รู้ตัวก่อนสาย รู้ไว้ก่อนรักแบบไหนไม่เหมาะกับเรา

โดยธรรมชาติแล้วในชีวิตคนเราแต่ละคนมักจะมีทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบเวียนวนเข้าหาสู่ชีวิตตลอดเวลา แต่อย่างน้อย ๆ การที่จะรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบสิ่งใดเราต้องได้สัมผัสคลุกคลีกับมันก่อนทั้งนั้น จึงจะรู้จริง ๆ ว่ามันเหมาะกับเราหรือไม่ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์

คนเรามีกันอยู่พันล้านคนแน่นอนว่าไม่มีใครที่นิสัยหรือมีความชอบเหมือนกันทุกอย่างร้อยเปอร์เซนต์ แต่ละคนก็มีนิสัยบางอย่างที่ไม่ชอบ แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์แล้วหลักเกณฑ์พื้นฐานหลายอย่างเลยล่ะที่จะเป็นหลักเกณฑ์ให้คุณใช้วัดในความเป็นไปของอีกฝ่าย เพื่อจะบอกให้คุณรู้เลยว่าคนในลักษณะแบบนี้จะส่งผลดีหรือผลแย่ต่อชีวิตคู่ในอนาคต

ความเป็นส่วนตัวที่หายไป

กับคนบางคนระหว่างที่คบกันไป อาจมีการกระทำหลายอย่างที่สามารถสร้างความอึดอัดให้กับคุณได้ไม่น้อย คือต้องคอยรายงาน โทรคุยกันบ่อยและนานจนเกินไป จิกทุกอย่าง ครอบครองเวลาของคุณจนหมด ซึ่งในยุคนี้ทุกคนล้วนหวงแหนความเป็นส่วนตัวกันมากขึ้นการคบกับใครสักคนคงไม่ต้องการใครสักคนมาเป็นเจ้าชีวิต เพียงแต่เป็นรูปแบบพาร์ทเนอร์เพื่อความสบายใจมากกว่า

คอยหึงตลอดเวลา

อีกฝ่ายหนึ่งอาจมีความขี้หึงในระดับที่สูงมาก นอกจากนั้นยังไม่ไว้ใจคุณง่าย  ในทุกท่วงทีไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหนกับใครก็ต้องถามไถ่อย่างละเอียดจนมากเกินไป คนประเภทนี้จะมีความคิดว่าคุณนอกใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันจะส่งผลต่อความรู้สึกของคุณและความสัมพันธ์ในระยะยาว

คอยกดขี่

เหมือนที่เคยเล่าไปในคอลัมน์ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับมนุษย์จำพวก Abuser หรือพวกชอบยกตนข่มอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้เกียรติคุณเลย และคิดว่าเขาสามารถควบคุมคุณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความรักไม่ควรเป็นไปในรูปแบบนี้ควรเป็นไปในรูปแบบของการเคียงข้างและเดินไปพร้อมกันมากกว่าการจูงเชือก

อารมณ์แปรปรวน

เจอกับคนที่อารมณ์ไม่คงที่เดี๋ยวก็โมโหร้าย พอเรื่องสงบก็มาขอโทษขอโพย แต่เมื่อมีครั้งแรกแล้วก็ต้องมีครั้งต่อไปตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเอะอะอะไรนิดหน่อยก็บอกเลิกทำตัวไม่มีวุฒิภาวะ บอกเลยว่าต่อไปจะต้องรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนอาจถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยซ้ำ

ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นหลัก ๆ ลองหาทางแก้ปัญหาโดยการหันหน้าเข้าคุยกันอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาหากแก้ได้ก็แล้วไป แต่ถ้าหากไม่ก็ควรตีตัวออกให้ห่างให้ไวที่สุด หากไม่อยากเจ็บปวดในอนคตเพราะถึงวันนั้นการจะสลัดทิ้งก็คงเป็นเรื่องที่ยากกว่าตอนแรกแน่นอน