“โลกยุค 4.0” ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเปลี่ยนวิถีชีวิต รูปแบบการทำงาน ระบบเศรษฐกิจ ตลอดจนรูปแบบการใช้เงินของผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิงและเมื่อการบริการของแต่ละธนาคารเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวค่ากับ ความ Royalty อีกต่อไป สงครามการให้บริการทางการเงินในยุคนี้ จึงต้องท้าทายด้วยคำว่า “ฟรีค่าธรรมเนียม”
เรื่องการประกาศฟรีค่าธรรมเนียม บนช่องทางออนไลน์ ของทุกธนาคารที่ประกาศกันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมาเริ่มจากตัวแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง SCB หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์เจ้ามานีสีม่วง ตามมาด้วยยอดมนุษย์Massอย่างKbankหรือ กสิกรไทย และแล้ว….สงครามการต่อสู้ทางด้านราคาค่าธรรมเนียมในการให้บริการของแต่ละธนาคารหรือในทางการตลาดเรียกว่า Price war จึงเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561อย่างดุเดือด ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการธนาคารเลยทีเดียว แต่การเสียในครั้งนี้ เป็นการเสียเพื่อที่จะได้มากกว่าการได้รายได้เช่นเดิมเพื่อที่จะเสียเค้กก้อนใหญ่ในอนาคต …
ปีที่ผ่านมาจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของธนาคารพาณิชย์ไทย ปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 196,000 ล้านบาท จากธนาคาร 30 แห่ง แล้วทำไมทุกธนาคารยอมเสียเงินรายได้จากค่าธรรมเนียมหลักพันล้าน ในครั้งนี้ ก็เพราะว่า….
1. การโดนรุกตลาดอย่างหนักจากคู่แข่ง
ไม่ใช่แค่คู่แข่งในประเทศเท่านั้น ธนาคารของไทยกำลังเผชิญภาวะโดนรุกตลาดจาก Fin Teach หรือ กลุ่มธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้การบริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน อย่าง Ali Pay หรือ Start Up Fintech อื่น ๆ อีกมากมาย
2. ศึกแย่งชิงลูกค้า
เพราะไม่มีใครครองใจลูกค้ายุคใหม่ได้ 100% ซึ่งการประกาศฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพของธนาคารยักษ์ สองธนาคารแรกอาจจะนำมาซึ่งฐานลูกค้าของธนาคารอื่นที่หันมาใช้ ธนาคารใดธนาคารหนึ่งเป็นธนาคารหลักธนาคารเดียวก็เป็นได้ เพราะค่าธรรมเนียมในการโอน ถอน เติม จ่ายบิลในชีวิตประจำวันไม่ต่างกัน
3. Big Data จากการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ของลูกค้า
นำมาซึ่งข้อมูลพฤติกรรมการใช้เงินต่าง ๆ ที่ธนาคารสามารถใช้ Big Data หรือ ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อวิเคราะห์ในเชิงลึก และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รูปแบบการบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ตรงใจมากขึ้น
4. ลดต้นทุนสาขา และ บุคลากร
รายได้ค่าธรรมเนียมที่หายไป หักลบกับ เงินที่ได้มาจากการลดต้นทุนทางด้าน สาขา ตู้เอทีเอ็ม หรือ จำนวนพนักงานของแบงก์ที่เริ่มลดลง เพราะลูกค้าเริ่มมีอัตราการใช้บริการที่สาขาธนาคารลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน การประกาศลดสาขาจึงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนตามมาด้วยการประกาศสงครามฟรีค่าธรรมเนียม
5. ช่องทางการโฆษณาบนเทคโนโลยี Mobile Application
ด้วยฟังก์ชันที่สามารถสร้าง Notification บนมือถือได้ทันที จึงถือเป็นการใช้งบประมาณการโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าตัวจริง และอาจเกิดความคุ้มค่าที่มากกว่าการทำการโฆษณาสื่อสารแบบ Segment Mass ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น การส่งข้อความ Push Notification หรือ In-AppMessaging
ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็ได้ประโยชน์ในส่วนของความสะดวก และโอกาสในการเลือกบริการโดยไร้ขีดจำกัด เรื่องค่าธรรมเนียมที่ไม่ต้องคิดมาก หรือ ต้องยอมจ่ายอีกต่อไป แต่ในมุมหนึ่งเรากำลังเดินเข้าสู่ระบบที่ธนาคารสามารถติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายของเราในชีวิตประจำวันได้ครบ และ จบมือมือถือของเราเพียงเครื่องเดียว อย่างเต็มใจ….