
ชั่วโมงนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ “บริจิตต์ โทรนเญอซ์” ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส ผู้ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เอ็มมานูเอล มาครง ผู้เป็นสามี ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส คนที่ 25
อย่างที่ทราบกันดีว่า มาครงมีอายุน้อยกว่าภรรยาถึง 24 ปี และเคยมีสถานะเป็นลูกศิษย์ของบริจิตต์มาก่อน สมัยที่เขาศึกษาในระดับมัธยมที่โรงเรียน La Providence Jesuit ในเมืองอาเมียงส์บ้านเกิด

ณ ตอนนั้น บริจิตต์ ในวัย 40 ปี ซึ่งเป็นครูสอนการแสดง ยังมีสถานะเป็นภรรยาของนายธนาคาร อ็องเดร-หลุยส์ โอซิแยร์ รวมถึงเป็นคุณแม่ของลูกๆ ทั้งสาม (เซบาสเตียง, โลร็องซ์ และทิเฟน) ซึ่งโลร็องซ์ ลูกสาวของเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของมาครงด้วย โดยทั้งคู่มีอายุ 15 ปีเท่ากัน
แต่หลังจากมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริจิตต์กับมาครง หนุ่มน้อยผู้หลงรักครูสาวอย่างหัวปักหัวปำ ลอยเข้าหูโอซิแยร์ผู้เป็นสามี จึงส่งผลให้เขาตัดสินใจแยกกันอยู่กับบริจิตต์ ทั้งที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานถึง 20 ปี นับตั้งแต่เข้าพิธีวิวาห์ เมื่อปี 1974 ก่อนที่มาครงจะเกิดเสียด้วยซ้ำ
ขณะที่ครอบครัวของมาครงเองก็ไม่พอใจเช่นกัน จึงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการส่งเขาไปเรียนที่ Lycée Henri-IV โรงเรียนชื่อดังในกรุงปารีส ขณะที่มีอายุ 17 ปี แทนที่จะให้เรียนชั้นปีสุดท้ายที่โรงเรียนเดิม แต่มาครงบอกกับครูสาวก่อนจากกันว่า “ไม่ว่าอย่างไร ผมก็จะแต่งงานกับครูให้ได้”

หลังแยกทางกับสามี บริจิตต์ย้ายจากเมืองอาเมียงส์มาใช้ชีวิตที่กรุงปารีส จนกระทั่งได้พบกับมาครงอีกครั้งในปี 2004 หรืออีก 10 ปีให้หลัง ขณะที่อดีตลูกศิษย์ในวัย 27 ปี ศึกษาอยู่ที่ École nationale d’administration (ENA) สถาบันการปกครองชั้นสูงแห่งชาติฝรั่งเศส ทั้งคู่จึงได้กลับมาสานความสัมพันธ์กันอีกครั้ง
ในปี 2006 บริจิตต์และโอซิแยร์หย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการ จึงเปิดทางให้เธอใช้ชีวิตคู่กับมาครงได้อย่างเปิดเผย ก่อนจะมีพิธีสมรสกันในปี 2007 ขณะที่บริจิตต์มีอายุ 54 ปี และมาครงกำลังจะมีอายุครบ 30 ปี
ณ เวลานั้น เธอเองก็คงไม่ทันได้คาดคิดว่า อีก 10 ปีให้หลัง จะได้เปลี่ยนสถานะอีกครั้ง มาเป็น “สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” ในวัย 64 ปี!
