101 แมนฯยูไนเต็ด (79): เดินทางไปสนาม ทางไหนเวิร์คสุด (2)

ในตอนที่แล้วผมได้แนะนำการเดินทางสู่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดไป 2 ทางแล้ว วันนี้ผมจะมาแนะนำ และอธิบายการใช้แท็กซี่ไปสนามกันครับ ว่าแท็กซี่ชนิดไหนที่เวิร์คกว่ากัน หรือเหมาะกับแฟนบอลชนิดไหนมากกว่า

แท็กซี่ (แบล็กแค็ป)

ภาพจาก Flickr: Lars Plougmann

ข้อดี: หาง่าย ชัวร์ ไปแน่นอน ไม่เหมือนแท็กซี่เมืองไทย และมีมารอรอบๆสนามแน่นอนหลังเกม แบล็กแค็ปจะเหมาะกับคนที่มีงบการเดินทางเยอะ และรักสบายครับ เพราะราคาค่อนข้างแพง แต่นั่งแล้วก็สบาย ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวขึ้นรถบัสหรือรถราง

ข้อเสีย: สะดวกก็จริง แต่ความสะดวกก็ต้องมากับค่าใช้จ่าย ยิ่งว่าพวกแบล็กแค็ปเนี่ยแพงอยู่แล้ว ยิ่งต้องนั่งกลับจากสนาม ที่ต้องมาเจอรถติดเข้าไปอีก ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่เลย ถือเป็นทางเลือกสำหรับคนมีงบ และอยากจะกลับเร็วๆ ขี้เกียจต้องมายืนรอ แต่มารอบนรถแทน อีกเรื่องที่ผมเคยเจอสมัยเด็กๆ คือทอนเงินไม่ครบ (และเราก็พลาด ที่รีบ และไม่ตรวจ) แต่พวกเขาก็พยายามแบบนี้กันบ่อย รวมถึงการขับอ้อมเส้นทาง เพื่อเหมือนจะพาเราทัวร์รอบเมืองเพราะเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว แต่ปกติผมก็จะไม่ค่อยใช้แล้วล่ะ เพราะแบบนี้แหละ

นอกจากนี้ เวลามาถึงสนาม แท็กซี่อาจจะต้องปล่อยลงกลางทาง ให้เราเดินประมาณ 10 กว่านาทีเข้าไปที่สนามครับ เพราะเขาเข้าไปในพื้นที่สนามไม่ได้ เนื่องจากถ้าเข้าไปแล้วจะกลับออกมาไม่ได้นั่นเอง เพราะในวันแข่งขันนั้น ทางสนามจะปิดการจราจรเพื่อไม่ให้รถติดจนเกินไป เพราะสภาพคนเข้าไปชมเกมถึง 76000 นั้น จะระบายรถติดให้หมดเลยมันก็ไม่ง่ายนะ

แท็กซี่แบบ Private Hire

ภาพจาก Flickr: Mark Warner

ข้อดี: ราคาพอไหว (แพงกว่าเมืองไทย แต่ถูกกว่าแบล็กแค็ป) และสามารถตรวจเช็กว่าคนขับเป็นใคร ปลอดภัย (ในความคิดส่วนตัว) และที่สำคัญคือสามารถจ่ายผ่านบัตรได้ ถ้าใครเป็นสายช็อป หรือไม่ชอบพกเงินสด การเรียกแท็กซี่แบบนี้ ก็จะช่วยได้มากหากไม่มีเงินสดพอ แถมมีเยอะมาก กดเรียกเดี๋ยวเขาก็มา (สำหรับขาไป) และแท็กซี่แบบนี้ไม่มีการขับอ้อมนะ ด้วยสองเหตุผล ข้อแรกคือว่า GPS ของที่อังกฤษจะแม่นมาก ถ้ารถติด ก็คืดติดจริง และก็จะเลี่ยงเส้นทาง รวมถึงรถบางรุ่นก็จะมีระบบเตือนการจราจรหรือ Traffic Announcement ที่จะคอยเตือนว่าเส้นทางไหนรถติดบ้าง มาตามวิทยุเป็นต้น อีกเรื่องก็คือ ต่อให้อ้อม ระยะทางก็เท่าเดิม เขาก็ไม่ได้เงินเพิ่มเหมือนกันพวกแบล็กแค็ป เพราะระบบ Private Hire จะคิดราคาการโดยสายจากระยะจากที่เรียก มาถึงที่จุดส่ง แต่ไม่ได้คำนวนระยะเวลาการเดินทาง ซึ่งถ้าเป็นมีเตอร์ จะคิดเป็นแบบนั้นฃ

สำหรับใครที่ไม่ได้มีแพลนอยากไปสนามเร็วๆ ผมก็แนะนำว่าแท็กซี่ก็โอเคนะ สะดวกดี จ่ายเยอะหน่อย แต่นั่งสบาย และน่าจะถึงทัน ขอว่าออกให้เร็ว ประมาณ 45 นาที ก็น่าจะทันเกมเริ่มนะ

ข้อเสีย: สำหรับ Uber นั้น จะมีการคิดราคาแบบ surge ที่จะบวกราคาตามสภาพการจราจรและจำนวนรถที่วิ่งบริการ มาเจอสภาพเกมกำลังจบแบบนี้ ก้ต้องบวกกันเยอะอยู่แล้วล่ะ ผมเคยเจอแบบ คูณ 4 ไปเลยก็มีนะ คือค่าโดยสารประมาณ 5 ปอนด์ แต่ต้องคูณไปอีก 4 เท่า เพราะรถติดมาก แต่เพราะวันนั้นมันมีความจำเป็นจะต้องกลับ ก็เลยต้องยอมจ่ายไป ดีว่าผมพักใกล้ๆสนาม (รถบัสประมาณ 15 นาที) ก็เลยยังไม่เจอราคาหนักๆ ข้อเสียก็จะคล้ายๆกับแท็กซี่แบบแบล็กแค็ปแหละ แต่สุดท้าย ผมก็ว่าถ้าจะเรียกแท็กซี่ ก็ควรลองมาใช้พวก Private Hire แบบนี้ดีกว่านะ ถูกกว่าแน่นอน

อีกวิธีที่อาจจะลองใช้ดูได้ คือรถไฟ แต่อันนี้ดูแล้วเหมือนว่าจะเน้นให้แฟนๆทีมเยือนใช้นะครับ เพราะฉะนั้นถ้าไปใช้ ก็จงสำรวม อย่าไปแสดงอาการเชียร์ผีแดงให้เขาหมั่นไส้ล่ะ ทางทีดีคือใช้วิธีอื่นดีกว่า สุดท้ายแล้ว อันนี้ก็เป็นประสบการณ์และความชอบส่วนตัวของผมนะครับ เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้วิเคราะห์สถานการณ์ในวันนั้นๆ ถ้าฝนตก แนะนำให้ใช้รถรางแทน เพราะยังไงบนถนน รถก็ติด แต่ถ้ามีงบ ก็จัดแท็กซี่ไปเลยครับ ถ้าไปหลายคน บางทีพอหารค่าแท็กซี่แล้ว ก็อาจจคุ้มกว่าก็เป็นได้นะ (เช่นถ้าไปกัน 6-7 คน เรียกแท็กซี่แบบรถแวนเป็นต้น)

ส่วนถ้าจะเดินทางมาสนามในวันที่ไม่มีบอลเตะนั้น ผมขอแนะนำรถบัสเลยครับ รวดเดียว จบเลย ง่ายมากครับ หรือถ้ามีงบหน่อย ก็จัดแท็กซี่มาได้เลย เพราะรถไม่ติดแน่นอน ถ้าเอาสะดวกก็คงเป็นแท็กซี่ แต่ถ้าจะเอาราคาถูกหน่อย ก็แนะนำว่าเป็นรถบัสครับ ส่วนวันแข่ง รถรางกับบัสก็ใช้ได้เลย

“101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับแมนฯยูไนเต็ด คือ เรื่องที่เจาะลึกของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยร่วมงานกับสโมสรแห่งนี้เป็นเวลากว่าปีครึ่ง โดยนำเสนอเป็นประจำทุกวันจันทร์ศุกร์ ไปจนกว่าจะครบ 101 เรื่อง

ส่วนใครที่พลาดตอนอื่นๆของ “101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับแมนฯยูไนเต็ดไป สามารถเข้าไปย้อนอ่านกันได้ที่ https://tonkit360.com/tag/101-เรื่องลึกไม่ลับ