ศึก “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2025” หรือ ARRC สนามสุดท้ายที่ประเทศไทย จบด้วยชัยชนะของนักบิดไทยพาเหรดคว้าชัยและขึ้นโพเดียมทุกรุ่น ในเรซวันอาทิตย์เราได้ยินเพลงชาติไทยครบทุกรุ่น อย่างไรก็ดี เราก็อดเสียดายไม่ได้กับโอกาสที่ 2 นักบิดไทยจาก 2 ค่าย ที่พลาดหวังจากการคว้าแชมป์เอเชียครั้งแรกของตัวเองไปแบบฉิวเฉียดจริง ๆ
ก่อนหน้านี้หากย้อนดูประวัติศาสตร์โมโตจีพี การเป็นแชมป์โลกด้วยคะแนนใกล้เคียงกันที่สุดเกิดขึ้นสมัยยังเป็นรุ่น 500 ซีซี เวย์น เรย์นี เฉือน ไมเคิล ดูฮาน ไป 4 คะแนน ขณะที่ฝั่งเอฟวัน ปี 1984 นิกิ เลาด้า เฉือน อแล็ง พรอสต์ ไป 0.5 คะแนน นั่นเท่ากับว่าบน 2 เวทีใหญ่ ยังไม่เคยมีการตัดสินแชมป์เมื่อ 2 นักแข่งมีคะแนนเท่ากัน
โดยหากเป็นกีฬาฟุตบอล ถ้าคะแนนเท่ากันก็คงต้องวัดที่ประตูได้เสียื หรือวัดกันที่ Head to Head เพื่อหาผู้ที่เป็นแชมป์เพียงหนึ่งเดียง ในกีฬาแข่งรถก็เช่นกันครับ ไม่บ่อยครั้งนักที่คะแนนสะสมของนักแข่งเท่ากันเป๊ะในการแข่งขันสนามตัดสินแชมป์ ซึ่งการตัดสินแบบ Head to Head เกิดขึ้นในการชิงแชมป์เอเชีย 2025 รุ่น SS600
รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 เรซสุดท้ายของปี เป็นอีกเรซที่ดราม่าสุด ๆ พลิกไปพลิกมาตั้งแต่รอบแรกจนผ่านเส้นชัย โดยก่อนแข่ง “ตี” อนุภาพ ซามูล จากยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม มีลุ้นแชมป์เต็มตัว เพราะทำแต้มไล่หลังจ่าฝูงอย่าง คาสมา ดาเนียล นักบิดยามาฮ่าจากมาเลเซีย เพียง 3 แต้มเท่านั้น
การชิงชัย 12 รอบสนาม มีการสลับตำแหน่งผู้นำกันแทบทุกรอบ ก่อนจะมาพลิกในรอบสุดท้าย เมื่อ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว ดาวรุ่งจากฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อาศัยจังหวะที่ยอดเยี่ยม เสียบแซงเข้าป้ายเป็นคันแรก ขณะที่ “ตี-อนุภาพ” เบียดขึ้นโพเดียมในอันดับ 3 โดยมีคาสม่า ดาเนียล ตามเข้าป้ายอันดับ 4
ณ วินาทีนั้น ทีมงานยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เฮกันแบบสุดตัว เพราะคิดว่าคะแนนสะสมของอนุภาพแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้แล้ว ทว่าการเบียดขึ้นมาจบอันดับ 4 ของคาสม่า ดาเนียล ทำให้แต้มสะสมทั้งคู่เท่ากันที่ 167 คะแนน ต้องไปไล่ผลงานในแต่ละเรซเพื่อหาแชมป์เพียงหนึ่งเดียว
ตามกติกาของ ARRC หากแต้มเท่ากัน จะไปวัดกันที่ใครชนะมากกว่า ก็ปรากฏว่า “อนุภาพ” กับ “คาสม่า ดาเนียล” ดันชนะเท่ากันที่คนละ 1 วินเนอร์ นั่นก็ต้องไล่ต่อว่าใครได้โพเดียมอันดับ 2 มากกว่ากัน ซึ่ง “คาสม่า” จบที่ 2 ได้ 4 เรซ ส่วน “ตี” ทำได้ 2 เรซ ส่งผลให้นักบิดเจ้าของรถหมายเลข 500 ทำได้ดีที่สุดด้วยการเป็นรองแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้
ขณะที่ในรุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จากฟากของ “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ก็เป็นอีกหนึ่งนักบิดไทยที่มีโอกาสลุ้นแชมป์เอเชียสมัยแรกของตัวเองจนถึงโค้งสุดท้าย ทว่า “ชิพ” ก็ทำเต็มที่ด้วยการคว้าชัยโฮมเรซทิ้งท้าย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะเป็นแชมป์เอเชีย โดยขาดไปเพียง 3 แต้มเท่านั้น
เท่ากับว่าใน ARRC 2025 นักบิดไทยเราพาเหรดคว้ารองแชมป์เอเชียได้ถึง 3 รุ่น (อีกคนคือ ไอเดีย-กฤตภัทร เขื่อนคำ จากยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่จบซีซันด้วยรองแชมป์เอเชียรุ่น AP250) ผมเชื่อว่าทั้งนักแข่งและแฟน ๆ ต่าง “เสียดายแต่ไม่เสียใจ” กับความพยายามของทุกคนที่ใส่จนสุดแล้วจนถึงโค้งสุดท้าย
ผมเชื่อว่ารองแชมป์เอเชียในปีนี้ของทั้ง ตี, ไอเดีย และชิพ จะกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เจ้าตัวและทีมงานทั้ง 2 ค่ายกลับมาอย่างแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมาย “แชมป์เอเชีย” เป็นเดิมพันอีกครั้งในปี 2026 อย่างแน่นอนครับ