Last Summer ฤดูร้อนและสองเราที่หวนคืน กับความลับในอดีตที่ลืมไม่ลง

ภาพจาก FB: KBS 드라마

เข้าสู่ช่วงปลายปีแล้ว หลายคนจะทราบดีว่าซีรีส์ดี ๆ ชอบมากองรอคิวปล่อยออกอากาศช่วงปลายปีแบบนี้แหละ อย่างปีนี้ก็มีซีรีส์เข้าใหม่น่าดูอยู่ล้านแปดเรื่อง เปิดลิสต์รายชื่อมาทีนี่เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเลยว่าจะจิ้มดูเรื่องไหนก่อนดี เข้าใจเลยว่าอาการรักพี่เสียดายน้องมันเป็นยังไง 555 แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จำเป็นที่ต้องตัดสินใจเลือกในเมื่อเวลามีจำกัด ต้องเลือกเรื่องที่เพิ่งเริ่มเล่น ฉายแล้วจำนวนตอนน้อย ๆ ด้วย เพื่อจะได้จัดสรรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง และอีกปัจจัยสำคัญ ช่วงนี้อารมณ์สวิงจัด ๆ เลยตัดสินใจง่ายขึ้นหน่อยว่าขอเรื่องที่ไม่กระทบอารมณ์เกินไป ไม่งั้นเดี๋ยวอารมณ์จะยิ่งดิ่งไปกันใหญ่ อย่าง 2 เรื่องล่าสุด เห็นเขารีวิวกันว่ามันดาร์กสุดทางมาก ช่วงนี้ก็ต้องพักไว้ก่อน

เรื่องที่เลือกมาในสัปดาห์นี้เลยขอเป็นแนวโรแมนติกเบาใจ ที่ถึงจะปมเยอะแต่มันไม่ได้สูบพลังงานในการดูมากขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้กระชากอารมณ์ให้ดำดิ่งตามเท่าไรด้วย Last Summer เท่าที่เปิดดู 2 ตอน มันก็ออกแนว feel good ดีนะ เรื่องราววัยเยาว์ของตัวละครมันชวนให้คนดูเปิดกล่องความทรงจำในวัยเยาว์ของตัวเองออกอีกครั้งเหมือนกัน โดยที่บางความทรงจำถูกเก็บและปิดไว้อย่างมิดชิดในกล่องแพนโดรา ที่ถ้าเปิดออกมาเมื่อไร เราอาจจะกลับไป “พัง” อีกครั้ง ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับตัวละครนางเอก เธอพยายามหนักมากที่จะผ่านหน้าร้อนไปโดยไม่นึกถึงสิ่งที่เก็บไว้ในกล่องนั่น เธอจึงพยายาม “ขายบ้าน” ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ 17 ปีของเธอ

ภาพจาก FB: KBS 드라마

แต่เรื่องนี้มันน่าสนใจตรงที่มันมีกลิ่นอายของความลึกลับอยู่หน่อย ๆ และมีประเด็นหนึ่งที่น่าจะทำให้คนดูทุกคนต่อมสงสัยทำงานเหมือน ๆ กัน (เดี๋ยวไว้พูดถึงอีกที) บรรยากาศในเรื่องมันอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของหน้าร้อน แสงแดดแผดเผาที่มาพร้อมกับความสดใส ส่วนใหญ่มันก็ทำให้เราสดชื่นกระชุ่มกระชวย แต่บางทีมันก็ทำให้เราอึดอัด และบางที หน้าร้อนก็มีพายุ ความรุนแรงของพายุก่อให้เกิดมหันตภัยทั้งทางกายภาพและภายในจิตใจที่ยากเกินจะเยียวยา ซึ่งในใจของนางเอก หายนะจากหน้าร้อนเมื่อ 2 ปีก่อนยังคงอยู่ เธอพยายามลืมมันทุกอย่าง ทว่าคนที่มีอิทธิพลต่อการนึกถึงหายนะครั้งนั้นดันกลับมา เพื่อที่จะมาไขปริศนาของความลับที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน

Last Summer เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มสาว 2 คน (เอ๊ะ หรือ 3 คน!) ที่เคยอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน บ้านหลังนั้นเป็นบ้านแฝดที่มีหลังคาเดียวกัน แต่มีผนังกั้นความเป็นส่วนตัวของ 2 ครอบครัว ฝั่งครอบครัวของนางเอกมีพ่อ แม่ และเธอที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ เพียงคนเดียว นอกนั้นเป็นเด็กที่พ่อแม่ของเธอเก็บมาเลี้ยงดู เธอในวัยเด็กไม่ปลื้มใจเอามาก ๆ ที่ในบ้านเต็มไปด้วยพี่น้องนอกไส้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนฝั่งครอบครัวพระเอก บ้านนี้มี “ลูกแฝด” ปกติจะอยู่กันแค่ 2 คนพ่อลูก เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้างกัน แฝดคนโตอยู่กับพ่อที่เกาหลี แฝดคนน้องไปอยู่กับแม่ที่อเมริกา ทว่าในทุก ๆ ปิดเทอมหน้าร้อน แฝดคนน้องจะกลับมาเยี่ยมพ่อที่เกาหลีเป็นเวลา 21 วัน แล้วกลับไป

ภาพจาก FB: KBS 드라마

พวกเขาเติบโตกันมาแบบนี้ ในทุก ๆ หน้าร้อน การกลับมาของเขา-แฝดคนน้อง จะทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจเธอเสมอ จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไป เธอออกปากตัดสัมพันธ์กับเขาและไม่ต้องการที่จะเจอหน้ากันอีก ส่วนเขาก็เคารพการตัดสินใจของเธอ เขารู้ว่าเธอยังเจ็บปวด เขาจึงไม่กลับเกาหลีอีกเลยในช่วงเวลา 2 ปีนั้น จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนที่เกลียดฤดูร้อนเข้าไส้ เธออคติกับหน้าร้อนว่าเป็นฤดูที่แย่ที่สุดสำหรับเธอ แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่ม เขาเฝ้ารอฤดูร้อนในทุก ๆ วัน เขาอยากจะกลับมาแก้ไขเรื่องราวในครั้งนั้น และผ่านฤดูร้อนที่ทนไม่ไหวนั่นไปกับเธอ

และแล้วพวกเขาทั้ง 2 คนก็จำต้องหวนกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 2 ปี เพราะเธอพยายามที่จะขายบ้านแฝดนั่นทิ้งเพื่อลบลืมความทรงจำทุกอย่าง และหนีออกจากเมืองนี้ที่เธอใช้ชีวิตอยู่มา 17 ปี ทุกอย่างเกือบจะไปได้สวย เธอได้รับมอบอำนาจจากพ่อของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอีกฝั่งแล้วเรื่องที่จะขายบ้าน แต่จู่ ๆ ทุกอย่างกลับสะดุดในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อเขาคนนั้นที่เธอไม่อยากเจอหน้าอีก ดันเป็นเจ้าของร่วม การที่เขาก็มีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ และเขาก็ไม่ยอมให้เธอขายบ้าน ทำให้เธอหัวเสียอย่างแรงถึงขั้นที่จะฟ้องตามกฎหมาย ทว่าจริง ๆ แล้ว นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของเขาที่จะกลับมาเจอเธออีกครั้งต่างหาก

ความทรงจำหลั่งไหลกลับมา มันเคยถูกแช่แข็งไว้ในช่องฟรีซ แต่ความร้อนของหน้าร้อนทำให้มันละลายไป

เนี่ย! แล้วจะไม่ให้ติดเรื่องนี้ได้ยังไง เปิดเรื่องมา 2 อีพี พี่แกเล่นทิ้งสปอยล์เอาไว้รัว ๆ เลยว่า “หน้าร้อนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว” มันเกิดเรื่องบางเรื่องขึ้น และมันได้กลายเป็น “จุดแตกหัก” ของพระเอก นางเอก และ (น่าจะ) ฝาแฝดอีกคนด้วย ที่สำคัญก็คือ หน้าร้อนนั้น “มีคนตาย” (ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครตาย) นั่นยิ่งทำให้นางเอกเกลียดหน้าร้อนหนักขึ้น ชังหน้าพระเอกมากขึ้น และดูเหมือนว่าเธอพยายามมากขึ้นด้วยที่จะย้ายออกไปจากเมืองนี้เร็ววัน เธอรีบขายบ้าน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูย้อนแย้งกันอยู่ เพราะมันมีฉากหนึ่งที่พระเอกพูดแซะนางเอกเรื่องที่รีบขายบ้าน แต่ที่ผ่านมานางเอกกลับเรื่องมากเรื่องคนที่จะมาซื้อบ้านตลอด แล้วก็ปฏิเสธที่จะขายไปทุกที

ภาพจาก FB: KBS 드라마

เอาจริงนะ ไม่ว่าฤดูร้อนเมื่อ 2 ปีก่อนมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หรือเรื่องมันอาจจะร้ายแรงขนาดที่มีคนตาย (!?) แต่นี่ว่านางเอกนางก็ดูเข้มแข็งขึ้นเยอะแล้วนะ ดูใช้ชีวิตได้เป็นปกติดีทั้งที่ต้องอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับคนคนหนึ่งมากขนาดนั้น คือแบบว่าความเจ็บปวดน่าจะเบาบางลงไปเยอะแล้วแหละ ถ้าไม่ใช่ว่าฤดูร้อนมันวนเวียนเป็นวัฏจักรมาให้นึกถึงอยู่ทุกปี มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อหน้าร้อนมาเยือน และยิ่งในปีนี้ ดันเป็นปีที่พระเอกหวนคืนกลับมาหลังจากที่ขาดการติดต่อกันไป 2 ปี นั่นทำให้ความทรงจำที่เธอเคยแช่แข็งไว้มันละลายด้วยอุณหภูมิของหน้าร้อน และตัวตนของใครบางคนที่ยังมีอิทธิพลต่อหัวใจ ยิ่งทำให้คนดูอยากรู้มากขึ้นไปอีกว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

และประเด็นที่น่าสนใจที่สุดก็คือ เรื่องราวของฝาแฝด! เพราะมีการกล่าวถึงฝาแฝดตั้งแต่ในเรื่องย่อแล้ว ว่าหลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างกัน แฝดคนหนึ่งอยู่กับพ่อที่เกาหลี ส่วนแฝดอีกคนไปอยู่กับแม่ที่สหรัฐอเมริกา และแฝดคนที่ไปอยู่อเมริกาจะกลับมาเยี่ยมพ่อและแฝดอีกคนที่เกาหลีในทุก ๆ ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเป็นเวลา 21 วัน และนั่นก็เป็นช่วงที่พวกเขาได้ทำความรู้จักกับเด็กหญิงข้างบ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่จากเรื่องราวใน 2 อีพีที่ผ่านมา เรายังไม่เห็นวี่แววของแฝดอีกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เล่าในช่วงวัยผู้ใหญ่ หรือช่วงที่ flashback กลับไปเล่าเรื่องราวในวัยเด็ก มันทำให้อดสงสัยไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าแฝดอีกคนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แม้แต่พ่อของฝาแฝดก็ยังไม่พูดถึงลูกอีกคนเลย

ภาพจาก FB: KBS 드라마

ที่สำคัญก็คือ ปฏิกิริยาของนางเอกที่ออกอาการทั้งหวงทั้งอาลัยอาวรณ์ของในกล่องความทรงจำใบนั้นขนาดนั้น เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกลับไปเอามาตอนที่พายุเข้าและน้ำท่วมบ้าน แต่ที่น่าสังเกตคือป้ายชื่อในกล่องใบนั้นคือ “แบคโดยอง” แต่พระเอกที่กลับมาค้านนางเอกเรื่องขายบ้านคือ “แบคโดฮา” แล้วเท่าที่สังเกตเรื่องราวในอดีต คนคนนั้นน่าจะเป็นโดยอง (คนที่อยู่เกาหลี) ไหม เพราะปกติโดฮาจะอยู่อเมริกา กลับมาแค่ช่วงหน้าร้อน และอยู่แค่ 21 วัน ก็ไม่น่าที่จะมีซีนใส่ชุดนักเรียนเกาหลีไปโรงเรียนกับนางเอกได้อยู่แล้ว และไหนจะซีนงานศพที่ขยันปล่อยออกมายั่วความอยากรู้อยากเห็นคนดูอีก มันคืองานศพใครกันแน่ (แต่คิดว่าไม่ใช่คนบ้านพระเอกหรอก เพราะนางเอกอยู่ในชุดเจ้าภาพ)

เรามีกล่องที่ไม่ควรเปิดเด็ดขาด

เรื่องราวของพระเอกนางเอกเรื่องนี้ มันเหมือนกับกล่องแพนโดราที่เปิดไม่ได้ ซึ่งตัวพระเอกเองก็ดูจะรู้ดีว่าไม่ควรเปิดกล่องใบนั้น แววตาของนางเอกยังฉายแววเจ็บปวดอยู่เมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหน้าร้อนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (ส่วนคนดูอย่างเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องมันร้ายแรงขนาดไหน) แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน สุดท้ายพระเอกดันเลือกที่จะไม่เป็นฝ่ายยอมแพ้ให้นางเอกอีกแล้ว ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายยอมให้เธอมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก ครั้งนี้เขาเลือกที่จะขัดใจนางเอก นางเอกบอกให้ไสหัวไป ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก แต่เขาก็ยอมอยู่แค่ 2 ปีเท่านั้น แล้วกลับมาเจอเธอ กลับมาทวงคืนความทรงจำตลอด 17 ปีที่นางเอกพยายามจะลืม

“กล่องที่ไม่ควรเปิด” ที่พระเอกพูดถึง คาดว่าน่าจะหมายถึงทั้งกล่องความทรงจำดี ๆ ระหว่างหนุ่มสาว 3 คน ที่สำหรับนางเอก มันเป็นแค่อดีตที่ไม่น่าจดจำ และอีกกล่องคือกล่องที่เก็บและปิดความทรงจำอันเจ็บปวดของนางเอกที่น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกเขา 2 คนพี่น้อง ซึ่งกล่องใบนั้นคือเรื่องราวที่ยังคงทำร้ายนางเอกอยู่จนถึงปัจจุบัน การเปิดกล่องใบนี้โดยพลการ จะทำให้บาดแผลทางอารมณ์ของนางเอกถูกเปิดออก และเขาจะต้องรับมือกับการถูกนางเอกปฏิเสธ ถูกขับไล่ ถูกหมางเมินมากกว่าที่โดนในอีพี 1-2 อีกหลายเท่า แต่เขาดูจะเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับเรื่องนั้นไว้แล้ว เขาไม่กลัวว่าจะเจออารมณ์ร้าย ๆ จากนางเอก เขาแค่ต้องการจับมือเธอให้ผ่าน “หน้าร้อน” ที่เคยเจ็บปวดไปให้ได้เท่านั้น

ภาพจาก FB: KBS 드라마

ตามตำนานเทพปกรณัมกรีก ใคร ๆ ก็รู้ว่าการฝ่าฝืนคำสั่งของเทพซุส และเอาชนะความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ของแพนโดรา ทำให้เธอตัดสินใจเปิดโถออก มันนำมาซึ่งหายนะขนาดไหน แต่สิ่งสุดท้ายที่ยังอยู่ก้นโถนั้นก็คือความหวัง ทว่าแพนโดรารีบปิดโถด้วยความตกใจ ทำให้ความหวังยังคงถูกเก็บไว้อยู่ในโถ ดังนั้น กล่องแพนโดราที่เปิดไม่ได้ แต่ถ้าคิดที่จะฝ่าฝืนเปิดมันออกจริง ๆ ก็ต้องเปิดออกให้สุด เปิดแบบปล่อยจอย อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเกิดแบบนั้นแหละ นี่คือสิ่งที่พระเอกกำลังจะทำ เขารู้ดีว่านางเอกไม่ยอมที่จะเปิดกล่องใบนี้แน่ ๆ แต่ถ้าเขาพยายามให้มากพอ เพื่อให้เธอเปิดมันออกและยอมรับความจริงให้ได้ สุดท้ายความหวังก็จะถูกปลดปล่อยออกมา ทั้งคู่จะได้รับการเยียวยา

เหตุผลที่เลือกที่จะเปิด Last Summer ขึ้นมาดู ทั้งที่ตอนแรกลังเลอยู่กับซีรีส์อีกเรื่องที่เป็นแนวคอเมดี นอกจากจะเพราะ “อีแจอุค” พระเอกของเรื่อง ก็เพราะชอบ vibe ที่มันเล่าเกี่ยวกับความทรงจำในอดีตนี่แหละ พล็อตแบบนี้ไม่ใช่พล็อตแปลกใหม่ แต่มันทำให้เราหวนนึกถึงเรื่องราวของตัวเอง โดยเฉพาะความทรงจำที่ถูกผูกไว้กับใครบางคน อย่างที่พระเอกบอกเลย คนเราทุกคนมีกล่องที่ไม่ควรเปิด ไม่เว้นแม้แต่คนดูอย่างเรา ๆ ที่ก็มีกล่องแพนโดราที่เก็บความลับไว้ไม่ต่างกัน แล้วยังจำได้ไหมว่ากล่องใบนั้นเก็บเรื่องราวอะไรไว้ ทำไมมันถึงไม่ควรเปิดออก เราไม่กล้าที่จะเปิดมัน เพราะกลัวว่าเรื่องราวจะหลั่งไหลกลับมา แล้วเราจะรู้ว่าเรายังไม่ลืม และยังรับมือกับมันไม่ได้หรือเปล่า? 🔑