นิยามรักผู้นำคนใหม่ฝรั่งเศส “พรหมลิขิต” หรือจะสู้ “เราลิขิต”

ภาพจาก Paris Match

คำพูดที่ว่า  “คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน” มักถูกนำมาใช้กับเรื่องของ “ความรัก”  ที่มีอุปสรรคมาขวางกั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะทาง, ความแตกต่างทางชนชั้น หรือแม้กระทั่งเรื่องอายุ เหมือนคู่ของ เอ็มมานูเอล มาครง ว่าที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสวัย 39 ปี  กับ บริจิตต์ โทรนเญอซ์ ภริยาที่มีอายุมากกว่า 24 ปี

แต่ “พรหมลิขิต” ก็อาจมีอานุภาพสู้ “เราลิขิต” ไม่ได้ เพราะหากทั้งคู่ไม่มีความพยายามมากพอ ความรักก็อาจจบลงตั้งแต่ถูกครอบครัวของฝ่ายชายขัดขวางเมื่อ 13 ปีก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของมาครงกับบริจิตต์ อาจเริ่มต้นอย่างไม่ถูกทำนองคลองธรรมนัก เมื่อฝ่ายหญิงในวัย 40 ปี มีครอบครัวอยู่แล้ว ขณะที่นักเรียนหนุ่มวัย 15 ปี ก็ไม่ละความพยายามที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณครูสอนการแสดงที่ตนเองชื่นชอบ

โดยมาครงขอร้องให้บริจิตต์ช่วยสอนและปรับแก้การเขียนบทละคร “The Art of Comedy” ของเอดูอาร์โด เด ฟิลิปโป ให้เป็นการส่วนตัว จึงทำให้ทุกๆ วันศุกร์ ทั้งคู่มีโอกาสได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานเป็นพิเศษ

ภาพจาก www.thelocal.fr

“ทุกวันศุกร์ ผมจะใช้เวลาอยู่กับเธอเพื่อเขียนบทหลายชั่วโมง เราได้คุยกันทุกเรื่อง และผมก็พบว่าเราต่างรู้จักกันและกันดีมาก”

ขณะที่บริจิตต์เองก็ยอมรับช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมาก และทำให้เธอเผลอไผลไปด้วยเช่นกัน

แต่เมื่อความสัมพันธ์ล่วงรู้ถึงครอบครัวของมาครงก็กลายเป็นอุปสรรคชิ้นโต เพราะแม้บริจิตต์จะมาจากครอบครัวของมหาเศรษฐี ที่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตช็อคโกแลตมีชื่อทางตอนเหนือของฝรั่งเศส แต่สถานะครูและลูกศิษย์ก็ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จึงทำให้ทั้งคู่ถูกแยกจากกัน โดยมาครงถูกส่งไปเรียนต่อที่กรุงปารีสในวัย 17 ปี ขณะที่บริจิตต์ถูกสามีนายธนาคารขอแยกทาง

แต่ความห่างของระยะทางก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะทั้งคู่ยังคงติดต่อกันทางโทรศัพท์  หลังมาครงประกาศชัดเจนว่า ถึงอย่างไรก็จะแต่งงานกับคุณครูที่เขาหลงรักให้ได้  ก่อนที่ภายหลังบริจิตต์จะย้ายมาใช้ชีวิตในกรุงปารีส และตามหากันจนเจอ

“เราคุยโทรศัพท์กันตลอดเวลา คุยกันหลายชั่วโมง และความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปทีละเล็กละน้อย จนในที่สุด เขาก็เอาชนะใจฉันได้ด้วยความอดทนล้วนๆ”

ภาพจาก Paris Match

อย่างที่ทราบกันว่าบริจิตต์จบความสัมพันธ์กับสามีคนแรก อ็องเดร-หลุยส์ โอซิแยร์ ไม่ค่อยสวยนัก แต่สำหรับ ทิเฟน โอซิแยร์ ลูกสาวคนเล็กของเธอที่เป็นนักกฎหมาย กลับไม่มีปัญหาใดๆ กับพ่อเลี้ยงอย่างมาครง แถมยังอยู่ในทีมรณรงค์หาเสียงของมาครง และเคยชื่นชมเขาออกสื่อว่าเป็นคนที่มี “บุคลิกที่พิเศษ” และเป็น “คนฉลาด” ด้วย

ขณะที่มาครงก็เคยกล่าวขอบคุณลูกๆ ของบริจิตต์ ในพิธีวิวาห์ของเขาเมื่อปี 2007 ที่ลูกๆ ทั้งสามคนของบริจิตต์เป็นกำลังใจให้กับความรักของพวกเขามาตลอด พร้อมทั้งบอกด้วยว่า “แม้ว่าคู่ของเราไม่เหมือนใคร แต่ก็เป็นคู่รักที่มีอยู่จริง”

อย่างไรก็ตาม ด้วยความห่างของอายุที่มากกว่ากันถึง 24 ปี ทำให้ในช่วง 8 ปีแรกที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน มาครงไม่อาจเปิดเผยความสัมพันธ์กับภริยาต่อที่สาธารณะได้ แต่พอคิดจะเปิดตัวทีก็สร้างความฮือฮาอย่างมาก เมื่อเลือกควงบริจิตต์ออกงานใหญ่ที่พระราชวังเอลีเซ่ (ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส) ในเดือนมิถุนายน ปี 2015

ควงภริยาเปิดตัวครั้งแรกในงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบรัฐพิธี เมื่อปี 2015 (ภาพจาก www.thelocal.fr)

โดยงานดังกล่าวเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบรัฐพิธี ที่มีสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเป้ที่ 6  และสมเด็จพระราชินีเลตีเซียแห่งสเปน เสด็จฯ ไปเป็นอาคันตุกะของรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งขณะนั้น มาครงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจในรัฐบาลของฟรองซัวส์ โอลลองด์

มาครงเคยให้สัมภาษณ์รายการทีวี  BMFTV ด้วยว่า เขาและบริจิตต์ตัดสินใจว่าจะไม่มีลูกด้วยกัน  และตอนนี้ก็มีสถานะเป็นคุณตา(เลี้ยง)ของหลานๆ ทั้ง 7 ของบริจิตต์แล้ว จึงไม่อยากให้เกิดความแตกต่างในเรื่องอายุ หรือเกิดการแบ่งความรักให้แก่กัน

แม้ก่อนหน้านี้ เคยมีกระแสข่าวออกมาว่า มาครงมีรสนิยมชายรักชายจนตกเป็นข่าวกับ มาติเยอ กัลเล่ต์ ซีอีโอสถานีวิทยุ Radio France แต่ตลอดระยะเวลากว่า 24 ปีของความรักที่เขามีต่อบริจิตต์ก็คงพิสูจน์ได้แล้วว่า ไม่ใช่ “รักบังหน้า” แต่อย่างใด