คำว่า Cyberbully กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังมีกระแสภาพหลุดแฟนดาราสาว สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข ปรากฏขึ้นในสื่อโซเชียลมีเดีย เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮา แม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษสังคมและชี้แจงว่ามือลั่น โพสต์ภาพนั้นแบบไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รีบลบภาพดังกล่าว แต่ไม่ทันชาวโซเชียลมือไวที่แคปภาพดังกล่าวเอาไว้ได้ ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ทำเอาโซเชียลร้อนระอุและแฮชแท็กสายป่าน ก็ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ลุกลามบานปลายไปไกลจนเกิดเป็นกระแส Cyberbullying ขึ้น
พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่าเด็กเล็กเริ่มใช้โซเชียล มีเดีย ตั้งแต่ ป.6 มีทั้งใช้เพื่อการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งปัญหาหนึ่งที่มาพร้อมกับโซเชียลมีเดียคือการกลั่นแกล้งรังแกในสังคมออนไลน์
การกลั่นแกล้งนั้นมีมาหลายยุคหลายสมัย และเป็นปัญหาสืบเนื่องยาวนาน เมื่อเดินทางมาถึงยุคปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็กลายมาเป็นเครื่องมือที่ทำให้การกลั่นแกล้งขยายวงกว้างและยาวนานขึ้น ทวีความรุนแรง สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ถูกกระทำ ซ้ำร้ายยังยากที่จะหาตัวผู้กระทำได้ เพราะต่างซ่อนตัวอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Cyberbullying ในยุคนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งหนักทั้งเบา ตั้งแต่การแสดงความคิดเห็นแบบเหยียดผู้อื่น ดูหมิ่นดูแคลน ล้อปมด้อย รูปลักษณ์ภายนอก ล้อเลียนความคิดความเชื่อ ไปจนถึงการล่าแม่มด เสียบประจานคนที่เห็นต่างจากตนเอง ส่วนที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นการปล่อยคลิปลับต่างๆ เพื่อทำลายอนาคต ซึ่งการกระทำทั้งหมดที่กล่าวไปอาจส่งผลให้ผู้ถูกกระทำเกิดภาวะเครียดกังวล ถึงขั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และอาจร้ายแรงถึงขนาดฆ่าตัวตายก็เป็นได้
ดังนั้นในฐานะประชากรของโลกโซเชียล เราควรจะระมัดระวังในการใช้เครื่องมือเหล่านี้ และร่วมรับผิดชอบสังคมโซเชียลที่เราอยู่ร่วมกัน รวมถึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดีกว่ามาใช้กลั่นแกล้งคนอื่น เพราะคำบางคำที่ดูไม่รุนแรงกับเรา แต่อาจจะไปทำร้ายจิตใจผู้อื่นเข้าอย่างจัง ส่วนคนที่ตกอยู่ในสถานะผู้ถูกกระทำ ก็ขอให้ตั้งสติ หาคนที่ตัวเองไว้ใจได้ เพื่อขอคำปรึกษาและหาทางออก ไม่ควรซึมเศร้าอยู่กับตัวเองหรือตอกย้ำตัวเองตามคำล้อ หรือคำดูถูกเหล่านั้น แต่หากโดนกลั่นแกล้งหรือถูกล่าแม่มดอย่างรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิต ก็ควรจะปรึกษาทนายความและแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและเป็นบทเรียนให้กับเหล่านักเลงคีย์บอร์ด หรือเกรียนโซเชียลต่างๆ ให้รู้ว่าเขาจะต้องหัดเคารพผู้อื่นเสียบ้าง