นึกถึง “แบกเป้ไปดูบอลที่อังกฤษ”

ในวันที่อากาศบ้านเราระอุ ปรากฏว่ามีคนไทยทั้งเซเลบและคนธรรมดา หนีร้อนไปดูฟุตบอลวันแดงเดือดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล กันเป็นจำนวนมาก

ไม่น่าเชื่อนะครับว่าถึงวันนี้ธุรกิจการทำทัวร์ไปดูบอลที่อังกฤษ กลายเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศที่นั่นสักครั้งในชีวิต นอกจากจะดูการแข่งขันแล้ว จะบวกโปรแกรมท่องเที่ยวตามแลนด์มาร์คสำคัญ และพาชอปปิ้งเป็นของแถม ทำกันจนเฟื่องฟูไปหลายต่อหลายเจ้าเลยทีเดียว 

ที่เขียนถึงเรื่องนี้เพราะเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบังเอิญไปค้นเจอจดหมายรัก เอ๊ยไม่ใช่ จดหมายอิเลคทรอนิกส์จากแฟนบอลที่เคยอุดหนุนพ็อคเก็ตบุ๊ค “แบกเป้ไปดูบอลที่อังกฤษ..ด้วยงบห้าหมื่นบาท” หนังสือที่ผมกับน้องๆได้ช่วยกันทำกับสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์เมื่อ 15 ปีก่อน ยังจำได้ว่าไอ้สร้อย..”ด้วยงบห้าหมื่นบาท” นี่บรรณาธิการสำนักพิมพ์ คุณวิทยา ร่ำรวย ท่านคิดเป็นกิมมิคให้บอกว่า ไปดูอย่างเดียวไม่พอเว้ย งบต้องเร้าใจด้วย

ไม่นึกเลยว่าพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้ได้เคยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กวัยรุ่นหลายคน อยากไปตามหาความฝัน หลายคนเดินตามลายแทงในหนังสือไปจนสุดทาง และได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าการไปดูบอลที่อังกฤษอย่างเดียวด้วยซ้ำ ลองอ่านถ้อยคำของคุณ Montri Pruthipaitoon สมัยนั้นที่ผมขออนุญาตนำมาเปิดเผยดูครับ   

“พอผมซื้อหนังสือแบกเป้ของพี่ธีมาอ่าน มันเกิดแรงกระตุ้นที่จะไปดูบอลที่อังกฤษครับ แรงบันดาลใจจากหนังสือแบกเป้ของพี่ธี ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ผมซื้อแรงบันดาลใจนี้มาด้วยเงิน 200 บาท แม้ผมจะไม่ได้ไปดูลิเวอร์พูล ทีมที่ผมเชียร์มา 24 ปี (ตอนนั้น) แต่ผมก็ได้ไปเหยียบแผ่นดินอังกฤษ ได้เห็น เวมบลีย์, วังบัคกิ้งแฮม และงานสถาปัตยกรรมสวยๆของ นอร์แมน ฟอดย์เตอร์ และได้เห็นหลายๆอย่างในเวลาที่จำกัด 4 วัน ทริปนี้ผมได้ประสบการณ์มากมายครับ 

ผมอยากจะเล่าให้พี่ฟังว่า ผมได้อะไรบ้างจากแรงบันดาลใจของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งผมหวังว่าจะเป็นกำลังใจที่ดีในการทำงานของพี่ต่อไป

1 พี่ทำให้ผมได้ตอบแทนพระคุณพ่อกับแม่ที่ไม่เจอกันถึงสามปี ด้วยการพาไปทัวร์ ลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน และมิวนิค ซึ่งพ่อกับแม่ผมมีความสุขมากๆเพราะท่านอยู่ที่สวิตฯ ส่วนผมชีวิตอยู่ที่เมืองไทยคนเดียวมา 18 ปีแล้วครับ

2 พี่ทำให้ ผมได้รู้จักกับรุ่นพี่ในมหาลัยเดียวกันที่ใช่ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ ที่ให้ที่พักกับผมตอนไปเที่ยวกรุงลอนดอน และจากสัมพันธภาพครั้งนี้ ผมกำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อที่อังกฤษจากคำแนะนำของรุ่นพี่ที่นั่นครับ” 

[email protected]

อ่านแล้วก็ทำให้นึกถึงความหลัง และทำให้แอบยิ้มได้ ตอนนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าหนังสือเล่มนี้ยังมีเหลือขายอีกหรือไม่ และคุณมนตรีผู้นี้เติบโตไปทำอะไรอยู่ที่ไหนแล้ว หวังใจว่าสุดท้าย เจ้าตัวจะได้ไปดูบอลที่ประเทศอังกฤษสมใจ

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการเสียเงินซื้ออะไรก็ไม่ดีเท่าเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ รวมทั้งการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเองครับ.