เลื่อนเลือกตั้งรอบนี้กระทบใจใครบ้าง

แฮชแทค #เลื่อนแม่มึงสิ กลายเป็นเทรนด์ที่ติดอันดับหนึ่ง และสองข้ามวันในเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย เป็นแฮชแทค ที่เกิดขึ้นหลังจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ยังยืนยันว่ายังอยู่ในกรอบ 150 วัน จะมีการเลือกตั้งแน่นอนไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ซึ่งมีการคาดหมายว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งไปปลายเดือนมีนาคม และประกาศผลการเลือกตั้งราวปลายเดือนพฤษภาคม

เห็นได้ว่าการเลื่อนการเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้สร้างความรู้สึกให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่น้อย เพราะในช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมาข่าวลือเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งนั้นแพร่สะพัด แต่ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าน่าจะเป็นวันเดิม ในขณะที่บางคนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะอย่างไรเสียกรอบการเลือกตั้งได้ถูกกำหนดมาแล้ว แต่การเลื่อนการเลือกตั้งในครั้งนี้จะกระทบกับใครบ้างนั้น มาดูกัน

เด็กม.6 ที่ต้องสอบ GAT/PAT เร็วขึ้นจากกำหนดเดิมไปเพื่อ

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศมติที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือถึงการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) ซึ่งเดิมกำหนดวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งในช่วงดังกล่าวตรงกับวันเลือกตั้ง ที่ประชุมจึงได้มีมติเลื่อนการสอบ GAT/PAT ไปในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2562

ซึ่งจากมติดังกล่าวทำให้โรงเรียนที่มีนักเรียนชั้นม.6 ต้องจัดการเรียนการสอน และจัดให้มีการสอบปลายภาคให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ก่อนที่จะมีการสอบ GAT/PAT ซึ่ง ทำให้นักเรียนที่ต้องจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ต้องเจอกับการสอบอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีประกาศเลื่อนการเลือกตั้งออกมาแบบนี้เด็ก ม.6 ที่กำลังจมอยู่กับกองหนังสือคงรู้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อย เพราะถ้าเป็นกรอบเวลาการสอบเดิมก็ยังมีเวลาพอให้ได้หายใจกันบ้าง แต่นี่การเลือกตั้งก็มาเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน แล้วที่ผ่านมา ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยจะเลื่อนวันสอบ GAT/PAT ไปเพื่ออะไร

ความน่าเชื่อถือในเวทีโลกของเมืองไทย

หลายคนอาจมองว่า ใครจะมองเรายังไงก็ช่างซิ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย วิธีคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้กับการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือการค้าระหว่างประเทศ เพราะต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนนั้นนอกจากปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ปัจจัยการเมืองภายในประเทศเหล่านักลงทุนก็ให้ความสำคัญในระดับที่เท่ากัน ที่ผ่านมามีกระแสข่าวเรื่องการเลือกตั้งหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่ชัดเจนเท่ากับครั้งนี้ เพราะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง และกำหนดวันมาอย่างชัดเจน

เมื่อมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป อาจสร้างความไม่มั่นใจในสายตานักลงทุนต่างชาติ และส่งผลให้เกิดการชะลอตัวจากการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ถ้ารัฐบาลประกาศวันที่ชัดเจนออกมาอย่างรวดเร็ว ว่าเป็นวันไหนกันแน่ ก็จะส่งผลกระทบระยะสั้น และทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาพิจารณาตลาดในเมืองไทยอีกครั้ง

ตลาดหุ้นตก เพราะต่างชาติเทขาย

ผลกระทบข้อนี้เกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านบน เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาจากนายวิษณุ เครืองาม เมื่อวันที่ 3 มกราคม ตลาดหุ้นในเมืองไทยก็ดิ่งวูบลงมาทันที เพราะนักลงทุนต่างชาติแห่ขายกันเกือบสี่พันล้านบาท และผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลในระยะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับความชัดเจนในการประกาศวันเลือกตั้ง เพราะถ้าเป็นไปตามกรอบ 150 วัน เลื่อนวันเลือกตั้งออกไป 1 เดือน โดยคาดการณ์ว่า จะเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 ความมั่นใจของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะกลับคืนมา แต่ถ้ายังไม่มีความชัดเจนปล่อยให้เกิดความคลุมเครือแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะได้รบผลกระทบในระยะยาว

พรรคการเมืองที่มาแรงในช่วงนี้เสียงอาจแผ่ว

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นครั้งที่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเกิดระหว่างปี 2543 – 2536 มีอายุระหว่าง 18 – 25 ปี เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งมาก่อนซึ่งมีจำนวนสูงถึง 7,170,270 คน และจากการสำรวจความนิยมในพรรคการเมืองของคนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มว่าจะเลือกพรรคการเมืองเลือดใหม่ มากกว่าพรรคการเมืองเก่า โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จีงรุ่งเรืองกิจ นั้นมีกระแสที่ดีมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้

และล่าสุดเมื่อ พรรคเพื่อไทย วางตัวให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อยู่ในบัญชีว่าที่นายกฯ ลำดับ 1 หรือปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของพรรค กระแสของคนรุ่นใหม่จำนวน 7 ล้านคน และคนที่อยู่ในช่วงอายุ 35-40 ปี หันมาให้ความสนใจพรรคเพื่อไทย เพิ่มขึ้น เพราะด้วยวิธีคิดและภาพพจน์ของ นายชัชชาติ ที่หลายคนอยากเห็นนักการเมืองเลือดใหม่อย่างนายชัชชาติ

แต่การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหนึ่งเดือน กระแสที่กำลังมาดีทั้งของนายธนาธร และ นายชัชชาติ อาจจะมีลูกแผ่วเล็กน้อย เพราะในห้วงเวลาดังกล่าวอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มเบื่อหน่ายกับการเมืองไทย จนไม่คิดจะออกไปใช้สิทธิ และปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องการตัดสินใจของขาประจำต่อไป