การคมนาคมในบ้านเมืองเราอาจจะยังไม่สะดวกเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะยังมีรถไฟฟ้าอีกหลายสายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ส่งผลให้บริการขนส่งสาธารณะยังคงเป็นทางเลือกสำหรับทุกคน และยิ่งในช่วง 2 ปี มานี้ บริการเหล่านี้ก็มีมากขึ้น แถมทันยุคทันสมัย เพราะสามารถเรียกรถได้ผ่านแอปพลิเคชั่น วันนี้ Tonkit360 ชวนมาฟังความคิดเห็นจากคนที่ใช้บริการแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ ในชีวิตประจำวันกัน
คุณกษิดิ์เดช นักศึกษา อายุ 21 ปี
“ปกติใช้บริการ GRAB BIKE และ GRAB TAXI โดยเฉพาะ GRAB BIKE จะดีมาก เพราะราคาถูกกว่าวินมอเตอร์ไซค์ทั่วไป แถมในบางสถานการณ์เราต้องการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ แต่ดันไม่มีวินมอเตอร์ไซค์แถวนั้น GRAB BIKE ก็จะตอบโจทย์มาก ส่วน GRAB CAR หรือ GRAB TAXI จริงๆ ถ้าสถานการณ์ปกติก็ไม่ค่อยได้เรียก คือใช้ TAXI ธรรมดาได้เพราะราคาใกล้เคียงกัน แต่จะเรียกผ่านแอปพลิเคชั่นในกรณีช่วงเย็น หรือฝนตก ที่เรียกรถ TAXI ธรรมดายากมากๆ”
คุณสุพรรษา พนักงานบริษัทเอกชน อายุ 22 ปี
“เราไม่ใช้แอปพลิเคชั่นเรียกรถเลย แต่จะเรียก TAXI มากกว่า เพราะคิดว่าสะดวกกว่า แล้ว TAXI รู้ทางด้วย แต่เราจะใช้ TAXI ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น กรณีไปที่ที่เราไม่รู้จัก เดินทางโดยรถสาธารณะแล้วงงเท่านั้น แต่ถ้าพอไปเป็นก็ไม่ใช้ TAXI เลย เพราะพูดตามตรงว่ากังวลเรื่องความปลอดภัย บางคันก็ขับเร็วมาก กับอีกเรื่องคือจะโดน TAXI ชวนคุยตลอดเส้นทาง บางทีก็รู้สึกอยากอยู่เงียบๆ เลยไม่ค่อยเรียก TAXI ถ้าไม่จำเป็น ในอนาคตอาจจะลองใช้แอปพลิเคชั่นเรียกรถดู”
คุณอนรรฆ อดีตนักศึกษาปริญญาโท ประเทศอังกฤษ อายุ 23 ปี
“ตอนอยู่ที่อังกฤษเราใช้ UBER เวลาที่กลับดึก หรือไปที่ไกลๆ พอกลับมาที่ไทย UBER ก็เริ่มให้บริการแล้ว โดยพื้นฐานคือบริการเหมือนที่อังกฤษ เราใช้เพราะรู้สึกว่าสะดวกสบายเรื่องการจ่ายเงิน ตัดผ่านบัตรได้ กับอีกเรื่องที่ชอบใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ เพราะเขามาแน่ๆ ไม่ต้องลุ้นว่าเขาจะปฏิเสธ เหตุผลนี้ทำให้เรายอมรอ อีกเรื่องที่ไม่ใช้ TAXI เพราะเรื่องของบริการและสภาพรถ ที่ทาง UBER จะดีกว่า รวมถึงเราสามารถรู้ราคาและเส้นทางที่เขาจะพาเราไปผ่านแอปพลิเคชั่นได้ ราคาก็รับได้ แต่พอช่วงหลัง UBER ราคาสูงขึ้น เราก็มีลองเปรียบเทียบราคากับ GRAB CAR ถ้าถูกกว่าก็ใช้ GRAB ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค เพราะเรามีทางเลือกมากขึ้น”
คุณศุภรัตน์ เลขานุการผู้บริหารบริษัทเอกชน อายุ 22 ปี
“เราใช้บริการแอปพลิเคชั่น GRAB เรียกรถเพื่อช่วยในการทำงาน พวกการส่งเอกสารต่างๆ ก็จะกดเรียกให้เขามารับเอกสารที่ออฟฟิศและเอาไปส่งให้ ขั้นตอนในการเรียกก็สะดวกดี แต่จะมีปัญหาเรื่องการประสานมากกว่า เพราะส่วนใหญ่เขาไม่ใช่ Messenger อาชีพที่จะค่อนข้างรู้งานว่าต้องประสานกับผู้รับยังไง ทำให้เราต้องสื่อสารกับเขาเยอะ แต่ก็นับว่าสะดวกดี ในการเรียกเป็นรายครั้ง ส่วนตัวเราใช้บริการเรียกรถบ้าง เรียก GRAB TAXI ข้อดีคือสะดวก ไม่ต้องเดินตากแดดไปยืนเรียกเอง แต่ก็มีที่เขากดยกเลิกเรานะ ภาพรวมคือแค่สะดวกขึ้นในการเรียก แต่บริการก็เหมือนเดิม เพราะจริงๆ ก็คือรถ TAXI ทั่วไป ต่างกันตรงที่เราเรียกเขาผ่านแอปพลิเคชั่นเท่านั้น”
คุณดุริยางค์ ธุรกิจส่วนตัว อายุ 33 ปี
“ผมใช้ UBER ในเวลาที่ไม่ว่างไปรับภรรยาและลูกชาย กดเรียกผ่านแอปพลิเคชั่น ให้เขาไปรับแล้วพาภรรยาและลูกมาส่งที่บ้านให้ ถือว่าสะดวกมาก เพราะทุกอย่างจบในแอปฯเดียว จ่ายเงินผ่านบัตรได้ ไม่ต้องใช้เงินสด อาจมีโทรถามทางบ้างนิดหน่อย แต่ที่ดีที่สุดคือ คนขับของ UBER เราค่อนข้างไว้ใจ เพราะมีรูป มีชื่อ-นามสกุลต่างๆ ชัดเจน ตรวจสอบได้ และทาง UBER เองก็ตรวจประวัติอาชญากรรมของคนขับด้วย ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราเลือกใช้บริการ UBER ในกรณีที่ไม่ได้ขับรถเอง”
เสียงสะท้อนถึงการใช้บริการแอปพลิเคชั่นเรียกรถเหล่านี้ อาจแสดงให้เห็นถึงไลฟสไตล์คนกรุง ที่มุ่งเน้นความสะดวกสบายและบริการที่ดี รวมถึงความชัดเจนตรวจสอบได้ของบริการนั้นๆ คงต้องมาดูกันต่อไป ว่า TAXI OK ที่กำลังจะเปิดตัวแอปพลิเคชั่นในวันนี้ จะกำจัดจุดอ่อนของ TAXI แบบเก่า และปรับโฉมปรับตัวในโลกการแข่งขันยุคใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้ขนาดไหน เอาเป็นว่าคงต้องเปิดใจลองใช้บริการกันดู