ได้หมดถ้าสดชื่น! กับ 5 เมนูคลายร้อน หาทานง่าย

ฤดูร้อนของไทยจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งกินระยะเวลานานถึง 2 เดือนครึ่งเลยทีเดียว และยังเป็นช่วงที่ขั้วโลกเหนือเคลื่อนตัวเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่ทุกภาคจะมีอากาศร้อนที่สุดในรอบปีอีกด้วย เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ วันนี้ Tonkit360 จึงมี 5 เมนูคลายร้อนที่หาทานได้ง่าย และทานแล้วสดชื่น เย็นฉ่ำ มาฝากทุกคนกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.ไอศกรีม

ไอศกรีม เป็นของหวานที่มีหลากหลายรสชาติ และสามารถรับประทานเพื่อคลายความร้อนได้ ทั้งยังเป็นที่นิยมมากในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย และไอศกรีมก็เริ่มเข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งคนไทยได้ดัดแปลงไอศกรีมของต่างชาติมาเป็นไอศกรีมกะทิ โดยใช้กะทิสดผสมกับน้ำตาลนำไปปั่นให้แข็ง

ส่วนไอศกรีมหลอด หรือไอศกรีมแท่ง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ทำด้วยการใช้น้ำหวานเทใส่หลอดสังกะสีและเขย่าให้แข็ง มีก้านไม้เสียบ ซึ่งไอศกรีมแบบหลอดก็มีการพัฒนาจนมาเป็นไอศกรีมโบราณที่มีส่วนผสมของนม มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม จากนั้นมาถึงเป็นยุคของไอศกรีมแบบวัฒนธรรมตะวันตกแท้ๆ จนถึงปัจจุบัน

2.น้ำแข็งใส / บิงซู

อีกหนึ่งเมนูที่หลายคนจะต้องนึกถึงเมื่อฤดูร้อนย่างกรายเข้ามา นั่นก็คือ น้ำแข็งใส เกล็ดน้ำแข็งขูด ใส่น้ำหวานหลากสีราดด้วยนมข้น แค่นี้ก็ฟินแล้วสำหรับอากาศร้อนๆ แบบนี้รวมไปถึงเมนู บิงซู (ที่มาจากภาษาเกาหลี แปลว่า น้ำแข็งใส) น้ำแข็งใสปั่นละเอียดมาก ราดด้วยท้อปปิ้งตามที่ใจเราชอบ ซึ่งบิงซูถือว่าเป็นของหวานประจำชาติเกาหลีเลยก็ว่าได้

ซึ่งในขณะนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ดูเหมือนจะมีแต่ร้านบิงซูเต็มไปหมด เพราะด้วยความเย็น สดชื่นของบิงซู ที่ได้รับประทานเข้าไป จึงทำให้บิงซูเป็นของหวานยอดฮิตทั้งในฤดูร้อนของประเทศเกาหลี และประเทศไทยด้วย จุดเด่นของบิงซู คือ น้ำแข็งใสนอกจากจะมีเนื้อที่ละเอียดละมุนลิ้นแล้ว ยังมีรสชาติที่หวาน โดยส่วนมากจะเป็นรสนม สตอเบอร์รี่ ช็อกโกแลต หรือชาเขียว เป็นต้น

3.แตงโม

ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของหน้าร้อน นอกจากมะพร้าวแล้ว ก็น่าจะมี แตงโม ติดโผกับเขาด้วยเหมือนกัน เพราะแตงโมเย็นๆ หวาน ฉ่ำน้ำ ไม่ว่าจะทานสดๆ หรือนำไปปั่นก็อร่อยเย็นชื่นใจ ดับกระหาย คลายร้อนได้ดีจริงๆ ทั้งแตงโมยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างเลย

ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ที่เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นผลไม้ที่น้ำตาลต่ำ แคลอรี่ต่ำแล้ว แตงโมยังสามารถป้องกันการสะสมของไขมันเส้นเลือด ควบคุมระดับความดันโลหิตได้อีกด้วย รวมถึงมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดความมันบนผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดอาการอักเสบบวมแดง ช่วยบำรุงผิวพรรณ และเส้นผมให้แข็งแรง เรียกได้ว่าประโยชน์รอบด้านเลยทีเดียว

4.ข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นขนมหวานดั้งเดิมของไทย ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในฤดูร้อน รวมถึงชาวต่างชาติก็ติดใจในรสชาติของข้าวเหนียวมะม่วงเช่นกัน ทำจากข้าวเหนียว เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู มูนกับหัวกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทรายขาว แล้วกินกับเนื้อมะม่วงสุก ที่นิยมคือ มะม่วงอกร่อง และมะม่วงน้ำดอกไม้ อาจราดกะทิ และโรยถั่วบางชนิด แล้วแต่ชอบใจ ทั้งนี้มะม่วงยังมีสรรพคุณอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงพลัง ตลอดจนบำบัดอาการเหงื่อออกมาก และท้องเสียได้อีกด้วย โดยเฉพาะมะม่วงที่มีรสหวานปนเปรี้ยวนั้น จะมีวิตามินซี ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ไอ และขับลมได้

5.น้ำเปล่า

ในหน้าร้อนคงไม่มีอะไรจะสดชื่นไปมากกว่า น้ำเปล่า เย็นๆ แล้วและการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ก็ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทั้งช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ น้ำเปล่ายังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในอีกหลายด้าน ได้แก่ ช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มเมตาบอลิซึม กระตุ้นสมอง ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง กระตุ้นระบบการขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่อโรคร้าย ทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ประหยัดค่าเครื่องดื่ม และช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้