แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งทำให้คนกลุ่มนี้อาจมีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย มีผลให้การใช้จ่ายในประเทศซบเซาตามไปด้วย
ดังนั้น เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย รัฐบาลจึงได้มีมาตรการช่วยค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนจำนวน 15 ล้านคน และกลุ่มร้านค้ารายย่อย โดยเน้นที่ร้านค้ารายย่อย แผงลอย หาบเร่ ประมาณ 80,000 แห่ง ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนคนละไม่เกิน 3,000 บาท ภายใต้ชื่อโครงการ “คนละครึ่ง” ดำเนินการผ่าน www.คนละครึ่ง.com ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลทำขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศเช่นเดียวกับโครงการชิมช้อปใช้นั่นเอง
โดยโครงการนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้า ทางรัฐบาลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และ Tonkit360 จะนำมาอัปเดตให้ทราบเช่นกัน แต่ ณ ขณะนี้มีรายละเอียดโครงการคร่าว ๆ ดังนี้
หลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์โครงการ “คนละครึ่ง”
- เป็นผู้ที่ถือสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- การเข้าร่วมโครงการสมัครแบบใครมาก่อนได้ก่อน จำกัดจำนวน 15 ล้านคน
- รอเงื่อนไขเพิ่มเติม (ถ้ามี)
เงื่อนไขในการใช้จ่ายโครงการ “คนละครึ่ง”
- รัฐบาลจะมอบเงินให้คนละไม่เกิน 3,000 บาท และจำกัดการใช้จ่ายต่อคนตลอดโครงการ
- ใช้ได้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท
- การซื้อของเป็นไปในลักษณะ “ร่วมจ่าย” คือ รัฐบาลช่วยจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ซื้อต้องจ่ายเอง
- ใช้จ่ายกับผู้ประกอบการแผงลอย หาบเร่ ร้านค้าริมทาง ครอบคลุมค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค แต่ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
- ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมด 3 เดือน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนธันวาคม 2563
- ดำเนินการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย)
ข้อมูลจาก Facebook.com : ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha