ยามที่ “อาทิตย์อัสดง” คุณจะพบกับความลับบางอย่าง

ภาพจาก Facebook.com/WeTV Thailand

ช่วงนี้หลายพื้นที่น่าจะเริ่มได้สัมผัสอากาศเย็น ๆ กันบ้างแล้ว ฤดูหนาวที่รอคอยมาถึงแล้ว เอาจริงมันก็รู้สึกดีนะ (ทรมานก็แค่เวลาอาบน้ำนี่แหละ) แต่ก็ต้องยอมรับว่าลมหนาวทำให้จิตใจคนเรารู้สึกเหงาอยู่ไม่น้อย ยิ่งถ้าใครปล่อยให้ตัวเองอยู่ว่าง ๆ ล่ะก็ อาจจะฟุ้งซ่านเอาได้

ถ้าอย่างนั้น หนาวนี้เรามาหาซีรีส์ที่ทำให้ใจเต้นเร็ว เต้นแรง และเลือดสูบฉีดดีกันดีกว่า รับรองว่าใครที่มีอาการเหงา ๆ เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร คุณจะเบื่อไม่ลงถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้

อาทิตย์อัสดง (After Dark) เป็นซีรีส์สยองขวัญไทยภายใต้การผลิตของ WeTV โดยจะออนแอร์ผ่านทาง WeTV เท่านั้น ช่วงที่ผ่านมาเราอาจจะรู้จัก WeTV ในฐานะแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสัญชาติจีน ชูโรงด้วยซีรีส์จีนซับไทย ซีรีส์เกาหลีก็มีอยู่มาก ส่วนละครไทยที่เอาลงให้ดูย้อนหลังใน WeTV ก็มีเหมือน แต่วันนี้ WeTV ผลิตคอนเทนต์เป็นของตัวเอง อาทิตย์อัสดงจึงเป็น WeTV Original Series ที่งานดีระดับเกินความคาดหมายเลยทีเดียว

ใครที่กลัวผี จิตอ่อน หวาดระแวง แนะนำว่าให้ข้ามเรื่องนี้ไปเลย (แต่อยากให้กัดฟันดูเพราะมันดีมากจริง ๆ) อาทิตย์อัสดง เป็นซีรีส์สยองขวัญที่มีเรื่องย่อย 4 เรื่อง คือ เชื้อหลอนออนไลน์ (Blind Date), เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย (Requiem of the Adolescent), ช่อง ส่อง ตาย (Death Channel) และรูมรณะ (Into the Hole) ลักษณะการเดินเรื่องจะแยกเป็นตอนใครตอนมัน ครบ 3EP จบหนึ่งเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ปกติเสพละคร เสพซีรีส์แบบดูเอาอารมณ์ ไม่เน้นวิเคราะห์ เพราะมันจะตัดจบดื้อ ๆ แบบ “อิหยังวะ” ขนาดดูไม่คิดอะไรยังงง

ภาพจาก Facebook.com/WeTV Thailand

ที่จริงมันก็น่าหงุดหงิดนิดหน่อยกับการตัดจบแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แค่กะพริบตาทีเดียวเอ๋อไปยาว ๆ แต่เข้าใจว่ามันเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้คนอยากดูต่อ เพราะเขาตั้งใจให้เรื่องย่อย ๆ 4 เรื่องมันผูกโยงเข้าหากัน แม้ว่าพล็อตของแต่ละเรื่องจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่จุดร่วมอยู่ที่ตัวละครที่เชื่อมโยงกัน ก็เหมือนกับจำลองชีวิตคนเราขึ้นมา เพราะวันหนึ่ง ๆ เราอาจไปเดินชนใครเข้า เหยียบเท้าใครโดยบังเอิญ กล่าวขอโทษกันก็จบ เมื่อจบจากเหตุการณ์นั้น เราก็กลับมาใช้ชีวิตในพล็อตของเราต่อ แต่ใครจะรู้ว่ามันอาจโยงไปหาคนคนนั้นด้วยก็ได้

แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าการที่แต่ละตอนมันจบแบบไม่เคลียร์แล้วมันจะคาใจไปตลอดชีวิต เพราะผู้ผลิตเขาตั้งใจให้เป็นอย่างนี้ เพื่อหลอกพวกเราทั้งหมดที่ติดกับตกหลุมพรางดูตอนแรกไปแล้ว ต้องดูให้จบไปยัน EP สุดท้าย ซึ่งก็คือ EP13 ที่จะเป็นบทสรุปของทั้ง 4 เรื่องนี้

เหตุการณ์ทันสมัย เดินเรื่องภายใต้บริบทสังคมไทย

ถ้าดูบทสนทนาของตัวละคร ค่อนข้างแน่ใจว่าเพิ่งจะถ่ายทำกันไม่นาน เพราะมันทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ COVID-19 ก็มี สงครามระหว่างไดโนเสาร์ล้านปีกับเด็กเมื่อวานซืนก็มา ตัวละครด่ากันทีมีสะเทือน แถมบรรยากาศเรื่องก็ชวนขนลุกหดหู่อยู่ไม่น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องมันเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมืองเราจริง ๆ แค่นำเสนอในมุมสยองขวัญ และเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ ส่วนตัวมั่นใจว่าเขาไม่ได้จะสื่อเรื่องความเชื่อเรื่องลี้ลับอะไรหรอก แต่น่าจะหมายถึงใจคนนี่แหละที่ลึกลับเกินคาดเดา

เรื่องแรก นำเสนอประเด็นที่ผู้คนเสพติดโซเชียล นัดเจอผู้ชายที่รู้หน้าไม่รู้ใจมานอนด้วย เป็นที่มาของโรคติดต่อและการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง และมิตรภาพที่อยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนไปโดยไม่มีที่มาที่ไป

ภาพจาก Facebook.com/WeTV Thailand

เรื่องที่สอง นำเสนอประเด็นชนชั้นทางสังคม การถือยศถืออย่าง การฟาดฟันระหว่างคนรุ่นเก่าที่ยึดติดอยู่กับอะไรเดิม ๆ กับเด็กรุ่นใหม่ที่ตั้งคำถามกับทุกอย่างที่โดนกรอกหูมาแต่เด็ก และที่สำคัญสังคมไทย (และโลก) กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนแก่มีมาก เด็กเกิดใหม่มีน้อย ในเมื่อต่างคนต่างไม่ยอมกัน ผู้สูงอายุจะอยู่อย่างไรในสภาพที่ตนเองลุกขึ้นมาต่อกรกับใครไม่ไหวแล้ว แต่ก็ต้องหวังพึ่งเด็ก

เท่าที่อ่านจากเรื่องย่อ เรื่องที่สาม น่าจะมุ่งไปที่ประเด็นการนำเสนอคอนเทนต์ของคนที่เรียกตัวเองว่าสื่อ ตั้งอาชีพใหม่อย่าง YouTuber เพื่อหากิน และเรื่องที่สี่ เป็นประเด็นทางเพศที่เป็นปัญหาสังคม เรื่องล่วงละเมิดทางเพศและการแอบถ่ายคลิปอนาจาร ซึ่งเพิ่งเป็นประเด็นสด ๆ ร้อน ๆ ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเรื่องปิดเว็บโป๊ PornHub ที่มีการนำคลิปแอบถ่ายเหล่านั้นมาลงเว็บอย่างผิดกฎหมาย มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อมากมาย

คำเตือน! ห้ามดูตอนกินข้าว

ดูจนถึง EP ล่าสุด ซึ่งก็คือ EP4 ก็พอจะบอกได้ว่าถึงจะดูเป็นซีรีส์ผี แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ผีจ๋าขนาดนั้น คือมันไม่ได้น่ากลัวว่าจะมีผีโผล่ออกมาทำให้ตกใจบ่อย ๆ คือก็มีแหละ แต่ออกแนวหลอน ๆ สร้างอารมณ์ให้เราระแวงพื้นที่รอบ ๆ ตัวมากกว่า เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในซีรีส์มันใกล้เคียงกับความเป็นจริงและใกล้ตัวมากเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น ใครที่ไม่ชอบความขยะแขยงก็ไม่แนะนำ (แต่ดูเถอะ หลับตาเอา) และห้ามดูตอนกินข้าว กินขนม กินอะไรก็แล้วแต่โดยเด็ดขาด เพราะหลาย ๆ ฉากมันเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล สิ่งอุจาดตาเยอะพอสมควร ซึ่งมันน่ากลัวกว่าผีอีก ผีไม่ได้มีมาบ่อย ไม่ได้ตุ้งแช่จนน่ารำคาญ เอฟเฟกไม่น่ากลัว แต่โผล่มาทีไรก็ตกใจอยู่พอตัว

4 เรื่อง 4 พล็อต แต่ความหลอนที่ต่อเนื่องกัน

ด้วยความที่ซีรีส์แบ่งออกเป็น 4 เรื่องย่อย มีพล็อตเรื่องใหญ่คุมไว้ แต่ละเรื่องมีเรื่องเล่าเป็นของตัวเองที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลอนในแบบของตัวเอง แต่สิ่งที่เชื่อมโยงกันไว้คือตัวละคร ที่จะพาเราไปหาบทสรุปใน EP สุดท้าย ที่เขาตั้งใจให้มันเป็น EP13 หลังจากที่ทุกตอนจบพล็อตของมันเองแล้ว ล่าสุดซีรีส์ออนแอร์แล้ว 4 ตอน จบไปแล้ว 1 เรื่องย่อย (ตอนที่ 5 มาคืนนี้ 20.00 เปิดแอปฯ WeTV ดูเลย แต่รู้สึกว่าต้องสมัคร VIP)

ภาพจาก Facebook.com/WeTV Thailand

เรื่องแรก เชื้อหลอนออนไลน์ (Blind Date) ว่าด้วยเรื่องราวของสาวหน้าตาดีดีกรีนักวิจัยห้องแล็บโรงพยาบาลงานของเธอคือหาเชื้อโรค และวินิจฉัยโรคจากตัวอย่างที่เก็บจากคนไข้ วัน ๆ เธอทำงานเสี่ยงเชื้อโรคมากมาย แต่ประเด็นมันอยู่ที่เธอเสพติดการใช้แอปฯ หาคู่เพื่อนัดเดตกับหนุ่ม ๆ มาก จะเรียกเดตก็ไม่ค่อยถูกนัก เพราะมันเป็นการเจอกันเพื่อ One Night Stand มากกว่า

อยู่มาวันหนึ่งเธอก็เจอเข้ากับหนุ่มหล่อ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบที่ไม่ได้ป้องกัน จนเป็นที่มาของการติดเชื้อประหลาด การตั้งครรภ์พิสดารที่เด็กในท้องดูเป็นปีศาจมากกว่าคน และวิญญาณเด็กที่ตามหลอกหลอน เรื่องนี้จบไปแล้ว แม้ว่าจะยังมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

เรื่องที่สอง เพลงสวดศพแห่งผู้เยาว์วัย (Requiem of the Adolescent) เรื่องราวของพยาบาลสาวจบใหม่ที่ได้รับข้อเสนอเป็นเงินจ้างก้อนโตให้มาดูแลผู้ป่วยติดเตียงคนหนึ่งที่เป็นหม่อมเจ้า เธอต้องย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์เก่าที่ดูแล้วอาจจะเป็นวังเมื่อครั้งรุ่งเรือง ปัญหาบางอย่างทำให้เธอต้องแอบพาแม่มาอยู่ในคฤหาสน์ด้วยแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ

แต่สิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้นจนได้ แม่ของเธออ่อนแอลงเรื่อย ๆ ตรงกันข้าม หม่อมเจ้าที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงคนนั้นกลับแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องนี้เพิ่งออนแอร์ไป EP เดียว ถ้าอยากรู้เรื่องราวต่อตามดูได้คืนนี้

เรื่องที่สาม ช่อง ส่อง ตาย (Death Channel) เรื่องราวของ YouTuber หนุ่มตกอับ จึงชวนเพื่อนสมัยมัธยมมาทำช่องรายการลี้ลับ “อาทิตย์ อัสดง” ด้วยกัน ช่องของพวกเขาได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ จากการสนับสนุนของ Account ปริศนา ทำให้ทั้งคู่มีชื่อเสียงมากขึ้น รายได้มากขึ้น แต่ก็มีบททดสอบความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกันด้วย แถมยังต้องหาเป้าหมายที่แท้จริงของ Account ปริศนานั้นด้วยว่าคืออะไรกันแน่

ภาพจาก Facebook.com/WeTV Thailand

และเรื่องสุดท้าย รูมรณะ (Into the Hole) เป็นเรื่องของหนุ่มหล่อคาสโนว่าที่ชอบหลอกผู้หญิงไปนอนด้วย และแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ เขามีรายได้หลักจากการนำคลิปลับพวกนี้ไปขาย กระทั่งเขาได้พบกับยิ่งสาวลึกลับคนหนึ่ง เธอสวยและมีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย เขาหลงกลเธอ โดยพยายามเข้าหาเพื่อหลอกให้ไปนอนด้วยและแอบถ่ายคลิป แต่เรื่องก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด

เอาเป็นว่านี่คือซีรีส์ไทยน่าดูอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ ไม่รู้ว่าช่วงอีกเดือนเศษ ๆ ก่อนหมดปี วงการละครบ้านเราจะสรรหาทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจแบบนี้อีกหรือเปล่า จะมีซีรีส์สักกี่เรื่องที่นักแสดงเล่นกันแบบไม่ห่วงลุคสวยหล่อ แถมเนื้อหาก็ตีเหตุการณ์บ้านเมืองได้กระจุย กล้าพูดเลยว่าคงมีไม่กี่คนที่คิดจะเสนอเรื่องราวทางสังคมในมุมของซีรีส์สยองขวัญหรอก เอ๊ะ! หรือว่าสิ่งที่น่ากลัวจะไม่ใช่ผี แต่คือจิตใจของคน น่าเศร้าอยู่นะที่มนุษย์ทำร้ายกันเอง TT