ให้กับศิลปินตัวเองเมื่อมีโอกาส นี่จึงเป็นคอนเสิร์ตฟรีที่ในอนาคตทำอะไรออกมาขายก็คงถอนทุนคืนได้ทุกบาททุกสตางค์ และยังเป็นฐานการเตรียมเดบิวต์ศิลปินใหม่ด้วย

คุณภาพคอนเสิร์ตสมกับที่เป็นค่ายใหญ่

ด้วยคอนเสิร์ตนี้ถูกจัดแบบออนไลน์ในลักษณะสตรีมสด ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของค่าย ยอดผู้ชมถึง 35.83 ล้านสตรีม จาก 186 ประเทศ ก็เป็นที่ชื่นชมของแฟนคลับหลายคน ที่กล่าวว่าคอนเสิร์ตมีภาพที่คมชัด สัญญาณก็ไม่กระตุก ทั้งที่มีการรับชมพร้อมกันกับคนอีกนับสามสิบล้านทั่วโลก

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

รวมถึงการไม่เสียเงิน ก็ทำให้คอนเสิร์ตนี้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นมา เพราะปกติการเข้าคอนเสิร์ตต้องซื้อบัตร และศิลปินที่ดังระดับโลกนี้บัตรก็ไม่ถูก ทั้งยังมีข้อจำกัดของแฟนคลับต่างชาติที่อาจไม่สามารถจะไปชมคอนเสิร์ตได้ถึงเวที แต่การมีคอนเสิร์ตไลฟ์สดให้ชมฟรี พร้อมกับคนที่ติ่งเหมือนกันอีกทั่วโลก ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงิน พรมแดน และไม่ต้องกังวลเรื่องโรคระบาด ติ่งสามารถดูคอนเสิร์ตได้บ้านใครบ้านมัน อยู่บนที่นอน กินข้าว อาบน้ำอยู่ก็ดูได้ ก็ทำให้ติ่งมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

รวมถึงคอนเสิร์ตของ SM ครั้งนี้ เป็นค่ายเดียวที่ทำคอนเสิร์ตฉลองปีใหม่แบบออนไลน์ ดูได้ฟรีทั่วโลก แฟนคลับหลายคนยังเหน็บแนมว่าเป็นค่ายใหญ่ที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้ฟรี ๆ เพราะต้องการจะอวดรวย (ค่ายอื่น) ส่วนขายติ่งเป็นเรื่องรอง ดังนั้น จะเรียกว่าเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะความสำเร็จของคอนเสิร์ต SM ในครั้งนี้ได้ใจติ่งทั่วโลก ทั้งยังตอบโจทย์คนเหงาที่ออกไปเที่ยวปีใหม่ไม่ได้ ได้แต่ไถโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน ก็เปิดดูคอนเสิร์ตศิลปินที่ตนรักได้ ไม่เสียเงิน ไม่ลำบากเดินทาง

การรอคอย คือสิ่งที่ทำให้ SM ได้ใจติ่ง

ทันทีที่ SM มีข่าวออกมาว่าจะจัดคอนเสิร์ต รวมถึงข่าวว่าศิลปินหลายวงเตรียมที่จะคัมแบ็ก ชื่อวงของพวกเขาก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในหลาย ๆ ประเทศทันที เพราะการรอคอยของบรรดาแฟนคลับถึงจุดสมหวัง หลายคนรอการกลับมาของศิลปินที่ชอบมายาวนานมาก

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

อีกสิ่งที่เป็นแผนดึงคนดูไว้ได้ตลอดเวลา 4 ชั่วโมง คือ การไม่บอกไลน์อัปหรือเวลาที่ขึ้นเวทีของศิลปิน ทำให้หลายคนที่รอดูเฉพาะวงที่ตนเองเป็นติ่งก็ไม่กล้าที่จะขยับไปไหน เพราะกลัวจะพลาดศิลปินของตัวเอง หลายคนที่ไม่ได้ดูผ่านโทรศัพท์จำต้องนั่งจ้องลุกไปไหนไม่ได้ เพื่อรอดูศิลปินตัวเอง ชื่อศิลปินหลายคนถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง มีแซวขำ ๆ บ้าง ชื่นชมบ้าง ให้สมกับการรอคอย

ถึงติ่งของ SM จะไม่ค่อยพอใจค่ายที่ปฏิบัติต่อศิลปิน เมื่อเกิดดราม่าขึ้น ทำให้ทางค่ายถูกแฟนคลับตำหนิ หรือถึงขั้นด่าทออยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่สิ่งที่วัดความนิยมของค่ายว่าถึงจะโดนด่ายังไงก็ไม่สนไม่แคร์ เพราะติ่งส่วนใหญ่รู้จักศิลปินทุกคนในค่าย ทุกคนแบบที่ใครหลายคนยังแยกหน้าตาไม่ออกว่าใครเป็นใคร จำชื่อได้ทุกคน ร้องได้เกือบทุกเพลง ถึงขั้นแซวกันว่า “เลือดเอสเอ็มมันข้นเกินกว่าจะลืมได้” ยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าถึงแม้ SM จะเป็นค่ายที่ติ่งหลาย ๆ คนนั่งด่านั่งสาปแช่งอยู่ทุกวัน แต่พอเพลงดังขึ้นเมื่อไรก็ร้องได้เต้นได้เกือบทุกเพลง

ภาพจาก Facebook : SMTOWN

ซึ่งจะน่าขนลุกมาก (และดังได้มากกว่านี้) หาก SM ทำคอนเสิร์ตรวมเพลงเก่าของวงเก่า (ที่ยังเป็นศิลปินของค่าย) เพราะในช่วงที่ K-POP เข้ามาทำการตลาดในบ้านเราใหม่ ๆ เพลงของศิลปิน SM หลายเพลงและหลายวง เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของวงการ K-POP เลยก็ว่าได้ ต่อให้ไม่ได้เป็นติ่งเกาหลีก็ต้องเคยได้ยิน หรือร้องท่อนฮุกได้แม้จะแปลไม่ออกก็ตาม จำท่าเต้นในตำนานได้ อย่างเพลง Sorry Sorry ของซูเปอร์จูเนียร์ Gee ของเกิร์ลเจเนอเรชัน Ring Ding Dong ของชายนี่ แค่ได้ยินทำนองก็นึกท่าออก เต้นตามได้ แค่เพลงขึ้นก็สามารถดำน้ำได้จนกว่าจะถึงท่อนฮุกที่ร้องได้เต็มปาก และยังเรียกติ่งยุคเก่ากลับบ้านได้ด้วย

การรอคอยของติ่งคือสิ่งที่ SM ตั้งใจขาย เช่น สมาชิกคนหนึ่งของเรดเวลเวตที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องหายไปพักรักษาตัวอยู่ร่วมปี กลับมาขึ้นคอนเสิร์ตได้ แฟนคลับที่รอคอยต่างดีใจที่เห็นเธอกลับมา พร้อมกับชื่นชมในความพยายามของเธอว่าสามารถแสดงโชว์ออกมาได้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ล่าสุดวันนี้ (6 มกราคม 2021) ทางค่ายก็คอนเฟิร์มว่าศิลปินหลายวงเตรียมคัมแบ็ก ได้แก่ ชายนี่ จะคัมแบ็กและโปรโมทงานเพลงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ส่วนซูเปอร์จูเนียร์ ก็มีข่าวแว่วว่าเตรียมแผนจะคัมแบ็กในช่วงเดือนมกราคม แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่แน่นอน รวมถึงศิลปินเดี่ยวในค่ายด้วยเช่นกัน ติ่งก็ตั้งใจรออย่างใจจดใจจ่อกันต่อไป

คงจะไม่ผิดนัก ดังที่ CEO แห่ง SM Entertainment ได้กล่าวว่า K-POP นั้นไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนไปแล้ว คอนเสิร์ตนี้จะเป็นตัวกลางที่ค่ายใช้สื่อสารกับแฟนคลับของศิลปินใช้บอกลาปี 2020 ไปด้วยกัน ซึ่งเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับคนทั้งโลก เพื่อให้ทุกคนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ คอนเสิร์ตฟรีจะนำความหวังและความสดใสกลับมาให้แฟนคลับทั่วโลก