
พ่อแม่ทุกคนเมื่อมีลูก ก็เริ่มคิดวางแผนการหาทรัพย์สิน เพื่อเก็บเป็นสมบัติให้ลูกของเราไม่เจอกับความลำบาก สิ่งที่พ่อ แม่ ทุกคนควรรู้ว่าเวลาที่เรามีมรดกแล้วนั้น มีเรื่องอะไรที่ต้องทำหรือคำนึงอีกบ้าง
1. ควรทำบันทึกทรัพย์สินและหนี้สินให้อัพเดทอยู่เสมอ
ไม่ได้ทำเพื่อแช่งตัวเองหรอกนะคะ แต่เป็นการบันทึกสิ่งที่เรามี และหนี้สินที่ต้องจ่าย เผื่อเหตุไม่คาดฝัน คนที่อยู่ข้างหลังจะได้รับรู้แบบไม่ตกหล่น หรือต้องตามหาว่าทรัพย์สิน และ หนี้สินที่ต้องชำระมีอะไรบ้าง ถ้าให้สมบูรณ์ควรทำในรูปแบบพินัยกรรมไว้เลยว่า ทรัพย์สินส่วนไหนให้ทายาทคนไหน เท่าไหร่ ทรัพย์สินที่คุณสร้างหรือ หามาก็จะสามารถส่งถึงทายาทที่คุณเตรียมไว้ให้อย่างตั้งใจนั่นเอง
2. ต้องรู้ว่าทรัพย์สินที่มี มีอะไรบ้าง และมีมูลค่าเท่าไหร่
อันไหนที่ต้องเสียภาษีมรดก ต้องพิจารณาภาษีการให้และภาษีมรดก โดยทรัพย์สินที่จะต้องเสียภาษีมรดก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ หลักทรัพย์ทางการเงิน เงินฝาก และทรัพย์สินทางการเงินที่มีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้
3. แล้วอะไรคือ ภาษีการให้ อะไรคือภาษีมรดก ?
ความต่างระหว่างภาษีมรดก และ ภาษีจากการให้ ภาษีมรดก เกิดขึ้นเมื่อมีการเสียชีวิตของเจ้าของมรดกและส่งต่อทรัพย์สินไปตามพินัยกรรม ซึ่งทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดก จะเสียเฉพาะส่วนเกิน 100 ล้านบาท ในอัตรา 10% เมื่อผู้รับมรดกเป็นบุคคลธรรมดา เช่น ผู้รับตามพินัยกรรม หรืออัตรา 5% เมื่อผู้รับมรดกเป็นบุพการีหรือทายาท โดยถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้คำนวณจากราคาประเมิน ภาษีจากการให้ก็เกิดตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเปอร์เซนต์ภาษีแตกต่างกันไป ถ้าเป็นการโอนทรัพย์สินให้ทายาท มูลค่าส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 5 % และ ถ้าเป็นการให้บุคคลธรรมดา ทายาทสนิท หรือให้ด้วยความเสน่หา ส่วนที่เกินมูลค่า 10 ล้านบาท ต้องเสียอัตราภาษี 5 % เช่นกัน
4. หากมีมรดกที่มากเกินไปก็สามารถส่งต่อมรดกเป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
กรณีที่มีมรดกเป็นเงินสดที่มากเกินไป ทำให้ต้องเสียภาษีมรดกมาก อาจจะเปลี่ยนเป็นการมอบแบบได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การทำประกันชีวิตเพื่อรับสินไหมมรณกรรม โดยระบุผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์เป็นทายาทที่เราต้องการมอบมรดกให้
เรื่องของการวางแผน หรือ ดูแลทรัพย์สินที่สร้างเพื่อเป็นมรดกนั้นไม่จำเป็นที่เราจะต้องมีทรัพย์สินหลักร้อยล้านถึงต้องทำ แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำเพื่อให้ลูกหลานได้รับตามเจตนารมย์ รวมทั้งควรบอกให้คนใกล้ชิดที่ไว้ใจรู้ว่า เราได้ทำรายการทรัพย์สิน หนี้สิน หรือ ร่างพินัยกรรมเก็บเอาไว้ที่ใด เมื่อรู้จักหามรดก ก็ควรรู้จักการหาความรู้เรื่องการวางแผนมรดกด้วยนะคะ





























