
วันนี้ Tonkit360 อาสาพาไปทำความรู้จัก “โรคหลอดเลือดสมอง” หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย ว่า อาการของโรคเป็นเช่นไร คุณมีโอกาสเป็นโรคนี้มีมากน้อยแค่ไหน และสัญญาณเตือนคืออะไร
โรคหลอดเลือดในสมอง (stroke) คือ
โรคซึ่งเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณสมองที่ทำให้สมองอยู่ในภาวะขาดเลือด เนื่องจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้สมองสูญเสียการทำหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเกิดอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาต และบางกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
โรคหลอดเลือดสมอง สามารถแบ่งได้ ดังนี้
ภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน
เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยอาการหลอดเลือดสมองตีบ อาจเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ ความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง จนทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการอัมพาตเฉียบพลัน
ภาวะหลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด
เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบาง ประกอบกับมีภาวะความดันโลหิตสูง ส่งผลให้บริเวณที่เปราะบางอยู่ เกิดการโป่งพองและแตกออก ทำให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงอย่างฉับพลัน และทำให้เกิดเลือดออกในสมองเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว
เนื่องจากมีลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดสมองหรือตีบตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ชั่วขณะ แต่อาการไม่รุนแรงมาก เนื่องจากสมองไม่ได้รับความเสียหายถาวร
ทั้งนี้ อาการสมองขาดเลือดชั่วคราว อาจเป็นสัญญาณเตือนก่อนเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน ฉะนั้น หากผู้ป่วยที่มีอาการเช่นนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
- อายุ เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น หลอดเลือดก็จะเสื่อมตามไปด้วย ทำให้เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนในวัยอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ คนในวัยอื่น ๆ ก็มีก็โอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองเช่นกัน
- ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
- โรคเบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย หากเกิดที่สมองจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า
- ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีภาวะไขมันสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้กีดขวางการลำเลียงเลือด
- การสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง ทั้งยังทำลายผนังหลอดเลือด เป็นผลให้หลอดเลือดแข็งตัว
- ดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ไขมันในเลือดสูง เป็นเหตุให้เส้นเลือดแข็งตัวง่าย
- โรคเกี่ยวกับเลือด อย่างโรคโลหิตจางบางชนิด อาทิ โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle-cell disease)
- ขาดการออกกำลังกาย
- อยู่ในภาวะเครียดสูง
สัญญาณเตือน “โรคหลอดเลือดสมอง”
(1) ใบหน้าชา ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หรือพูดลำบาก
(2) แขนหรือขาข้างใด ข้างหนึ่งอ่อนแรงแบบเฉียบพลัน
(3) ตามัว มองไม่เห็น หรือเห็นภาพซ้อน
(4) มึนงง เวียนศีรษะ
(5) เดินเซ เสียการทรงตัว
ซึ่งสัญญาณเตือนดังกล่าว อาจเกิดเพียงอาการเดียวหรือหลายอาการร่วมกันก็ได้ และบางรายอาจมีอาการผิดปกติเหล่านี้ชั่วขณะ ก่อนดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากสมองขาดเลือดชั่วคราว
แต่อย่างไร หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการของโรคหลอดเลือดสมองเป็นอาการร้ายแรงและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
และหากไม่ถึงชีวิตก็อาจทำให้เป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง ซึ่งอาการดังกล่าวต้องใช้เวลาในการรักษาฟื้นฟูสุขภาพค่อนข้างนาน เพื่อให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด
เคยเป็น “โรคหลอดเลือดสมอง” มีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่
ผู้ที่เคยป่วยโรคหลอดเลือดสมอง แม้จะได้รับการรักษาฟื้นฟูจนอาการดีขึ้น ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้อีก ฉะนั้น ควรป้องกันก่อนเกิดโรคอีกครั้ง ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ตรวจเช็กสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง หรือพบแพทย์ตามนัดหมาย
- ทานยารักษาอย่างต่อเนื่อง แม้อาการจะหายเป็นปกติ
- ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเค็ม หวาน มัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม
- งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ถ้ามีอาการเตือน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที แม้อาการเหล่านั้นจะหายไปเอง
ข้อมูลจาก ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช, สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669





























