เดินท้องปริ่มอิ่มจุก ๆ กันที่ ‘ลาดพร้าวหนึ่งร้อยหนึ่ง’

สวัสดีครับทุกคน พบกันอีกเช่นเคยกับผม Rookie กล้องฟิล์มและน้องจุลินทร์ ซึ่งสำหรับวันนี้ เราได้ไปเดินเที่ยวกินกันจุก ๆ ที่ย่านลาดพร้าว ในซอยสัญจรที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองย่อยในซอยใหญ่ นั่นก็คือ “ลาดพร้าว101”

ไม่พิมพ์พร่ำทำเรียงความงั้นผมขอเริ่มเลยแล้วกัน สำหรับวันนี้ร้านแรกที่หน้าร้านกระแทกตาและเมนูน่ากระแทกปากก็คือ URBAN STREET เป็นร้านที่เน้นเมนูสเต๊กเป็นหลัก

เวลาที่ผมเดินทางมาถึงที่ร้านนั้นเป็นช่วงเวลาที่ร้านเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นลูกค้าคนแรกของร้านเลยสำหรับวันนี้ เมื่อพลิกหน้าเมนูไปมาปรากฏว่าสายตาก็พลันไปสะดุดเข้ากับเมนูจัดเต็มที่มีชื่อว่า “ถาดปราบเซียน” ซึ่งเป็นเมนูที่รวมทีเด็ดของทางร้านไว้ในจานเดียว

ถาดปราบเซียน

มีทั้งสเต๊กหมู, เนื้อ, ไก่, ปลา, ซี่โครงบาร์บีคิว, ไส้กรอก, สลัด เรียกได้ว่าจานหลักทั้งนั้น พร้อมทั้งของเสริมอย่างเฟรนช์ฟรายด์และหอมทอด แค่แว้บมองพลันน้ำลายก็สอเสียแล้ว และจะรีรอทำไมกัน

หลังสูดหายใจเฮือกใหญ่ผมก็บรรเลงเพลงส้อมและกระบี่สั้นอาวุธคู่ใจละเมียดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทีละเล็กละน้อย อันนั้นคำอันนี้คำสลับไปสลับมา สวมวิญญาณนักชิมลิ้นเทพลิ้มรสชาติอาหารในถาดนี้ จนสุดท้ายเพลงกระบี่ก็จบลงกับผลที่ได้คือท้องที่อิ่มหนำ แต่เชื่อสิยังไม่จุกเท่าไหร่

แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ในช่วงครึ่งปลายของเดือนกันยายนกันแล้ว แต่ร้านต่อไปผมจะพาทุกคนย้อนเวลาไป มีนา ก็แล้วกัน เพราะความโอชะลำดับถัดไปเรามาต่อกันที่ร้าน มีนา ซึ่งเป็นร้านอาหารฟิวชั่นไทย-อิตาเลี่ยน จำไว้นะครับ ไทย-อิตาเลี่ยน คือสไตล์อาหาร แต่ถ้า อิตาเลี่ยน-ไทย คือบริษัทรับเหมาก่อสร้างนะครับ อย่าสับสนกันนะ

ที่ มีนา นี้แม้ไม่เห็นนาสักผืน แต่ที่นี่อบอวลไปด้วยบรรยากาศร้านที่น่านั่งชิลล์อย่างแวรงเลยนิ

แอร์เย็นฉ่ำ ๆ คลอด้วยดนตรีสบายหู ถ้านั่งนิ่ง ๆ สัก 10 นาทีรับรองว่ามีหลับ แต่คงหลับไม่ได้เพราะเราต้องสั่งอาหารที่ทางร้านแนะนำมาชิมสักหน่อย ซึ่งก็ได้มา 2 เมนูด้วยกัน คือสปาเก็ตตี้มันกุ้ง และ เนื้อย่างจิ้มแจ่ว

เป็นสองเมนูที่มีสไตล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสำหรับสปาเก็ตตี้มันกุ้งนั้นเมื่อได้ลองทานแล้วต้องร้องว่า เวรี่หอม เพราะส่วนที่เด่นที่สุดคือความเป็นมันกุ้งที่มีกลิ่นโดดออกมาเมื่ออยู่ในปาก และสำหรับเนื้อย่างจิ้มแจ่วนั้นก็ต้องบอกว่า แซ่บอีหลี เนื้อย่างหอม ๆ นุ่ม ๆ เพราะไม่สุกจนเกินไปหั่นแบบพอดีคำจิ้มแจ่วทีเด็ดแห่งความเปรี้ยว ซึ่งน่าจะเป็นความเปรี้ยวจากมะขามเปียก เปรี้ยวจี๊ดหอม ๆ กันไป

ลำดับถัดไป(ยังจะมีอีกเหรอ) ยังครับ ยังมี ซึ่งในละแวกใกล้ ๆ กันนั้นมี Happy Avenue เป็นแหล่งร้านอาหารอยู่ ซึ่งได้ไปเจอกับร้านซูชิร้านหนึ่ง ชื่อว่า มาซารุ ซูชิ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นโดยชู ซูชิ เป็นเมน มีให้เลือกทานทั้งแบบ Buffet และ A La Carte โดยมีเมนูให้เลือกมากมาย เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่าบนโต๊ะผมนั้นมีอะไรบ้าง

ป๊าบเข้าให้! เป็นไงล่ะครับ บอกเลยว่าจัดมาอย่างเต็ม เน้นที่ปลาดิบที่นำมาโดยแซลมอนสด ๆ นั่นเอง บอกกันตรงนี้เลยนะว่า เห็นเยอะ ๆ แบบนี้ก็บ่อยั่น เป็นอันต้องนั่งละเมียดค่อย ๆ กินกันไป เรียกได้ว่ากินเสร็จวันรุ่งขึ้นตื่นมาต้องกระทำการว่ายทวนกระแสน้ำไปวางไข่แน่นอน เพราะจัดแซลมอนมาแบบจุก ๆ

 

เสร็จสิ้นกันไปแล้วครับกับภารกิจแบกท้องล่องลาดพร้าวหนึ่งร้อยหนึ่ง ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าในซอยใหญ่แห่งนี้มีอาหารการกินอีกเพียบ แต่ด้วยความที่มีหิวก็ต้องมีอิ่มผมจึงนำมาเสนอแต่เพียงเท่านี้ แต่บอกเลยว่าไม่จบ ครั้งหน้าผมจะพกพาน้องจุลินทร์ไปตะลุยจุกที่ไหนอีกก็คอยติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับครั้งนี้ขออนุญาตลาทุกท่านไปก่อน แล้วมาติดตามกันใหม่ครับ สวัสดี.