เจอกันที่บุรีรัมย์ ThaiGP 2025

ภาพจาก FB: Chang Circuit Buriram

ในที่สุด ศึกโมโตจีพี 2025 กำลังจะได้ฤกษ์เปิดฉากฤดูกาลอย่างเป็นทางการกันที่สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้ทำหน้าที่เป็นสนามเปิดซีซั่น รวมไปถึงจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่มีนักบิดไทยลงแข่งขันในรุ่นพรีเมียร์คลาส ผมเชื่อว่าถนนทุกสายของแฟนกีฬาไทย โดยเฉพาะมอเตอร์สปอร์ต กำลังมุ่งหน้าสู่ดินแดนปราสาทสายฟ้าในสุดสัปดาห์นี้ครับ

แน่นอนว่าไฮไลต์ในปีนี้สำหรับคนไทยคงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากการประเดิมสนามโมโตจีพีของ “SC35” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยสังกัดอิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในเรซการแข่งขันรุ่นพรีเมียร์คลาสอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังสั่งสมประสบการณ์ในการบิดโมโตทูมา 6 ปีเต็ม และมีโอกาสได้ทดสอบรถโมโตจีพี RC213V ไปแล้ว 4 ครั้ง ที่บาร์เซโลน่า เซปัง (2 ครั้ง) และที่บุรีรัมย์

ผลจากการทดสอบล่าสุด แม้สมเกียรติจะปรับตัวเข้ากับรถแข่งโปรโตไทป์ 1,000 ซีซี ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ กดเวลาต่อรอบได้ดีขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในรถแข่งมูลค่าระดับ 100 ล้านบาท แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่คือเวทีบิดระดับโลกที่นักบิดอีก 21 คน เต็มไปด้วยยอดฝีมือทั้งนั้น นั่นทำให้อีกหนึ่งโอกาสของก้องก่อนถึงเรซเดย์ คือการเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดในรอบฝึกซ้อมวันศุกร์

ผมเชื่อว่าเวลาต่อรอบที่ก้องทำได้ในสุดสัปดาห์นี้จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน แต่จะดีพอที่จะขยับเวลาขึ้นไปอยู่ในกลุ่มกลางของนักบิดโมโตจีพีได้หรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ต้องเชียร์กันครับ แต่อย่างน้อย การได้ขี่ในสนามที่คุ้นเคยมากที่สุด และเป็นสนามที่ในสนามมีคนตะโกนเชียร์เขามากที่สุดในปฏิทินแข่งขัน ก็น่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มพลังในการบิดสุดสัปดาห์นี้ได้แน่นอนครับ

ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจก่อนเปิดฤดูกาล หากเป็นกลุ่มลุ้นแชมป์ แน่นอนว่าชั่วโมงนี้คงจะหารถแข่งที่มาเทียบสมรรถนะทีมดูคาติยาก เพราะไม่ว่าจะใช้เวอร์ชั่นเก่า GP24 หรือ GP25 ก็ยังดูดีกว่าค่ายอื่น ๆ อยู่หลายขุม อย่างไรก็ดี การลุ้นแชมป์โลกหนนี้หนีไม่พ้นคู่เดือดจากทีมโรงงาน อย่างเป็กโก้ บัญญาญ่า กับมาร์ก มาร์เกซ ที่น่าจับตามองว่าจะเป็นคู่เดือดระดับไอร์ตัน เซนน่า กับอแลง พรอสต์ ในเอฟวันยุคโน้นเลยทีเดียว

ส่วนค่ายรถจากญี่ปุ่นอีกหนึ่งเจ้าอย่างยามาฮ่า ดูแล้วปีนี้เอาจริงเอาจังไม่น้อย เพราะลงทุนเซ็นสัญญานักบิดในสังกัดทีมโรงงานรวมถึง 4 คน และมีทีมโรงงานทีมที่ 2 อย่าง พรามัค เข้ามาช่วยแชร์ข้อมูลรถ M1 กับทีมแข่งโรงงาน ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ V4 ที่ซุ่มพัฒนาอยู่ แต่ก็เชื่อว่ายามาฮ่าทั้ง 4 คัน น่าจะมีผลงานดีขึ้นจากปี 2024 แน่นอนครับ

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นร้อนในหมู่แฟนโมโตจีพีบ้านเรา คือการไม่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของ PPTV เพราะปีนี้ทางทรูวิชั่นส์เหมาซื้อลิขสิทธิ์ไปแบบเบ็ดเสร็จทุกแพลตฟอร์ม จนในช่วงแรกโดนเสียงบ่นจากแฟน ๆ ว่าอาจจะไม่ได้มีโอกาสเชียร์นักบิดไทยในโมโตจีพีแบบฟรี ๆ เสียแล้ว แต่สุดท้ายก็ยืนยันมาเรียบร้อยนะครับ ปีนี้เราจะได้ดูฟรีในหลาย ๆ สนามผ่านทรูโฟร์ยู และแอปฯ ทรูวิชั่นส์ นาว

สุดท้าย วีคนี้ใครที่มุ่งหน้าสู่บุรีรัมย์ ก็อย่าลืมไปทักทายกันได้นะครับ ผมเองจะประจำการเป็นหลักอยู่ที่อิเดมิตสึ พาวิลเลียน บรรยายสดทั้งเสาร์และอาทิตย์ รวมถึงก็จะมีโอกาสไปทักทายนักบิดขวัญใจอย่างแจ็ค มิลเลอร์ ที่ยามาฮ่า จีพี พาวิลเลียน กันด้วย แล้วก็เจอกันในงาน ThaiGP 2025 ที่บุรีรัมย์นะครับ