ซีเอ็มเอ็มยูเปิดขุมทรัพย์และอานิสงส์สมรสเท่าเทียม โอกาสอัพจีดีพีไทยโต 0.3% กางผลวิจัย Love Wins Marketing ถอดรหัสตลาดหัวใจหลากสีชี้ LGBTQIA+ ไทย สายเปย์ตัวมัม พร้อมการันตีเป็นเส้นทางใหม่ช่วยแบรนด์โตยั่งยืน
- ถอดรหัสการตลาดหลัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เอฟเฟกต์บวกต่อวงการเวดดิ้ง ท่องเที่ยว อสังหาฯ วางแผนครอบครัว ประกันและสุขภาพ และบริ
การทางกฎหมาย ช่วยสร้างรายได้เพิ่มกว่า 1.52 แสนล้านบาท แง้ม LGBTQIA+ ยอมจ่ายด้ านการแต่งงาน 56% ด้านการมีบุ ตรและบ้าน 54% “LGBTQ+ อยากมีลู กสูงถึง 4 เท่า” - คาดหลังบังคับใช้ พ.ร.บ.ฯ นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 4 ล้านคน พร้อมดันไทยนั่งบัลลังก์เมืองท่
องเที่ยวเป็นมิตรต่อ LGBTQIA+ จ าก 213 ประเทศทั่วโลก
วิ
อาจารย์ประเสริฐ ธนัชโชคทวี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวในงานสัมมน “Love Wins Marketing: ถอดรหัสการตลาดหลัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” ว่า หลัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในปี
ทั้งนี้ยังพบว่ากลุ่ม LGBTQIA+
เพื่อให้เข้าใจพฤติ
ด้าน นายปกรณ์ รัตนชวนนท์ หัวหน้าทีมงานวิจัย “Love Wins Marketing: ถอดรหัสการตลาดหลัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” นักศึ
- ด้านการแต่งงานและการใช้
ชีวิตคู่ จากผลสำรวจพบว่า 56.1% ของกลุ่ม LGBTQIA+ อยากจั ดงานแต่งงาน โดยกลุ่มเลสเบี้ยนสนใจจดทะเบี ยนสมรสมากที่สุดถึง 50.4% และมา กกว่า 66.4% ของคู่รักเพศเดี ยวกันต้องการจดทะเบียนสมรส ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการจดทะเบี ยนสมรสในวันแรกของการบังคับใช้ กฎหมาย ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม L GBTQIA+ นิยมจัดงานที่โรงแรม 48 .7% ในจำนวนนี้พบว่าเป็นกลุ่ม G ay Gen Z มากที่สุดถึง 64.9% และนิยมจั ดงานขนาดกลาง (50-100 คน) ถึง 54.4% โดยเฉลี่ยมีงบประมาณในการจัดงานประมาณ 300,000-500,000 บาท และที่น่าสนใจคือ 4.7% ของกลุ่มนี้มีการวางแผนใช้งบประมาณมากกว่า 1 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่ม Gay Gen Z ซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่ากลุ่ม Gay Gen Y - ด้านการท่องเที่ยวและฮั
นนีมูน พบว่า กลุ่ม LGBTQIA+ มี ความสนใจและวางแผนไปฮันนีมูนหลั งแต่งงาน 51.8% โดยมีเลสเบี้ ยนสูงถึง 35.2% ที่ชื่ นชอบการไปฮันนีมูน และเลสเบี้ยน Gen Y นิยมไปฮันนีมูนในเอเชียมากที่ สุด 46.9% รองลงไปคื อภายในประเทศ 32% และยุโรป 21. 1% สำหรับที่พักที่นิยมสำหรับฮั นนีมูน คือ Private Villa 40.6% ตามมาด้วยโรงแรมหรู 31.3% โดยกลุ่ม Gay Gen Y นิยมโรงแรมมากกว่ากลุ่มอื่น ผลวิจัยยังระบุอีกว่ากลุ่ม LGBT QIA+ ใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 20 ,000-50,000 บาทต่อปี เฉลี่ยท่องเที่ยว 3-5 ครั้งต่ อปี โดยกลุ่ม Gay Gen Y มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการท่ องเที่ยวระหว่าง 20,000-50,000 บาท สูงที่สุด ผลวิจัยยังพบว่า 54% ของกลุ่ม Gay Gen Z ชอบให้เอเจนซี่วางแผนฮันนีมูนให้มากกว่าวางแผนด้วยตัวเอง ขณะที่ 33% ของกลุ่ม Gay Gen Z นิยมเลือกจุดหมายปลายทางประเภท Beach & Sea share - ด้านการวางแผนครอบครั
วและการมีบุตร พบว่า กลุ่ม LGBTQIA+ 54% วางแผนมีบุ ตรภายใน 2 ปี หลังแต่งงาน โดยกลุ่ม Lesbian Gen Z มีความต้องการมีบุตรสูงที่สุด และกลุ่ม Gay Gen Z 16.1% มีความคาดหวังที่จะมีบุ ตรมากกว่ากลุ่มอื่น ผลวิจัยยังพบว่า 12.9% ของกลุ่ ม LGBTQIA+ ต้องการใช้บริ การธนาคารฝากเซลล์สืบพันธุ์ ในการมีบุตรโดยทางเลือกในการมี บุตรของกลุ่ม LGBTQIA+ มี หลากหลาย ทั้งการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) ที่มีค่าใช้จ่าย อยู่ที่ประมาณ 300,000-500,000 บาท การตั้งครรภ์แทน ค่าใช้จ่ายสูงถึง 1-2.5 ล้ านบาทหรือมากกว่า และการรับบุตรบุญธรรม ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่ 5, 000-10,000 บาท งานวิจัยยังชี้ว่า ค่าใช้จ่ายในการมีบุตรของกลุ่ม LGBTQIA+ สอดคล้องกับงบประมาณที่วางแผนไว้ที่ประมาณ 500,000-1,000,000 บาท - ด้านการเงิน ที่อยู่อาศัย และการลงทุนร่วม จากผลสำรวจพบว่
า 54% ของกลุ่ม LGBTQIA+ ต้ องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตั วเอง โดยกลุ่มเลสเบี้ยนมีความต้ องการสูงที่สุด ในจำนวนนี้พบว่า 79.1% ของกลุ่ ม LGBTQIA+ เลือกซื้อเป็ นบ้านเดี่ยว และ 20.9% เลือกย้ายไปอยู่กับคู่ รัก โดยมีงบประมาณเฉลี่ย 3-5 ล้ านบาท ในขณะที่กลุ่ม Lesbian Gen Z สนใจซื้อคอนโดมิเนียมสูงถึง 4 4% ส่วนกลุ่ม Gay Gen Z และ Others Gen Z สนใจบ้านเดี่ยวมากกว่าที่ 40% นอกจากนี้ 86% ของกลุ่ม LGBTQI A+ ยังมองหาสินเชื่อบ้านดอกเบี้ ยต่ำกว่า 5% โดยกลุ่ม Lesbian Gen Y และ Gay Gen Z ยอมรับดอกเบี้ยได้สูงถึง 7. 01-10%
สำหรับด้านการวางแผนการเงินพบว่
- ด้านสุขภาพและประกันภัย พบว่า 48.6% ของกลุ่ม LGBTQIA+
ใช้จ่ายกับประกันในช่วง 10, 000-30,000 บาทต่อปี โดยประกันสุขภาพเป็นที่ต้ องการของกลุ่ม Gay Gen Y มากที่สุด ประกันชีวิตแบบระบุผู้รั บผลประโยชน์เป็นที่ต้ องการของกลุ่ม Lesbian Gen Y มากที่สุด และประกันการเดินทางเป็นที่ต้ องการของกลุ่ม Gay Gen Z มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับความต้ องการในการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า กลุ่ มเลสเบี้ยนสนใจบริการศั ลยกรรมแปลงเพศ 8.7% มากกว่ากลุ่ มเกย์ที่สนใจเพียง 3.5% และยั งมีความต้องการบริการด้านสุขภาพจิต บริการด้านสุขภาพทางเพศสำหรับ L GBTQIA+และการตรวจสุขภาพทั่ วไปอีกด้วย - ด้านพฤติกรรมการบริ
โภคและทัศนคติต่อแบรนด์ พบว่า 7 7% ของกลุ่ม LGBTQIA+ ใช้ปัจจั ยด้านราคาและคุณภาพเป็นเหตุ ผลในการตัดสินใจซื้อโดยกลุ่ม Ga y Gen Y เน้น “คุณภาพ” มากกว่า “ราคา” กลุ่ม Lesbian Gen Y มอง “ภาพลักษณ์” มากกว่า “ราคา” และกลุ่ม Others Gen Y กว่า 61% เป็นกลุ่ม “Price-Sensitive” ที่อ่อนไหวต่ อราคา นอกจากนี้ยังพบอีกว่า 23% ของกลุ่ ม LGBTQIA+ ใช้ประสบการณ์ด้ านบริการเป็นเหตุผลในการตัดสิ นใจซื้อ โดยบริการที่เป็นที่ต้ องการในกลุ่ม LGBTQIA+ ได้แก่ บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย บริการการวางแผนครอบครั วและการมีบุตร และบริการแพทย์เฉพาะทาง/คลินิ กพิเศษเฉพาะกลุ่ม ที่น่าสนใจคือ กลุ่ม Lesbian Gen Z นิยมออกเดทมากที่สุด โดย 77.8% ของกลุ่มนี้ออกเดต ส่วนที่เหลือไม่ออกเดต และยังพบว่ากลุ่ม LGBTQIA+ ใช้จ่ายเฉลี่ย 2,000-5,000 บาทต่อเดือนในการออกเดต โดย 22.46%มีการใช้จ่ายสูงกว่า 5,000 บาทต่อเดือน
อาจารย์ประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติ
“การศึกษาครั้งนี้ไม่เพียงแต่
ทั้งนี้ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้จัดสัมมนาการตลาด “