“ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ทุกคนต้องเคยได้ยินประโยคนี้กันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยมนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีการนับถือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลแล้วไม่ว่าจะเป็น นับถือไฟ ดวงดาว ผีสางนางไม้ ในยุคแรก ต่อมาคือมีการสร้างเทวรูปเพื่อเป็นตัวแทนในการสักการะบูชา
‘ ที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ “สิ่งที่ไม่สมประกอบ”
ยกตัวอย่างเช่น เต่าสองหัว วัวสามขา กิ้งก่าสามหาง ‘
และหากพูดถึงเพียงแค่ประเทศไทย บอกได้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างสามารถกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้หมด แล้วที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ “สิ่งที่ไม่สมประกอบ” ยกตัวอย่างเช่น เต่าสองหัว วัวสามขา กิ้งก่าสามหาง ซึ่งหากมองกันจริง ๆ สัตว์เหล่านี้น่าสงสารมากที่เกิดมามีร่างกายพิกลพิการ แถมยังถูกมองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอามากราบไหว้บูชากันเฉยเลย
‘ กาลก่อนนี้การพิสูจน์อะไรสักอย่างนั้นทำได้ยาก
ยิ่งถ้าเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าขั้นเชื่อสนิทใจไปแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ ‘
เราต่างถูกสั่งสอนมาโดยความกลัวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยอมรับว่ากาลก่อนนี้การพิสูจน์อะไรสักอย่างนั้นทำได้ยาก ยิ่งถ้าเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าขั้นเชื่อสนิทใจไปแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับยุคสมัยแห่งความโมเดิร์นมาเยือนแล้ว ผู้คนกล้าตั้งคำถามมากขึ้น เชื่อในเหตุผลมากกว่าจะยอมรับอะไรง่าย ๆ ถึงกระนั้นความเชื่อต่อสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่หายไปสักที หากใครยังนึกภาพไม่ออก เราจะพาไปดูตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่ามีอะไรกันบ้าง
น้ำศักดิ์สิทธิ์
โอละพ่อ น้ำผุดขึ้นมาจากพื้นชาวบ้านเชื่อสิ่งศกดิ์สิทธิ์ให้โชค แห่ตักล้างหน้าเอาไปอาม ลามไปจนถึงดื่มกิน เชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดเพียงครั้งเดียว แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ซึ่งสาเหตุของทุกเรื่องเกี่ยวกับการเจอแหล่งน้ำปริศนานั้นก็ถูกพิสูจน์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งที่มาของแหล่งน้ำเหล้านั้นล้วนแล้วแต่เป็น ท่อน้ำประปาที่แตกอยู่ใต้ดิน น้ำที่ซึมจากส้วนในละแวกนั้น ๆ แต่กลายเป็นว่าความเชื่อชนะทุกสิ่ง ผู้คนในชุมชนก็ยังคงแห่แหนกันไปตักอยู่ดี อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านที่ท่อน้ำแตกคงต้องเสียค่าน้ำบานตะไทเป็นแน่ และเรื่องบิลที่ต้องจ่ายนี้แน่นอนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้
โคลนลาวา พอกหน้ารักษาโรค
อีกหนึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติที่ชาวบ้านบูชา ซึ่งโคลนลาวาศักดิ์สิทธิ์นี้ผุดเขึ้นกลางทุ่งนาแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา และชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างเฮโลกันไปตักตุน เชื่อว่านำมาพอกหน้าทาตัว โปะโคลนในส่วนที่ปวดเมื่อจะทำให้หายเป็นปลิดทิ้ง หนำซ้ำยังมีคนนำไปดื่มกินอีกด้วย ซึ่งต่อมาจากการกินโคลนนั้นส่งผลให้ร่างกายเจ็บปวด ชาวบ้านยังเข้าใจไปอีกว่าเป็นเพราะไม่ได้ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางก่อนนำไปกิน งานนี้กรมอนามัยต่างรีบออกมาตักเตือน เพราะโคลนลาวานี้อาจมีสารปนเปื้อนและยังมีค่าด่างสูง เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย
ห้อยของดี มีแต่รอด
ในส่วนของหัวข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พบบ่อยในข่าวบ้านเมืองอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับผู้ประสบอุบัติเหตุแต่กลับรอดตายอย่างปราฏิหารย์ พร้อมชูพระเครื่องที่ห้อยคออยู่ออกมาโชว์ สื่อว่ารอดตายเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยไว้ แต่กระนั้นในทุกข่าวกลับไม่มีผู้ประสบอึบัติเหตุรายใดกล่าวถึงหน่วยกู้ชีพ หรือบุคลากรทางการพยาบาลที่รุดไปช่วยชีวิตเลยแม้แต่น้อย
‘ มีผู้ไม่หวังดีมากมายที่ใช้ความเชื่อเป็นเครื่องมือหลอกผู้อื่น
เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ‘
และเหล่านี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยที่ Tonkit360 เลือกขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้กับผู้อ่าน เอาเป็นว่าความเชื่อนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล เพียงแต่อยากให้ตั้งข้อสังเกตกันสักหน่อยก่อนจะปักใจเชื่ออะไรง่าย ๆ เพราะนอกจากเรื่องเหล่านี้แล้ว มีผู้ไม่หวังดีมากมายที่ใช้ความเชื่อเป็นเครื่องมือหลอกผู้อื่นเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ส่วนคนเชื่อที่โดนหลอกมีแต่เสียกับเสียเท่านั้นแล