แนะวิธีเตรียมตัวเข้าคูหา สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก

ใกล้ถึงเวลาของการเลือกตั้งแล้วล่ะ เมื่อ กกต. ออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มี.ค. ที่จะถึงนี้ นับเป็นเวลาถึง 8 ปีจากการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ถ้าไม่นับรวมการเลือกตั้ง ส.ส. ที่เป็นโมฆะไปเมื่อปี 2557

เนื่องจากการว่างเว้นกำหนดการเลือกตั้งมาหลายปี ในครั้งนี้ทำให้มีคนรุ่นใหม่ผู้มีสิทธิ์ได้เลือกตั้งครั้งแรกอยู่เป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าทุกอย่างมีครั้งแรก และทุก “ครั้งแรก” มักมีความตื่นเต้นปะปนมาด้วยเสมอ

เราจึงมีคำแนะนำให้กับผู้มีสิทธิ์เข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งเราได้วิเคระห์และเรียบเรียงเป็นความรู้ให้กับทุกคน ดังนี้

เช็คชื่อ

การจะเลือกตั้งได้นั้นผู้ที่มีอายุครบ 18 ปี ควรสำรวจรายชื่อในพื้นที่ก่อน เผื่อมีการตกหล่นของรายชื่อ โดยสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองศาลากลางจังหวัด หรือเขตชุมชน นอกจากนั้นทางการจะมีหนังสือแจ้งผู้มีสิทธิ์โยส่งมาให้ที่บ้าน หรือสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ออนไลน์อีกด้วย

เอกสารจำเป็น

เอกสารยืนยันตนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้ง โดยสามารถใช้เอกสารที่มี ชื่อจริง เลขประจำตัวประชาชน รูปถ่าย เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง เป็นต้น

คนที่รัก พรรคที่ชอบ

สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับพรรคการเมืองให้เข้าใจ โดยข้อมูลจาก กกต. พบว่าพรรคการเมืองที่มีรายชื่อในระบบมีทั้งหมด 104 พรรค แต่พรรคที่มีสิทธิ์ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตมีไม่เกิน 40 พรรค ทั้งนี้เราแนะนำว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคน ควรศึกษานโยบายของพรรคต่าง ๆ มองรายละเอียดและภาพรวม นโยบายพรรคไหนโดนใจก็จำชื่อให้มั่น และเข้าคูหาไปด้วยความมั่นใจได้เลย

วางแผนดูเวลาล่วงหน้า

กำหนดการวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. นี้กำหนดให้มีเวลาลงคะแนนเสียงทั้งหมด 9 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. ซึ่งขยายให้มากขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ๆ ดังนั้นควรจัดการตัวเองให้พร้อม วางแผนจัดการธุระต่าง ๆ นา ๆ ให้ดี

เข้าใจในระบบเลือกตั้ง

การเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ เรียกว่าการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม โดยมีบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวให้เรากา แต่การกาบัตรหนึ่งใบนี้จะส่งให้เกิดผล 3 อย่างคือ ได้ส.ส.แบบแบ่งเขตเพื่อให้ได้เก้าอี้ในสภา หลังจากนั้นรายชื่อแคนดิเดตของแต่ละพรรคก็จะถูกส่งให้ที่ประชุมพิจารณาผล เพื่อให้ได้นายกฯในที่สุด

ทั้งนี้ การเลือกตั้งเพื่อเลือกตัวแทนของประชาชน มาทำงานในการบริหารบ้านเมืองให้ด้านต่าง ๆ นั้นสำคัญ ทุกสิทธิ์ทุกเสียงสามารถตัดสินอนาคตของประเทศเราได้