หลังจบศึก ThaiGP 2025 การแข่งขันโมโตจีพีสนามแรกของฤดูกาลที่บุรีรัมย์ไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แฮชแท็ก #SaveThaiGP ก็ผุดขึ้นในหน้าฟีดเฟซบุ๊ก เมื่อพี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการความเร็วต่างได้รับข่าวที่ออกจากฝั่งของกกท. ว่าสัญญาของโมโตจีพีสนามประเทศไทย กับดอร์น่าสปอร์ต กำลังจะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาลหน้าปี 2026
ทันทีที่ทราบข่าว ในฐานะอดีตนักข่าวกีฬา (MGR Sport) ก็พอจะวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วในหัวว่าดอร์น่าคงจะต้องขึ้นค่าลิขสิทธิ์ รัฐบาลไทยอาจไม่ยอมจ่ายเพิ่มจากงบที่เคยจ่ายมา จึงทำให้การเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่ยังไม่เรียบร้อย เพราะหากรัฐบาลไทยไม่ควักเพิ่ม ส่วนของค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่ม ภาคเอกชนก็คงต้องหามาจ่ายแทน ผมคิดได้ประมาณนี้ครับ
ซึ่งหลังจากนั้นก็เหมือนมีการออกข่าวรับ-ส่งลูกกับแบบโบ๊ะบ๊ะราวกับว่าวางสคริปต์เอาไว้แล้วว่าต้องเดินหมากแบบนี้ โดยเฉพาะเพจลุงเนวิน ที่โพสต์ร่ายยาวว่าเหตุใด 2026 อาจจะเป็นปีสุดท้ายของโมโตจีพีพี่บุรีรัมย์ จนวันรุ่งขึ้น ประเด็นนี้ก็กลายเป็นประเด็นลำดับต้น ๆ ที่ผู้สื่อข่าวยิงคำถามใส่นายกฯ และนายกฯ ก็ส่งลูกต่อ ขอดูตัวเลขจากฝั่งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ซึ่งเมื่อนายกฯ ถามถึงตัวเลข ฝั่งของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเจ้าภาพฝั่งรัฐบาลไทยในการไปเจรจากับดอร์น่าเรื่องลิขสิทธิ์ ก็ส่งข้อมูลตัวเลขให้ทันที โดยเฉพาะมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม ในช่วง ThaiGP 2025 ที่บุรีรัมย์ รอบนี้อยู่ที่ 5,043 ล้านบาทเลยทีเดียว จนทำให้ท่าทีล่าสุด มีแนวโน้มครับว่าโมโตจีพีสนามประเทศไทย มีโอกาสจะได้ไปต่อ
ใครว่ากีฬากับการเมืองแยกออกจากกันได้ ไม่จริงเลยครับ ขนาดอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน ยังมีการแยกขั้วกันได้ (ฮ่า ๆ) แต่สำหรับผมในฐานะแฟนกีฬา แฟนมอเตอร์สปอร์ต หากใครทำอะไรแล้วมันดูเข้าท่าเข้าทาง มันตอบโจทย์ สร้างความสุขสนุกสนานได้ ผมก็ยังเชื่อว่าคนไทยก็พร้อมจะชูมือสนับสนุนกีฬาก่อน ส่วนการเมืองปล่อยให้เขาไปเคลียร์กันเองดีกว่า
ย้อนกลับไปในปี 2013 ผมยังจำได้สมัยที่ ต้นคิด มีเดีย ผลิตรายการสปอร์ตรับอรุณ ทาง True10 (ก่อนจะผุดทีวีดิจิทัล) ผมและทีมงานเดินทางไปที่พื้นที่ที่กำลังก่อสร้างสนามแข่ง BRIC (ตอนนั้นยังไม่มีการดีลชื่อสนามกับช้าง) เพื่อสัมภาษณ์ “ลุงเนวิน” ออกรายการในช่วง”ธันยเดช กดไลก์” และจำได้แม่นเลยว่า เป้าหมายของการสร้าง BRIC คือการจัดโมโตจีพีให้ได้ภายในปี 2015!
มาถึงวันนี้มองย้อนกลับไป แม้เป้าหมายของ BRIC จะพลาดเป้าไป 3 ปี คือเริ่มจัดโมโตจีพีได้ในปี 2018 แต่ก็สามารถยืนหยัดจัดการแข่งขันระดับจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึง 2026 ถือว่าไม่ธรรมดา ที่ดอร์น่าสปอร์ตไว้วางใจให้ไทยได้จัดการแข่งขัน จริงอยู่ครับ ดอร์น่าเขาได้เงินก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะจัดได้เสมอไป
หนึ่งในเหตุผลที่ผมเชื่อว่า ThaiGP จะได้ไปต่อในปี 2027 ก็คือการที่ดอร์น่าไว้วางใจให้ไทยเป็นเจ้าภาพสนามเปิดหัวในปีนี้ รวมถึงจัดงาน MotoGP: Season Launch 2025 อย่างยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพฯ มันก็พอจะบ่งบอกได้ว่า หากไทยเราเจรจาสัญญาฉบับใหม่ ดอร์น่าก็พร้อมเซย์เยสแน่นอน เพียงแต่ว่ามูลค่าของโมโตจีพียุคนี้มันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ค่าลิขสิทธิ์ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา
การที่โมโตจีพี ได้ลิเบอร์ตี้ มีเดีย กลุ่มธุรกิจจากสหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของโมโตจีพี (แต่ยังให้ดอร์น่าบริหารต่อไป)คือ การเพิ่มมูลค่าให้กับกีฬาชนิดนี้ หากสังเกตให้ดี เริ่มมีการขายบัตรแพ็ดด็อกที่อยากใกล้ชิดนักบิด ในราคา 15,000 บาท หรืองาน MotoGP: Season Launch 2025 ก็มีบัตรเข้างานปาร์ตี้ร่วมกับนักบิดโมโตจีพี ในราคาใบละ 2-3 หมื่นบาท
หรือหากใครที่ได้บัตรเชิญจากทีมแข่งต่าง ๆ ที่ต้องถูกบังคับลงทะเบียนในเว็บของดอร์น่า จากนี้คุณจะได้รับอีเมลขายของที่เกี่ยวข้องกับโมโตจีพีมาเป็นระยะแน่นอน ฉะนั้น ผมมองว่าการขึ้นราคาค่าลิขสิทธิ์โมโตจีพี มันคือเรื่องปกติมาก ๆ ถ้ารัฐบาลมีการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก็คงไม่น่าเป็นเรื่องซับซ้อน ที่จะเจียดงบประเทศมาช่วย ThaiGP ให้ได้ไปต่อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีนักบิดไทยเข้าไปแข่งในโมโตจีพีแล้วด้วย ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจง่ายขึ้นอีก เว้นแต่ว่าจะมีเซอร์ไพรส์ รัฐบาลมีดีลกับกลุ่มทุนอื่นแล้วสร้างสนามใหม่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก และเจรจาโมโตจีพีมาลงได้ อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องครับ แต่ผมก็เชื่อว่าเรื่องเซอรไพรส์นี้แทบจะเป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ