ไฟป่าแอมะซอน เมื่อปอดของโลกถูกทำลาย และเรื่องที่คุณต้องรู้

ภาพเหตุการณ์ ไฟไหม้ผืนป่าฝน Amazon  (แอมะซอน –  æm.ə.zən )  ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด และถูกเปรียบว่าเป็นเสมือนปอดของโลก กลายเป็นภาพเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั่วไปถึงนักอนุรักษ์ และผู้นำหลายชาติพากันเคลื่อนไหวเพื่อรักษาผืนป่าแห่งนี้ให้รอดจากเงื้อมมือของมนุษย์ที่เข้าไปทำลาย โดยมุ่งหวังผลทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้มีรายงานว่าในช่วงปี 2019 เกิดไฟป่าหลายครั้งในพื้นที่ป่า “แอมะซอน” โดยสถาบันวิจัยด้านอวกาศแห่งบราซิล หรือ INPE ได้ระบุตัวเลขว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าแอมะซอน ถึง 73,000 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 83 เปอร์เซนต์นับจากปี 2018 และเป็นตัวเลขการเกิดไฟป่าที่สูงที่สุดนับตุั้งแต่ปี 2013 (รายงานจากรอยเตอร์)

ทีนี้เรามาดูกันว่า อะไรคือสาเหตุของการเกิดไฟป่าในผืนป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก 

สาเหตุหลักของการเกิดไฟป่าในในผืนป่าแอมะซอนนั้นเกิดขึ้นเพื่อการทำเกษตรกรรม การเผาป่าเพื่อถากถางพื้นที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ที่หน้าดินจะถูกชะล้างจากฝนที่ตกลงมาและทำให้ช่วงต้นเดือนกันยายน ไปจนถึงพฤศจิกายน พื้นที่ที่เกิดไฟป่าจะพร้อมสำหรับการทำเกษตร และ ปศุสัตว์ ด้วยเหตุนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าแอมะซอน มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นเพราะน้ำมือของมนุษย์ที่ต้องการพื้นที่ เพื่อสร้างผลผลิตและรายได้ให้แก่ตนเอง

มีพื้นที่ใดบ้างที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าแอมะซอน

ภาพถ่ายดาวเทียมนั้น แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ที่เกิดไฟป่านั้นกินพื้นที่หลายรัฐในบราซิล อันได้แก่ Amazonas (แอมะซอนนาส), Rondonia (รอนโดเนีย) , Para (ปารา) และ Mato Grosso (มาโต กรอสโซ) โดยเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ Amazonas ขณะเดียวกันมีรายงานจากสำนักข่าว Euronews เมื่อวันอังคารที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมารายงานว่า มีหมอกควันปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าของบราซิล กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ทั้งนี้นัก อุตุนิยมวิทยา  Eric Holthaus ได้ทวีตข้อความว่า “พวกเรากำลังตกอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุด” 

ทั้งนี้ไฟป่าที่เกิดขึ้นใน แอมะซอน นั้นไม่ได้ส่งผลต่อบราซิลเพียงประเทศเดียว แต่ประเทศเพื่อนบ้าน และ ชาวโลกก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะผืนป่า แอมะซอน เปรียบเสมือนปอดของโลก ที่ผลิตออกซิเจนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ออกมาในชั้นบรรยากาศ และยังเป็นพื้นที่ป่าฝน ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ของโลกเช่นกัน

เมื่อเกิดไฟป่าเช่นนี้ หมายความว่าผืนป่าแอมะซอนจะผลิตออกซิเจนได้น้อยลง และ จะถูกแทนที่ด้วยสารพิษอันเกิดจากไฟป่า ทั้ง คาร์บอนมอนออกไซด์ และ ไนโตรเจน ออกไซด์

ถ้าคุณยังนึกภาพว่าไฟป่าทีเกิดขึ้นที่ แอมะซอน กินพื้นที่กว้างขนาดไหนบรรทัดต่อจากนี้คือคำตอบ 

คุณสามารถดูภาพถ่ายดาวเทียม ที่ถูกถ่ายจากดาวเทียมของสหภาพยุโรป จะเห็นว่าหมอกควันจากไฟป่านั้น อยู่เหนือเมือง Amazonas เมือง Rondania  และ เมืองอื่น ๆ ที่ถูกเอ่ยชื่อในข้างต้น แม้เมืองเซา เปาโล ที่ห่างจาก Amazonas กว่า 1,700 ไมล์ก็ยังได้รับผลกระทบหลังมีหมอกควันปกคลุมทั่วเมืองตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา

แล้วคุณจะช่วยรักษาผืนป่าแอมะซอนได้อย่างไรบ้างในฐานะมนุษยชาติคนหนึ่ง 

เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าแอมะซอน ในครั้งนี้ได้สร้างกระแสให้คนทั่วโลกให้ตื่นตัวในการรักษาผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดผืนนี้เอาไว้ โดยมีการติด แฮชแทค #PrayforAmazonas และ  #AmazonRainforest ขณะเดียวกันผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากเรียกร้องให้สื่อทั่วโลกให้พื้นที่ข่าวไฟไหม้ป่าแอมะซอนในครั้งนี้ให้เป็นข่าวสำคัญ และ เรียกร้องให้บรรดามหาเศรษฐีทั่วโลกร่วมกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือทางการบราซิล ในการรักษาผืนป่าแอมะซอนเอาไว้

ขณะที่เหล่านักแสดงชื่อดังได้ช่วยกันบริจาคและทำให้ข่าวนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, จาเมลา จามีล, เจเดน สมิธ, จอห์น คูแซค หรือ แม้กระทั่งนักฟุตบอลชื่อดังอย่า คริสเตียนโน โรนัลโด

และถ้าคุณอยากบริจาคเพื่อช่วยรักษาผืนป่าแอมะซอน เอาไว้คุณสามารถบริจาคได้โดยตรงไปที่องค์กรที่สามารถส่งความช่วยเหลือไปยังบราซิลได้ อาทิ Amazon Watch, Amazon Conservation Team , Rainforest Action Network, Rainforest Trust นอกจากนี้คุณยังสามารถช่วยด้วยการลดการใช้กระดาษ และ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ หรือร่วมลงชื่อใน Change.org เพื่อให้นักกฎหมายได้เข้าตรวจสอบในการเกิดไฟไหม้ป่าแอมะซอนในครั้งนี้

เรื่องไฟไหม้ป่า แอมะซอน ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราเลย แม้ว่า บราซิล กับ ไทยจะห่างกัน ถึง 16,410 กิโลเมตร แต่คุณต้องไม่ลืมว่า เราต่างก็อยู่ในโลกใบเดียวกัน

.

เรียบเรียงเนื้อหาจาก Cnet.com 
ภาพประกอบ : Wikipedia, WWF