หลายสิ่งหลายอย่างที่คนรุ่นหนึ่งรู้จักหรือเคยมีประสบการณ์ กลับกลายเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก เพราะ “เกิดไม่ทัน” จนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างคน 2 กลุ่มขึ้นมา หากเป็น Generation ที่อายุห่างกันอย่างชัดเจนแบบ Baby Boomer กับ Gen Z เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ ทว่าปัจจุบัน มันเริ่มมาเกิดขึ้นกับชาว Gen Y ที่รู้สึกว่าเพิ่งจะผ่านช่วงวัยเรียน วัยรุ่นมาเมื่อไม่นานนี้เอง Gen Y กลุ่มท้าย ๆ เรียนจบมหาวิทยาลัยมาทำงานยังไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำไป อายุก็แค่ประมาณ 30 ปี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาว Gen Y รู้จักและมีประสบการณ์ ชาว Gen Z ปลาย ๆ ก็ไม่รู้จัก ไม่มีประสบการณ์ร่วม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็ก Gen Alpha เพราะอายุของเด็กรุ่นนี้เป็นรุ่นลูกของ Gen Y
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นก็คือ มีเด็กรุ่นใหม่ตั้งคำถามว่า “นาดาว คืออะไร” การที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ แซวพ่อแม่ตัวเองว่า “ฟังแต่กามิ มันแก่” หรือการที่ศิลปินหนุ่มคนหนึ่งทำหน้างุนงงพร้อมสายตาว่างเปล่าใส่คนที่ถามว่า “รู้จักซาวด์อะเบาท์ไหม” นี่เป็นเรื่องชวนช็อกของชาว Gen Y ไม่น้อย เพราะการที่พวกเขาไม่รู้จักสิ่งเหล่านั้น หรือมองว่ามันแก่ ก็ทำให้ชาว Gen Y อนุมานกับตัวเองได้ว่า “เราแก่แล้วสินะเนี่ย” ยังไม่นับรวมกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ในทุกวันนี้มันหายไปแล้ว จนมี quote ประมาณว่า “ถ้าคุณทัน แปลว่าคุณไม่เด็กแล้ว” มากมายเต็มไปหมด
ซึ่งถ้าหากว่ากันตามข้อเท็จจริง ก็ไม่เด็กแล้วจริง ๆ นั่นแหละ ถึงอย่างนั้น เมื่อเอ่ยถึงชีวิตในอดีต หลายคนก็หวนคิดถึงอยู่ดี ถึงมันจะไม่สะดวกสบายแบบทุกวันนี้ แต่ชีวิตในช่วงนั้นมันก็สนุกสนานไปอีกแบบ Tonkit360 จึงจะมาชวนชาว Gen Y เช็กลิสต์ 50 ข้อที่ล้วนเป็นความทรงจำระดับตำนานของชาวเรา ที่พวกเราวัยรุ่นยุค 90 และเด็กยุค 2000 เกิดทัน แต่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก!
ถ้าคุณทันทุกข้อใน 50 ข้อนี้ คุณก็ไม่เด็กแล้วจริง ๆ ยอมรับความจริงซะ!
- เล่นเกมงูในโทรศัพท์มือถือ
- ส่งรูป/เพลงแบบไร้สาย ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่าอินฟราเรดและบลูทูธ ที่ต้องจับคู่โทรศัพท์ก่อน แล้วตอนถ่ายโอนข้อมูลต้องเอาโทรศัพท์มาวางใกล้ ๆ กัน
- ก่อนจะมี Spotify หรือ Joox ไว้ฟังเพลง จะต้องเคยพกซาวด์อะเบาท์มาก่อน
- ฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ท
- จากนั้นก็มาฟังเพลง mp3 จากเครื่องเล่น mp3
- โดยดาวน์โหลดเพลง mp3 จากเว็บ 4shared
- รู้จักสิ่งที่เรียกว่า PCT ก่อนที่จะมีโทรศัพท์มือถือของตัวเองใช้
- โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่ใช้เป็นแบบปุ่มกด รุ่นก่อนสมาร์ตโฟนเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตในมือถือได้แต่ต้องเปิด ๆ ปิด ๆ ใช้เสร็จต้องปิด จะใช้ค่อยเปิดใหม่ เพราะอินเทอร์เน็ตที่ซื้อไว้ใช้ได้จำกัด เปิดทิ้งไว้จะหมดเร็ว
- ดาวน์โหลดริงโทน เพลงรอสาย หรือภาพพื้นหลังจาก SMS โฆษณาในทีวี/หน้าโฆษณาในเล่มนิตยสาร/หน้าโฆษณาในการ์ตูน
- ใช้สมุดหน้าเหลืองหาเบอร์โทรศัพท์
- ต้องจดบันทึกทุกอย่างด้วยสมุดและปากกา มีสมุดเบอร์โทรศัพท์เล็ก ๆ พกติดตัว จดเบอร์พ่อแม่ เบอร์บ้านเพื่อน และเบอร์สถานที่สำคัญ
- ต้องแลกเหรียญเพื่อหยอดตู้โทรศัพท์ โดนกินเงินเป็นประจำ
- เติมเงินโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรเติมเงิน ที่ยังต้องขูดแถบรหัส
- แหล่งติดตามข่าวสารบ้านเมือง มีแค่ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และป้าข้างบ้านที่จับกลุ่มคุยกัน
- ถ้าจะใช้อินเทอร์เน็ต ต้องไปซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ตจากร้านสะดวกซื้อ โดยต่อเข้ากับโทรศัพท์บ้านด้วยระบบ Dial-up การเชื่อมต่อแต่ละครั้งต้องเสียค่าโทรศัพท์ 3 บาท กว่าจะต่อติดก็รอน้าน…นาน และการเชื่อมต่อจะมาพร้อมเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ แล้วถ้ามีคนโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน อินเทอร์เน็ตที่ต่อไว้จะหลุด!
- รอเพื่อนออนเอ็ม (MSN) จะเห็นขึ้นสถานะว่าง (สีเขียว) แต่ทักไปไม่ยอมตอบ! กลับกัน ถ้าเห็นขึ้นสถานะยุ่งอยู่ (สีแดง) ก็กำลังนั่งแชตคุยกันอยู่นี่แหละ
- ไปนั่งทำรายงานที่ร้านเกม ส่วนเครื่องข้าง ๆ นั่งเล่นเกม
- ยุคเก่า ทุกคนต้องมีแผ่นดิสก์ (Floppy A) ไว้บันทึกไฟล์งานใส่ อุปกรณ์ที่ทั้งอ่อนไหวและติดไวรัสง่ายมาก ใช้แป๊บ ๆ ก็พัง ต้องซื้อใหม่ทุกสัปดาห์ ยุคใหม่ขึ้นมาหน่อย ทุกคนเปลี่ยนมาพกแฟลชไดร์ฟความจุต่ำ บันทึกงานไฟล์ใหญ่มากไม่ได้ ไม่งั้นความจำเต็ม ส่วนที่ความจุสูง ราคาแพงมากสำหรับนักเรียน
- เวลาเรียนคอมพิวเตอร์ ต้องจับคู่กับเพื่อนเลขที่ข้าง ๆ นั่งเรียนเครื่องละ 2 คน
- ก่อนจะมีแอ็กเคานต์ Facebook, Instagram, TikTok และ Twitter (X) จะต้องเคยมี Hi5 กันมาก่อน
- ถ้าครูสั่งให้ทำรายงาน จะต้องทำหน้าปกด้วยกระดาษหอม ใส่พลาสติกแผ่นใสและสันรูด และใช้ WordArt ใน Microsoft Word ออกแบบตัวหนังสือหน้าปกและที่เป็นหัวข้อใหญ่ ๆ
- กินข้าวมื้อเย็นไปด้วยดูละครตอนเย็นไปด้วย ส่วนละครหลังข่าว ดูไปทำการบ้านไป
- ทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องตื่นมารอดูการ์ตูนช่อง 9
- วันเสาร์ พอการ์ตูนจบ ต้องเปลี่ยนมาช่อง 7 ดูซีรีส์เกาหลีพากย์ไทย
- ส่วนตอนกลางคืน ต้องถ่างตารอดูซีรีส์ต่างประเทศตอนดึก ๆ ถ้ากลัวหลับต้องบอกให้แม่ปลุก
- เพราะถ้าพลาดรายการ/ละครที่ฉายตามเวลา คือพลาดเลย ไม่มีรีรันหรือย้อนหลังให้ดู
- สมัยเรียน ตอนพักกลางวัน จะนัดเพื่อนเล่นโดดยาง หมากเก็บ ดีดลูกแก้ว ไพ่ยูกิ เกมเศรษฐี หมากฮอส บันไดงู เป่าดินน้ำมัน ฯลฯ เพราะยังไม่มีโทรศัพท์ให้เล่น
- ถ้าอยากอ่านการ์ตูนมังงะ ไปร้านเช่าการ์ตูน ไม่ต้องซื้อ ถ้ามีคนเช่าไป ต้องรอเขาเอามาคืน ยืมเรื่องอื่นไปก่อน
- แต่ถ้าอยากดูการ์ตูนแอนิเมะ ต้องซื้อแผ่นมาดู ไม่ก็รอดูในทีวี รายการการ์ตูนช่อง 9 นั่นแหละ
- รอฟังเพลงที่ตัวเองชอบในวิทยุ ถ้าดีเจไม่เปิดให้สักที ก็โทรไปขอเองเลย
- ร้องคาราโอเกะจากแผ่นซีดี
- การดู YouTube ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเพื่อรอโหลด ไม่มีภาพที่คมชัด 4K หรือ HD อะไรทั้งนั้น
- ช่วงปิดเทอม รอดูมิวสิกวิดีโอเพลงโปรดจากรายการเพลงในทีวีที่ออนแอร์ตอนบ่ายวันธรรมดา ไม่ก็ตอนดึกมาก ๆ
- เจอเพลงเพราะ ๆ ที่ดีเจเปิด ต้องพยายามจำเนื้อเพลงให้ได้สักท่อน แล้วเอาท่อนนั้นไปเปิดหาชื่อเพลงในอินเทอร์เน็ต (ที่ต่อติดย้ายยาก)
- รออ่านนิตยสาร I-Like จากเพื่อน เล่มเดียวเวียนอ่านทั้งห้อง หน้าทำนายดวง เกมทายใจ และเรื่องผี
- ใครมีทามาก็อตจิหรือเกมบอย จะต้องเอามาอวดที่โรงเรียน เพื่อนทั้งห้องจะขอยืมเล่น จากนั้นจะถูกครูยึด
- อยากได้ข้อมูลทำรายงาน ต้องไปห้องสมุดเป็นอันดับแรก ไปใช้คอมพิวเตอร์ที่นั่น ไม่ก็ไปหายืมหนังสือที่เกี่ยวข้อง
- มีเพื่อนเอาแคตตาล็อกของจุกจิกมาขาย สั่งหน้าไหนให้พับหน้านั้นไว้
- เขียนจดหมายเวียนในห้อง เพื่อแอบคุยกับเพื่อนในเวลาเรียน
- รุ่นก่อน จะรู้จักมานะ มานี ปิติ ชูใจ แต่รุ่นต่อมา จะรู้จักกล้ากับแก้ว หมาชื่อดำ แมวชื่อแต้ม และได้เรียนวิชา สปช. กพอ. สลน.
- กระเป๋าล้อลาก ดินสอกด Rotring สีไม้ 24 สี กล่องดินสอลายการ์ตูนที่มีหลายชั้น เป็นของฮิต ใครมีใช้ ดูบ้านรวย
- เล่นทำนายดวงด้วยหมอดูกระดาษ พับกระดาษทายใจเพื่อน
- หลังเลิกเรียน/โดดเรียน หาตัวเจอได้ตามโซนเกม ตู้คาราโอเกะ หรือตู้สติกเกอร์ในห้าง อ้อ! ร้านขนมหน้าโรงเรียนด้วย
- ซื้อการ์ดในสหกรณ์โรงเรียนมาเขียนอวยพรปีใหม่/อวยพรวันเกิด ให้เพื่อน
- ส่ง SMS อวยพรปีใหม่ให้เพื่อน ทั้งที่ส่งก่อนเที่ยงคืนวันสิ้นปี แต่ข้อความจะถึงตอนเช้าไม่ก็สาย ๆ วันที่ 1 ม.ค.
- พกเงินสด เด็กเล็ก ๆ ต้องมัดหนังยางกันเงินหาย โตมาหน่อย กระเป๋าสตางค์เด็กผู้หญิงต้องเป็นพลาสติกลายการ์ตูน กระเป๋าสตางค์เด็กผู้ชายต้องมีการ์ตูนพร้อมโซ่ห้อย
- ยอมอดขนมเพื่อเก็บเงินซื้อ photo card พวงกุญแจจากร้านหน้าโรงเรียน (ห้อยรูปพวงใหญ่ ๆ) หรืออัลบั้มของศิลปินที่ชอบ
- สะสมสติกเกอร์/การ์ดการ์ตูน ที่แถมมากับขนมหรือเครื่องดื่ม ถ้าได้ครบคอลเลกชัน จะต้องเอามาอวดเพื่อน
- วิ่งซื้อขนม/เครื่องดื่ม ทีละ 5-10 บาท ที่ร้านโชว์ห่วยในซอยบ้าน
- กินไอศกรีมแบบแท่ง พร้อมกับลุ้นอย่างมีความหวังว่าจะเจอไม้ฟรี