เลข OTP ต้องเช็กให้ดี ก่อนกดทำธุรกรรมใด ๆ

ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน ทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นง่ายมากเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เพียงไม่กี่คลิก และใช้เวลาสั้น ๆ ไม่กี่นาที ทว่าธุรกรรมที่ว่าไม่ได้สะดวกสบายเฉพาะตัวเราในฐานะคนทำธุรกรรมเท่านั้น ด้วยมันยังเป็นโอกาสที่ทำให้บรรดาเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลายใช้ช่องทางของความสะดวกสบายเหล่านี้หลอกลวงผู้คนได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย การทำธุรกรรมที่เราคุ้นเคยกันดีในเวลานี้จึงมีสิ่งที่เรียกว่า OTP ขึ้นมา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกการทำธุรกรรมของเราได้ในระดับหนึ่ง ส่วนใหญ่ เราก็จะได้ใช้ประโยชน์จากเลข OTP ผ่านระบบออนไลน์กันในชีวิตประจำวันโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าพวกมิจฉาชีพก็พยายามพัฒนากลโกงแบบไม่จบสิ้นเช่นกัน

ปกติ OTP จะถูกส่งหาเราทาง SMS หรือทางอีเมล ก็ต่อเมื่อเราร้องขอหรือต้องการทำธุรกรรมบางอย่างผ่านทางออนไลน์โดยต้องมีการยืนยันตัวตน สิ่งที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงก็คือ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เรากำลังทำรายการอยู่นั้น อาจมี SMS แจ้งเลข OTP ปลอมมาให้ หรือ OTP อาจถูกส่งมาหาเราโดยไม่รู้ที่มาที่ไปก็เป็นได้เหมือนกัน ฉะนั้น จึงประมาทไม่ได้ว่าเลข OTP ที่ถูกส่งมา จะเป็นเลขเดียวกันกับที่เรากำลังทำรายการอยู่ ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งให้แน่ใจว่าเป็น OTP จากรายการที่เราเป็นคนทำรายการเองหรือเปล่า และข้อมูลตรงกันกับธุรกรรมที่เราทำหรือไม่

นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราควรให้เวลากับการเช็กข้อความ OTP อีกสักนิด ดูให้ใช่ เช็กให้ชัวร์ ก่อนกดจ่ายเงินทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และการตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว

OTP คืออะไร

OTP (One-Time Password) คือรหัสผ่านที่ใช้เพียงครั้งเดียวสำหรับการยืนยันตัวตนหรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ เช่น การเข้าสู่ระบบ การจ่ายเงิน การเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือการทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ โดยคุณสมบัติของเลข OTP นั้น

  • เป็นรหัสชั่วคราว ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวสำหรับการทำรายการนั้น ๆ และมีอายุการใช้งานสั้น ๆ เพียงแค่ 1-5 นาที
  • ถูกส่งผ่านช่องทางที่ปลอดภัย มักส่งผ่าน SMS, อีเมล หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ สู่ผู้ใช้บริการโดยตรง
  • เป็นรหัสที่ไม่ซ้ำกัน รหัสจะเปลี่ยนไปในแต่ละครั้งที่มีการร้องขอ และจะมีรหัสสำหรับอ้างอิงเฉพาะการทำรายการนั้น ๆ แนบมาด้วย

OTP ถือเป็นประตูด่านแรกของการยืนยันตัวตน และเป็นด่านสุดท้ายก่อนยืนยันการจ่ายเงิน หากเราทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้า การจ่ายเงิน รวมไปถึงการเข้าสู่ระบบสมัครสมาชิกต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน รหัส OTP เปรียบเหมือนเกราะป้องกันข้อมูล เป็นรหัสยืนยันตัวตนที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเราจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด เพราะ OTP ช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลหรือบัญชีของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะมีคนรู้รหัสผ่านของเรา แต่หากไม่มี OTP ก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ และช่วยให้ระบบมั่นใจว่าผู้ทำรายการคือเจ้าของบัญชีตัวจริง รวมถึงลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูลด้วย

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้รหัส OTP

  • อย่าเปิดเผยเลข OTP กับใคร เพราะเลข OTP เป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการยืนยันตัวตน ยืนยันการจ่ายเงิน จึงไม่ควรบอกใคร แม้แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการ
  • ระวัง SMS หรืออีเมลปลอม หากรหัส OTP ที่ส่งมามีลิงก์ใด ๆ แนบมาด้วย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นของปลอม และอย่ากดลิงก์ในข้อความที่สงสัยว่าเป็นการหลอกลวงเด็ดขาด
  • ตรวจสอบความถูกต้องของรายการที่ทำ ใช้ OTP เฉพาะกับธุรกรรมที่เราเป็นผู้ดำเนินการ และตรวจสอบความถูกต้องก่อนทุกครั้ง

วิธีตรวจสอบเลข OTP ก่อนยืนยันการทำรายการ

ธนาคารยูโอบี ให้ความรู้เกี่ยวกับเลขรหัส OTP ว่าเป็นด่านสุดท้ายที่ใช้ยืนยันการจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการชอปปิง การจ่ายค่าที่พัก หรือการจ่ายค่าบริการรายเดือนต่าง ๆ เพราะฉะนั้น เราจึงควรให้เวลากับการตรวจสอบรหัส OTP สักเล็กน้อย ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนที่จะกดยืนยันการทำรายการ โดยจะมีจุดสังเกตหลัก ๆ อยู่ด้วยกัน 3 จุด ที่ต้องเช็กดู คือ

1. ตัวรหัส OTP ถูกส่งมาจากเว็บหรือแอปฯ ที่กำลังจะจ่ายเงิน และมีรหัสอ้างอิงที่ตรงกับการทำรายการในเว็บหรือแอปฯ

2. จำนวนเงิน ตรงกับที่ทำรายการจะจ่าย และอย่าลืมตรวจสอบสกุลเงินให้ดี หากเป็นสกุลเงินต่างประเทศ เช็กให้แน่ใจว่าผิดปกติหรือไม่

3. ชื่อร้านค้าที่ต้องการจ่ายเงิน ตรงกับร้านค้าที่เรากำลังทำธุรกรรมอยู่หรือไม่ หากไม่ตรง และน่าสงสัย ควรติดต่อกับร้านค้าโดยตรง เพื่อตรวจสอบก่อน

เพราะฉะนั้น เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยอยู่เสมอ อีกเรื่องที่สำคัญ คือการอัปเดตเบอร์โทรศัพท์มือถือให้เป็นปัจจุบันในทุก ๆ เว็บหรือแอปฯ ที่ใช้งาน เพื่อให้รหัส OTP ถูกส่งมาถึงมือเราอย่างถูกต้อง และเปิดการแจ้งเตือน SMS หรือแอปฯ ที่เราใช้เพื่อรับรหัส OTP หากหมดเวลาอายุการใช้งาน OTP ให้เราขอรหัสใหม่ แต่หากขอ OTP หลายครั้งแล้วไม่ได้รับรหัส ให้แจ้งติดต่อผู้บริการโดยตรง หรือรอสักพักก่อนทำธุรกรรมใหม่อีกครั้ง