“หงส์” เตรียมรับความเปลี่ยนแปลง

ผ่านสุดสัปดาห์ไปอย่างกร่อย ๆ นะครับ เพราะพวกเราไม่มีฟุตบอลระดับสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษให้เสพกัน ฟีฟ่าก็ช่างมือดีเอาโปรแกรมทีมชาติมาเล่นในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มของฤดูกาลเสียอย่างนั้น

ว่าแต่ว่าใครที่เป็นแฟน หงส์แดง คงยังลุ้นกันไม่เลิกสหรับสถานการณ์การต่อสัญญาของ 3 ดาวดังประจทีมอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ สุดท้ายก็ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน มีแต่ข่าวลอยลมมาซํ้ว่า เทรนต์ บอกปัดข้อเสนอของสโมสรอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อจบฤดูกาลต้องการย้ายสมะโนครัวไปอยู่ถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ร่วมกับเพื่อนซี้อย่างจู๊ด เบลลิ่งแฮม แน่นอน

เอากันตามจริง ถึงเวลานี้เข้าสู่ปลายเดือนมีนาคมแล้ว ยังไม่มีการจรดปากกาเซ็นกันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ถ้าไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเอง แฟน ๆ คงต้องทใจแล้วล่ะว่าโอกาสที่จะได้ฝากอนาคตอยู่ถิ่นแอนฟิลด์กันต่อไปของทั้ง 3 คนนั้นเหลือน้อยเต็มที

เพราะเมื่อถึงช่วงจบฤดูกาล ทุกอย่างมันจะเปิดกว้างไปหมด นักเตะและเอเย่นต์สามารถเจรจากับใครก็ได้บนโลกใบนี้ ทีมไหนอยากจะได้พวกเขาไปไม่ต้องจ่ายค่าตัวแม้แต่เพนนีเดียว สามารถใช้ตัวเลขค่าเหนื่อยเข้ามาล่อได้อย่างเต็ม ๆ

ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง ก็จะเป็นครั้งแรกที่สโมสรจะต้องเจอกับการสูญเสียยอดนักเตะพร้อม ๆ กันเนื่องจากหมดสัญญาถึง 3 ราย ไม่อยากคิดว่ามันจะกระทบกระเทือนขนาดไหน

ที่ผ่านมาลิเวอร์พูล เคยต้องปล่อยตัว สตีฟ แม็คมานามาน แบบฟรีทรานสเฟอร์มาแล้วเมื่อปี 1999 เพราะ แม็คก้า ไม่ยอมต่อสัญญา แล้วย้ายไปเล่นในถิ่นสเปนกับ เรอัล มาดริด ทีมก็อ่อนยวบไปไม่ใช่น้อย นั่นแค่รายเดียว แต่ถ้า .. นี้เล่นยกพวกไปพร้อมกันหมดจะเป็นอย่างไร

มีการประเมินว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง จะส่งผลเสียหายต่อสโมสรลิเวอร์พูล ตีมูลค่าแล้วเป็นเงินมากมายมหาศาลถึง 137 ล้านปอนด์หรือประมาณ 6 พันล้านบาทไทย โดยประเมินจากค่าตัวของทั้งสามคนในปัจจุบัน

สถานการณ์เช่นนี้น่าจะเกิดจากการที่ลิเวอร์พูล ไม่พร้อมที่จะอัปค่าเหนื่อยมหาศาลหรือให้สัญญาระยะยาวกับซูเปอร์สตาร์เหล่านี้ และพร้อมจะวัดดวง บีบให้นักเตะต่อสัญญาบนตัวเลขที่สโมสรประเมินแล้วไม่เสี่ยงเกินไป

มองอีกมุมหนึ่ง ฝ่ายบริหารของสโมสรอาจไม่อยากพึ่งตนานบทเก่า ต้องการปฏิวัติทีมเล็งอนาคตและยอมยกเครื่องใหม่กันไปเลย เนื่องจากเป็นทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ใช้ผู้เล่นเหล่านี้ร่วมกันมายาวนาน

ยอมเก็บยอดค่าเหนื่อยไว้จ้างดาราวัยรุ่นที่จะทุ่มซื้อเข้ามาใหม่เพื่อวันข้างหน้า

หากจะคิดอย่างนั้น ก็เป็นไปได้เนื่องจาก หงส์แดง มีนักเตะที่มีอายุอานามเลข 3 ขึ้นนอยู่หลายคน ไล่มาตั้งแต่ อลิสซง เบ็คเกอร์ (32 ปี), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (33 ปี), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (31ปี), วาตารุ เอ็นโด (32 ปี), โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (32 ปี) ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกนโยบายอย่างไร

ช่างเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียจริง ๆ

ก่อนหน้านี้ผมคาดการณ์มาตลอดว่า นักเตะอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กับ เฟอร์กิล ฟานไดค์ น่าจะเป็นสองราย ที่ทีมสามารถเจรจาต่อสัญญาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วนเทรนต์ ก็คงต้องทใจปล่อยไป เพราะภาษากายเขาทท่าไม่เอามาตั้งแต่กลางซีซันแล้ว

แต่ที่ไหนได้มันดันยืดเยื้อ ถึงเวลานี้บอกตามตรงเลยว่ายอมอยู่ต่อสักคนก็ดีใจแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็น ฟาน ไดค์ หรือ ซาลาห์ จริงอยู่ว่าทั้งคู่อายุเยอะ แต่สภาพร่างกายนั้นยังพอเล่นต่อได้อีกอย่างน้อย ๆ 1-2 ปี จะได้มีตัวที่เป็นขวัญและกลังใจของทีมได้

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อเสนอของสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นที่จะเข้ามาตอนปิดฤดูกาล ซาอุฯ นั้นไม่น่ากลัวครับ แต่กลัวยักษ์ใหญ่ในยุโรปประเภทอย่างเปแอสเช นี่แหละ ที่อาจจะย่องเงียบมาเคาะประตูหลังบ้าน ขโมยลายเซ็น ฟาน ไดค์ หรือซาลาห์ ไป ถ้ายักษ์ใหญ่เมืองนํ้หอมยอมทุ่มสัก 4-5 แสนปอนด์ต่อวีค ระยะสัญญาสัก 2 ปีขึ้นไป

คุณคิดว่าใครจะกล้าปฏิเสธ

เอาเป็นว่าเผื่อใจเอาไว้ล่วงหน้า ก็ยังหวังว่าจะมีใครสักคนอยู่ต่อ และถ้าให้เลือกได้คุณผู้อ่านอยากให้ใครอยู่ครับ

ส่วนตัวผมเอง ขอเลือก โม ซาลาห์ เพราะดูสถิติกองหน้าคนอื่น ๆ อย่าง ดิโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอ๊าซ ที่เอามาล้อเลียนกันว่า ทั้ง 3 คนยิงได้เท่ากับ ปีเตอร์ เคราช์ ได้ในเกมอุ่นเครื่องคือ 2 ประตู เป็นตลกร้ายที่น่าขื่นใจจริง ๆ ครับ
ผมมองว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่พร้อมที่จะเสีย ซาลาห์ เดอะ แบก ผู้ที่ทประตูให้ทีมต่อซีซั่นได้มากขนาดนี้ ขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ในแดนหน้ามัวแต่แวะเก็บเห็ด ไม่มาช่วยแบ่งภาระการระเบิดสกอร์เอาเสียเลย

ต่อให้ได้ศูนย์หน้าตัวใหม่มา ก็ยังไม่มีอะไรการันตีว่าเขาคนนั้นมาถึงแล้วจะสามารถผลิตสกอร์ให้กับทีมได้ทันทีในระดับ 20 ลูกขึ้นไปต่อหนึ่งฤดูกาลใกล้เคียงกับมาตรฐานของ คิงโม

บอกได้เลย ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ.