บ่อยครั้งที่การสูญเสียชีวิตเกิดขึ้นเพราะความไม่พร้อมในด้านอุปกรณ์ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใด ๆ ขึ้น โอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุจึงลดน้อยลง และมักจะเสียชีวิตในระหว่างนำตัวส่งแพทย์ หรือเสียชีวิตเมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้ว
กรณีที่มีให้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง คือการเสียชีวิตระหว่างการเล่นกีฬาที่ร่างกายออกแรงหนัก ไม่ว่าจะกีฬาวิ่งมาราธอน, ฟุตบอล หรือแม้กระทั่งกีฬาแบดมินตัน
หากพบเห็นว่ามีผู้ใดหมดสติ หรือหยุดหายใจ และเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที โอกาสที่บุคคลนั้นจะฟื้นกลับมาเป็นปกติ โดยไม่เกิดความพิการ หรือไม่สูญเสียชีวิตก็มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งเครื่อง AED ที่เรามักเห็นอยู่ตามสถานที่ชุมชนถือเป็นฮีโร่ที่แพทย์ยืนยันว่าลดอัตราการเสียชีวิตได้ดีที่สุด
AED คืออะไร?
AED (Automatic External Defibrillator) คือเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์แบบพกพา ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการตรวจวิเคราะห์อาการหัวใจในที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วว่าต้องรักษาด้วยการใช้เครื่องนี้ช็อกไฟฟ้าหัวใจหรือไม่? รวมถึงมีประโยชน์ในการกู้ชีวิตเบื้องต้นระหว่างที่ผู้ป่วยยังไปไม่ถึงโรงพยาบาลด้วย
AED ใช้ในกรณีใดบ้าง?
- กรณีผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว และหมดสติ
- กรณีผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก และตามมาด้วยการหมดสติ
- กรณีผู้ป่วยได้รับอุบัติเหตุจากการถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติ
วิธีการใช้งาน
1. เปิดเครื่อง
เครื่อง AED บางรุ่นต้องกดปุ่มเปิดเครื่อง แต่บางรุ่นสามารถทํางานทันทีที่เปิดฝาครอบออก เมื่อเปิดเครื่องแล้วจะมีเสียงบอกว่าต้องทําอย่างไรต่อไปอย่างเป็นขั้นตอน
2. ติดแผ่นนําไฟฟ้าเข้ากับหน้าอกของผู้ป่วย
ในกรณีจําเป็น เราอาจต้องใช้กรรไกรหรือมีดตัดเสื้อของผู้ป่วยออก ซึ่งกรรไกรนี้จะมีมาให้ในชุดช่วยชีวิต จากนั้นต้องให้แน่ใจว่าหน้าอกของผู้ป่วยแห้งสนิทดี ไม่เปียกเหงื่อ หรือเปียกนํ้า โดยอาจต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าอกของผู้ป่วยให้แห้งเสียก่อน
จากนั้นลอกแผ่นพลาสติกด้านหลังแผ่นนำไฟฟ้าออก ติดแผ่นนำไฟฟ้า โดยดูตามรูปที่แสดงไว้บนเครื่อง ต้องติดให้แนบสนิทกับหน้าอกของผู้ป่วยด้วยความรวดเร็ว
แผ่นหนึ่งติดไว้ที่ใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา และอีกแผ่นหนึ่งติดไว้ที่ใต้ราวนมซ้ายด้านข้างลําตัว ตรวจดูให้แน่ใจว่าสายไฟฟ้าจากแผ่นนําไฟฟ้าต่อเข้ากับตัวเครื่องเรียบร้อย
3. ให้เครื่อง AED วิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
เครื่อง AED ส่วนใหญ่จะเริ่มวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจทันทีที่ติดแผ่นนําไฟฟ้าเสร็จ เครื่องบางรุ่นต้องให้กดปุ่ม “ANALYZE” ก่อน
ระหว่างนั้นห้ามสัมผัสถูกตัวผู้ป่วยห้ามแตะต้องตัวผู้ป่วย โดยให้ร้องเตือนดัง ๆ ว่า “เครื่องกำลังวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ห้ามแตะต้องตัวผู้ป่วย”
ถ้าเครื่อง AED พบว่าคลื่นไฟฟ้าของผู้ป่วยเป็นชนิดที่ต้องการการรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องจะบอกให้ทราบ
4. ทำการ SHOCK
ถ้าเครื่อง AED พบและแจ้งว่าคลื่นไฟฟ้าของผู้ป่วยเป็นชนิดที่ต้องการการรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้าหัวใจ ให้เตรียมกดปุ่ม SHOCK โดยต้องแน่ใจว่าไม่มีใครสัมผัสถูกตัวของผู้ป่วยระหว่างนั้น ควรร้องบอกดัง ๆ ด้วยว่า “คุณถอย ผมถอย และทุกคนถอย” ซึ่งก่อนกดปุ่ม “SHOCK” ให้มองซํ้าอีกครั้งเป็นการตรวจสอบครั้งสุดท้ายด้วย
เมื่อเครื่องบอกว่า ไม่ต้องช็อก หรือ “No shock is needed” หรือ “start CPR” แล้ว ให้เปิดเครื่อง AED ไว้ก่อนและให้เริ่มช่วยฟื้นชีวิตขั้นพื้นฐานทันที
ขั้นตอนการช่วยชีวิตพื้นฐาน
การ “ช่วยชีวิตพื้นฐาน” ที่ว่านี้ ให้ทําการกดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับช่วยหายใจ 2 ครั้ง ประมาณ 2 นาที หรือจนกว่าเครื่อง AED จะวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกครั้ง แล้วกลับไปยังข้อ 3 และ 4 ซึ่งสําหรับขั้นตอนที่ 1 และ 2 ไม่ควรใช้เวลาเกิน 30 วินาที และทําการช่วยเหลือรอจนกว่าความช่วยเหลืออื่นๆ จะตามมาต่อไป
ทั้งนี้เครื่อง AED เป็นเครื่องมือที่ประชาชนทั่วไปซึ่งได้รับการฝึกฝนการใช้งาน สามารถใช้เครื่องนี้ได้ และควรโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อทำตามคำแนะนำของผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
AED ควรมีที่ไหนบ้าง?
หากหวังจะใช้เครื่อง AED ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องติดตั้งไว้ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ที่เป็นที่ชุมชน มีผู้คนสัญจรไปมา ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้
- สถานีรถไฟ
- สถานีรถโดยสารประจำทาง
- สนามบิน ท่าเรือ
- บนเครื่องบิน รถไฟ หรือเรือโดยสารที่มีระยะทางไกล
- ฟิตเนส, สปอร์ตคลับ
- สนามกีฬา สนามแข่งขันขันกีฬาที่มีจำนวนคนมากๆ สนามกอล์ฟ
- ห้างสรรพสินค้า และย่านร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีคนมาใช้บริการประมาณ 5,000 คนต่อวัน
- สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
- สถานที่สาธารณะขนาดใหญ่ ศูนย์กลางชุมชน
- สถานพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุ
- อพาร์ตเมนท์ที่มีผู้สูงอายุมากกว่า 50 คน
- โรงเรียน โดยเฉพาะบริเวณสนามกีฬาของโรงเรียน
- บริษัท โรงงาน
- สถานที่ให้บริการต่าง ๆ ที่มีคนพลุกพล่าน สถานบันเทิง
- โรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่
ข้อมูล : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) / มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย