รวมเด็ดเคล็ดไม่ลับ สำหรับวันที่ “ไม่แต่งหน้า” ออกจากบ้าน

“ถึงจะปล่อยหน้าสดแต่ก็ยังสวยอยู่” นี่อาจจะเป็นความปรารถนาเล็ก ๆ ของผู้หญิงเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ เพราะเอาเข้าจริง ถ้าผู้หญิงเรารู้สึกว่าตัวเองสวยแล้ว หรือรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากพอที่จะออกจากบ้านโดยไม่แต่งหน้า พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลยด้วยซ้ำไป และเชื่อเถอะว่าผู้หญิงทุกคนล้วนมีวันที่ไม่อยากแต่งหน้าออกจากบ้าน ไม่ว่าจะด้วยความขี้เกียจ จำเป็น หรือตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พวกเธอก็ยังอยากดูดีในแบบของตัวเอง

จริง ๆ แล้วมีหลายสถานการณ์เลยทีเดียวที่ผู้หญิงจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องปล่อยหน้าสด เช่น ตื่นสายแล้วแต่งหน้าจัดเต็มไม่ทัน มีปัญหาสุขภาพหรือปัญหาผิวหนัง ทำให้ต้องพักการแต่งหน้าจัด ๆ ตามหมอสั่ง สิวอักเสบเห่อ การแต่งหน้ายิ่งทำให้ล้างยาก อุดตันเพิ่ม แถมเจ็บระบมตอนล้างหน้าสุด ๆ หรือบางคนก็ต้องออกไปทำกิจกรรมบางอย่างที่ไม่แต่งหน้าน่าจะสะดวกกว่า

บางคนอาจตั้งใจที่เปลือยหน้าสด เพราะแค่อยากพักผิว ไม่ต้องการให้มีเครื่องสำอางมาหนักหน้าในบางวัน บางคนก็ด้วยเหตุผลขี้เกียจล้วน ๆ ขี้เกียจแต่ง ขี้เกียจล้าง หรือบางคนก็แค่อยากมีลุคธรรมชาติ ๆ แต่งน้อย ๆ แต่งเบา ๆ จนแทบไม่แต่ง บางคนมั่นใจในตัวเองแบบนี้ ฉันไม่เดือดร้อนกับการออกจากบ้านหน้าสด บางคนแค่เบื่อกรอบของสังคมที่ต้องสวยเพอร์เฟกต์ตลอดเวลา และ…ผู้หญิงที่แต่งหน้าไม่เป็นเลยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี

ไม่ว่าผู้หญิงจะไม่แต่งหน้าออกจากบ้านด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การไม่แต่งหน้าหรือการเปลือยหน้าสดออกจากบ้าน ไม่ได้หมายความว่าต้องออกไปแบบหน้าเปล่า ๆ เปลือย ๆ โล้น ๆ หรือปล่อยตัวให้ดูโทรมสักหน่อยนี่ เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ควรต้องลงสกินแคร์บำรุงผิว ต้องโบกครีมกันแดด นอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่คนว่าจะไม่แต่งเติมอะไรเลย หรือจะกลบนิดเสริมหน่อยแบบเบา ๆ โดยที่ยังเน้นการเปลือยผิวเป็นส่วนใหญ่อยู่ นี่คือเคล็ดไม่ลับสำหรับสาว ๆ ที่จะออกจากบ้านโดย “ไม่แต่งหน้า” เต็ม ถึงหน้าสดก็ยังดูดี ดูรอด ต้องเน้นเรื่องใดบ้าง

กุญแจสำคัญของการเปลือยหน้าสด คืองานผิว!

พื้นฐานของความสวยแบบไม่แต่งหน้าคือ “ผิวสุขภาพดี” ซึ่งมันจะต้องเริ่มตั้งแต่การล้างหน้าให้สะอาด ต่อให้ไม่แต่งหน้าก็ต้องรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับผิว เพื่อไม่ให้มีการตกค้างของสิ่งสกปรกจนเกิดการอุดตัน ซึ่งมันจะตามมาด้วยปัญหาเรื้อรังอย่างสิว จากนั้นก็ต้องคอยดูแลผิวหน้าอย่างใส่ใจ หากรู้สึกว่าสิวขึ้นเยอะจนผิดปกติ ต้องไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา อย่าปล่อยไว้เฉย ๆ หลีกเลี่ยงการลองนั่นลองนี่ตามมีตามเกิด ประเภทที่ใครเขาบอกว่าอะไรดีก็ไปหามาใช้ต้องพัก เพราะผิวหน้าคนเราไม่เหมือนกัน เหมาะกับเขาแต่อาจไม่ถูกกับหน้าเราก็ได้ ถ้าดันเจอแจ็กพอตแพ้สารอะไรขึ้นมา ความพังพินาศจะไปกันใหญ่

เคล็ดลับการสร้างงานผิว คือการเติมความน้ำให้ผิวด้วยไฮยาลูรอน และกักเก็บน้ำในผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แลดูอิ่มฟู อิ่มน้ำฉ่ำโกลว์ มีชีวิตชีวา เปล่งปลั่งสดใส หน้าเงาใสในตัวเอง ชนิดที่ไม่ต้องลงรองพื้นก็ยังดูดี ที่สำคัญคือเหมือนมีไฮไลต์ตามธรรมชาติที่เราไม่จำเป็นต้องพึ่งไฮไลต์เลย นี่แหละคือเรื่องพื้นฐานของพื้นฐาน สำหรับคนที่อยากลองออกจากบ้านด้วยหน้าสด แต่ก็ยังคงดูดีและมั่นใจ

นอกจากนี้ ระหว่างวันก็ต้องรอดนะ ลองพกสเปรย์น้ำแร่หรือมิสต์ไว้เติมความสดชื่นระหว่างวัน ใช้ฉีดเบา ๆ ลงบนหน้าช่วงระหว่างวัน หรือเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้งหรือหมองลง จะช่วยคืนความชุ่มฉ่ำให้ผิวทันที ผิวจะดูฟู ดูโกลว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย

ห้ามลืม “ครีมกันแดด” เด็ดขาด

ถ้ายังไม่รู้ล่ะก็ จงรู้ไว้ว่า “แสงแดด” หรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) คือศัตรูตัวฉกาจของผิว! แม้ว่ารังสี UVB จะมีประโยชน์อยู่บ้างในการช่วยสร้างวิตามินดี 3 เมื่อแสงแดดสัมผัสกับผิวหนัง แต่ก็ต้องเลือกช่วงเวลาให้ดีและไม่ควรได้รับนานเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะทำลายผิวได้มากกว่าที่คิด ซึ่งแสงแดดเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวเสีย แห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ สารพัดจุดด่างดำ ฝ้าแดด หน้าพัง ที่แย่ที่สุดก็คือดูแก่กว่าวัย และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย โดยเฉพาะแดดเมืองไทยตอนสาย ๆ บ่าย ๆ เนี่ย ทำผิวไหม้ได้ง่าย ๆ เลย ดังนั้น ต่อให้ออกจากบ้านแบบหน้าสดยังไงก็ห้ามลืมโบกครีมกันแดดเด็ดขาด

แม้ว่าจะไม่ต้องการลงอะไรบนใบหน้าเลย แต่ขอให้ถือว่าครีมกันแดดเป็นเมกอัปตัวสำคัญของการเปลือยหน้าสดก็ได้ เลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง บางเบา คุมมัน ไม่วอก หรืออาจลองเลือกกันแดดที่ช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นเล็กน้อย ก็จะช่วยให้ผิวดูเนียนและขาวขึ้นทันทีโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไรเพิ่ม ที่สำคัญอีกอย่าง อาจต้องลงทุนกับครีมกันแดดเสียหน่อย เลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้ว่ามีมาตรฐานในการใส่สารกันแดดจริง ๆ กันแดดทิพย์แบบที่เป็นข่าวฉาวในออสเตรเลียไม่เอา ศึกษาเรื่องค่า SPF และ PA ในครีมกันแดด รวมถึงวิธีใช้ครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

กลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น ให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

การหน้าสดออกจากบ้าน ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องปล่อยหน้าโล้น ๆ โทรม ๆ แบบคนเพิ่งล้างหน้าเสร็จเสมอไป ไม่แต่งหน้าเลยมันก็ใช่ แต่บางทีมันก็เป็นแค่การพักหน้า ไม่แต่งหน้าแบบจัดเต็ม ไม่ประโคมลงเครื่องสำอางทุกสิ่งอย่างที่มีบนโลกลงบนหน้า ไม่ลงรองพื้น ไม่แต่งนั่นเติมนี่เยอะแยะ แต่เราสามารถดูดีได้ด้วยการกลบจุดด้อยและเสริมจุดเด่นบนใบหน้า เพื่อให้ดูสดใสขึ้น เพราะอย่าลืมว่าการที่เราจะกล้าหน้าสดออกจากบ้าน เราเองก็ต้องรู้สึกมั่นใจในตัวเองด้วยที่จะออกจากบ้านสภาพนี้ ถ้าไม่มั่นใจก็กลับไปแต่งแบบจัดเต็มเถอะ! ต้องเอาความสบายใจของตัวเองเป็นหลัก

ถ้าการเปลือยผิวเฉย ๆ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ เราสามารถใช้คอนซีลเลอร์ คอเรคเตอร์ หรือคุชชั่นเนื้อบางเบาปิดกลบจุดด้อยบนหน้าได้ โดยแตะเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิดแทนการลงรองพื้นหนา ๆ เพื่อให้ยังคงความเป็นงานผิวอยู่ เช่น บริเวณใต้ตาคล้ำ รอยสิว รอยดำ รอยแดง และที่สำคัญอีกอย่างคือริมฝีปาก จะปล่อยให้ขาวซีด แห้งแตก โทรมเหมือนคนป่วยก็ใช่ที่ อย่างน้อยก็ลงลิปบาล์มบำรุงให้ชุ่มชื้นเสียหน่อย และหากเคยได้ยินคำว่า Red Lip Theory หรือทฤษฎีลิปสติกสีแดงกันมาบ้างล่ะก็ จงนำมันมาใช้ประโยชน์ วิธีก็ง่าย ๆ แค่ทาลิปสติกสีแดงในวันที่ปล่อยหน้าสด สามารถสร้างลุคที่ดูสวยครบได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายในพริบตา ความเชื่อนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันคือเรื่องจริง!

ส่วนการเสริมจุดเด่น ให้เน้นที่คิ้ว ที่ได้ชื่อว่าเป็นมงกุฎของหน้า จัดแต่งทรงคิ้วให้เป็นระเบียบ เติมหัวเติมหางไม่ให้เว้าแหว่ง หรืออาจแค่ใช้มาสคาร่าคิ้วแบบเจลใสปัดให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวยงาม ก็ช่วยให้ใบหน้าดูมีกรอบชัดเจนขึ้น ถัดมาคือดวงตาและขนตา เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ก็อาจจะลงอายแชโดว์สีอ่อน ๆ ที่เปลือกตา แล้วดัดขนตาให้งอนเด้งเบา ๆ เพื่อให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้นทันที หรืออาจจะปัดมาสคาร่าใส หรือสีดำแบบบางเบาอีกสักหน่อยก็ได้ ถ้าต้องการให้ใบหน้าดูมีอะไรขึ้นอีกนิด

อย่าลืมผิวกาย และควรดูแลจากภายในด้วย!

แม้โฟกัสอยู่ที่หน้าเป็นหลัก แต่อย่าลืมว่าความมั่นใจของเรานั้นมันมาจากภาพรวมทั้งหมด การทาโลชั่นหรือบอดี้ออยล์ลงบนผิวกายหลังอาบน้ำ ให้ผิวดูชุ่มฉ่ำ เปล่งปลั่ง มีประกายเบา ๆ แค่นี้ก็พร้อมออกจากบ้านด้วยลุคที่ดูธรรมชาติแต่ไม่โทรมแล้ว นอกจากนี้ การดูแลตนเองจากภายในก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราดูไม่โทรม ไม่ยม ไม่เหนื่อย เพราะถึงหน้าจะดูสวยสดใส แต่ความโทรม ความเหนื่อยล้ามันก็สังเกตเห็นได้ง่าย เพียงแค่นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง ผิวอิ่มฟู และลดรอยคล้ำใต้ตา ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่งจากภายใน และกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ที่มีวิตามินสูง ก็ช่วยบำรุงผิวจากภายในได้เช่นกัน