50 ข้อที่พวกเธออาจเกิดไม่ทัน แต่พวกฉันทันหมดนะ!

หลายสิ่งหลายอย่างที่คนรุ่นหนึ่งรู้จักหรือเคยมีประสบการณ์ กลับกลายเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก เพราะ “เกิดไม่ทัน” จนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างคน 2 กลุ่มขึ้นมา หากเป็น Generation ที่อายุห่างกันอย่างชัดเจนแบบ Baby Boomer กับ Gen Z เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ ทว่าปัจจุบัน มันเริ่มมาเกิดขึ้นกับชาว Gen Y ที่รู้สึกว่าเพิ่งจะผ่านช่วงวัยเรียน วัยรุ่นมาเมื่อไม่นานนี้เอง Gen Y กลุ่มท้าย ๆ เรียนจบมหาวิทยาลัยมาทำงานยังไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำไป อายุก็แค่ประมาณ 30 ปี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาว Gen Y รู้จักและมีประสบการณ์ ชาว Gen Z ปลาย ๆ ก็ไม่รู้จัก ไม่มีประสบการณ์ร่วม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็ก Gen Alpha เพราะอายุของเด็กรุ่นนี้เป็นรุ่นลูกของ Gen Y

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นก็คือ มีเด็กรุ่นใหม่ตั้งคำถามว่า “นาดาว คืออะไร” การที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ แซวพ่อแม่ตัวเองว่า “ฟังแต่กามิ มันแก่” หรือการที่ศิลปินหนุ่มคนหนึ่งทำหน้างุนงงพร้อมสายตาว่างเปล่าใส่คนที่ถามว่า “รู้จักซาวด์อะเบาท์ไหม” นี่เป็นเรื่องชวนช็อกของชาว Gen Y ไม่น้อย เพราะการที่พวกเขาไม่รู้จักสิ่งเหล่านั้น หรือมองว่ามันแก่ ก็ทำให้ชาว Gen Y อนุมานกับตัวเองได้ว่า “เราแก่แล้วสินะเนี่ย” ยังไม่นับรวมกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ในทุกวันนี้มันหายไปแล้ว จนมี quote ประมาณว่า “ถ้าคุณทัน แปลว่าคุณไม่เด็กแล้ว” มากมายเต็มไปหมด

ซึ่งถ้าหากว่ากันตามข้อเท็จจริง ก็ไม่เด็กแล้วจริง ๆ นั่นแหละ ถึงอย่างนั้น เมื่อเอ่ยถึงชีวิตในอดีต หลายคนก็หวนคิดถึงอยู่ดี ถึงมันจะไม่สะดวกสบายแบบทุกวันนี้ แต่ชีวิตในช่วงนั้นมันก็สนุกสนานไปอีกแบบ Tonkit360 จึงจะมาชวนชาว Gen Y เช็กลิสต์ 50 ข้อที่ล้วนเป็นความทรงจำระดับตำนานของชาวเรา ที่พวกเราวัยรุ่นยุค 90 และเด็กยุค 2000 เกิดทัน แต่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก!

ถ้าคุณทันทุกข้อใน 50 ข้อนี้ คุณก็ไม่เด็กแล้วจริง ๆ ยอมรับความจริงซะ!

  1. เล่นเกมงูในโทรศัพท์มือถือ
  2. ส่งรูป/เพลงแบบไร้สาย ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่าอินฟราเรดและบลูทูธ ที่ต้องจับคู่โทรศัพท์ก่อน แล้วตอนถ่ายโอนข้อมูลต้องเอาโทรศัพท์มาวางใกล้ ๆ กัน
  3. ก่อนจะมี Spotify หรือ Joox ไว้ฟังเพลง จะต้องเคยพกซาวด์อะเบาท์มาก่อน
  4. ฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ท
  5. จากนั้นก็มาฟังเพลง mp3 จากเครื่องเล่น mp3
  6. โดยดาวน์โหลดเพลง mp3 จากเว็บ 4shared
  7. รู้จักสิ่งที่เรียกว่า PCT ก่อนที่จะมีโทรศัพท์มือถือของตัวเองใช้
  8. โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่ใช้เป็นแบบปุ่มกด รุ่นก่อนสมาร์ตโฟนเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตในมือถือได้แต่ต้องเปิด ๆ ปิด ๆ ใช้เสร็จต้องปิด จะใช้ค่อยเปิดใหม่ เพราะอินเทอร์เน็ตที่ซื้อไว้ใช้ได้จำกัด เปิดทิ้งไว้จะหมดเร็ว
  9. ดาวน์โหลดริงโทน เพลงรอสาย หรือภาพพื้นหลังจาก SMS โฆษณาในทีวี/หน้าโฆษณาในเล่มนิตยสาร/หน้าโฆษณาในการ์ตูน
  10. ใช้สมุดหน้าเหลืองหาเบอร์โทรศัพท์
  11. ต้องจดบันทึกทุกอย่างด้วยสมุดและปากกา มีสมุดเบอร์โทรศัพท์เล็ก ๆ พกติดตัว จดเบอร์พ่อแม่ เบอร์บ้านเพื่อน และเบอร์สถานที่สำคัญ
  12. ต้องแลกเหรียญเพื่อหยอดตู้โทรศัพท์ โดนกินเงินเป็นประจำ
  13. เติมเงินโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรเติมเงิน ที่ยังต้องขูดแถบรหัส
  14. แหล่งติดตามข่าวสารบ้านเมือง มีแค่ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และป้าข้างบ้านที่จับกลุ่มคุยกัน
  15. ถ้าจะใช้อินเทอร์เน็ต ต้องไปซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ตจากร้านสะดวกซื้อ โดยต่อเข้ากับโทรศัพท์บ้านด้วยระบบ Dial-up การเชื่อมต่อแต่ละครั้งต้องเสียค่าโทรศัพท์ 3 บาท กว่าจะต่อติดก็รอน้าน…นาน และการเชื่อมต่อจะมาพร้อมเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ แล้วถ้ามีคนโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน อินเทอร์เน็ตที่ต่อไว้จะหลุด!
  16. รอเพื่อนออนเอ็ม (MSN) จะเห็นขึ้นสถานะว่าง (สีเขียว) แต่ทักไปไม่ยอมตอบ! กลับกัน ถ้าเห็นขึ้นสถานะยุ่งอยู่ (สีแดง) ก็กำลังนั่งแชตคุยกันอยู่นี่แหละ
  17. ไปนั่งทำรายงานที่ร้านเกม ส่วนเครื่องข้าง ๆ นั่งเล่นเกม
  18. ยุคเก่า ทุกคนต้องมีแผ่นดิสก์ (Floppy A) ไว้บันทึกไฟล์งานใส่ อุปกรณ์ที่ทั้งอ่อนไหวและติดไวรัสง่ายมาก ใช้แป๊บ ๆ ก็พัง ต้องซื้อใหม่ทุกสัปดาห์ ยุคใหม่ขึ้นมาหน่อย ทุกคนเปลี่ยนมาพกแฟลชไดร์ฟความจุต่ำ บันทึกงานไฟล์ใหญ่มากไม่ได้ ไม่งั้นความจำเต็ม ส่วนที่ความจุสูง ราคาแพงมากสำหรับนักเรียน
  19. เวลาเรียนคอมพิวเตอร์ ต้องจับคู่กับเพื่อนเลขที่ข้าง ๆ นั่งเรียนเครื่องละ 2 คน
  20. ก่อนจะมีแอ็กเคานต์ Facebook, Instagram, TikTok และ Twitter (X) จะต้องเคยมี Hi5 กันมาก่อน
  21. ถ้าครูสั่งให้ทำรายงาน จะต้องทำหน้าปกด้วยกระดาษหอม ใส่พลาสติกแผ่นใสและสันรูด และใช้ WordArt ใน Microsoft Word ออกแบบตัวหนังสือหน้าปกและที่เป็นหัวข้อใหญ่ ๆ
  22. กินข้าวมื้อเย็นไปด้วยดูละครตอนเย็นไปด้วย ส่วนละครหลังข่าว ดูไปทำการบ้านไป
  23. ทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องตื่นมารอดูการ์ตูนช่อง 9
  24. วันเสาร์ พอการ์ตูนจบ ต้องเปลี่ยนมาช่อง 7 ดูซีรีส์เกาหลีพากย์ไทย
  25. ส่วนตอนกลางคืน ต้องถ่างตารอดูซีรีส์ต่างประเทศตอนดึก ๆ ถ้ากลัวหลับต้องบอกให้แม่ปลุก
  26. เพราะถ้าพลาดรายการ/ละครที่ฉายตามเวลา คือพลาดเลย ไม่มีรีรันหรือย้อนหลังให้ดู
  27. สมัยเรียน ตอนพักกลางวัน จะนัดเพื่อนเล่นโดดยาง หมากเก็บ ดีดลูกแก้ว ไพ่ยูกิ เกมเศรษฐี หมากฮอส บันไดงู เป่าดินน้ำมัน ฯลฯ เพราะยังไม่มีโทรศัพท์ให้เล่น
  28. ถ้าอยากอ่านการ์ตูนมังงะ ไปร้านเช่าการ์ตูน ไม่ต้องซื้อ ถ้ามีคนเช่าไป ต้องรอเขาเอามาคืน ยืมเรื่องอื่นไปก่อน
  29. แต่ถ้าอยากดูการ์ตูนแอนิเมะ ต้องซื้อแผ่นมาดู ไม่ก็รอดูในทีวี รายการการ์ตูนช่อง 9 นั่นแหละ
  30. รอฟังเพลงที่ตัวเองชอบในวิทยุ ถ้าดีเจไม่เปิดให้สักที ก็โทรไปขอเองเลย
  31. ร้องคาราโอเกะจากแผ่นซีดี
  32. การดู YouTube ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเพื่อรอโหลด ไม่มีภาพที่คมชัด 4K หรือ HD อะไรทั้งนั้น
  33. ช่วงปิดเทอม รอดูมิวสิกวิดีโอเพลงโปรดจากรายการเพลงในทีวีที่ออนแอร์ตอนบ่ายวันธรรมดา ไม่ก็ตอนดึกมาก ๆ
  34. เจอเพลงเพราะ ๆ ที่ดีเจเปิด ต้องพยายามจำเนื้อเพลงให้ได้สักท่อน แล้วเอาท่อนนั้นไปเปิดหาชื่อเพลงในอินเทอร์เน็ต (ที่ต่อติดย้ายยาก)
  35. รออ่านนิตยสาร I-Like จากเพื่อน เล่มเดียวเวียนอ่านทั้งห้อง หน้าทำนายดวง เกมทายใจ และเรื่องผี
  36. ใครมีทามาก็อตจิหรือเกมบอย จะต้องเอามาอวดที่โรงเรียน เพื่อนทั้งห้องจะขอยืมเล่น จากนั้นจะถูกครูยึด
  37. อยากได้ข้อมูลทำรายงาน ต้องไปห้องสมุดเป็นอันดับแรก ไปใช้คอมพิวเตอร์ที่นั่น ไม่ก็ไปหายืมหนังสือที่เกี่ยวข้อง
  38. มีเพื่อนเอาแคตตาล็อกของจุกจิกมาขาย สั่งหน้าไหนให้พับหน้านั้นไว้
  39. เขียนจดหมายเวียนในห้อง เพื่อแอบคุยกับเพื่อนในเวลาเรียน
  40. รุ่นก่อน จะรู้จักมานะ มานี ปิติ ชูใจ แต่รุ่นต่อมา จะรู้จักกล้ากับแก้ว หมาชื่อดำ แมวชื่อแต้ม และได้เรียนวิชา สปช. กพอ. สลน.
  41. กระเป๋าล้อลาก ดินสอกด Rotring สีไม้ 24 สี กล่องดินสอลายการ์ตูนที่มีหลายชั้น เป็นของฮิต ใครมีใช้ ดูบ้านรวย
  42. เล่นทำนายดวงด้วยหมอดูกระดาษ พับกระดาษทายใจเพื่อน
  43. หลังเลิกเรียน/โดดเรียน หาตัวเจอได้ตามโซนเกม ตู้คาราโอเกะ หรือตู้สติกเกอร์ในห้าง อ้อ! ร้านขนมหน้าโรงเรียนด้วย
  44. ซื้อการ์ดในสหกรณ์โรงเรียนมาเขียนอวยพรปีใหม่/อวยพรวันเกิด ให้เพื่อน
  45. ส่ง SMS อวยพรปีใหม่ให้เพื่อน ทั้งที่ส่งก่อนเที่ยงคืนวันสิ้นปี แต่ข้อความจะถึงตอนเช้าไม่ก็สาย ๆ วันที่ 1 ม.ค.
  46. พกเงินสด เด็กเล็ก ๆ ต้องมัดหนังยางกันเงินหาย โตมาหน่อย กระเป๋าสตางค์เด็กผู้หญิงต้องเป็นพลาสติกลายการ์ตูน กระเป๋าสตางค์เด็กผู้ชายต้องมีการ์ตูนพร้อมโซ่ห้อย
  47. ยอมอดขนมเพื่อเก็บเงินซื้อ photo card พวงกุญแจจากร้านหน้าโรงเรียน (ห้อยรูปพวงใหญ่ ๆ) หรืออัลบั้มของศิลปินที่ชอบ
  48. สะสมสติกเกอร์/การ์ดการ์ตูน ที่แถมมากับขนมหรือเครื่องดื่ม ถ้าได้ครบคอลเลกชัน จะต้องเอามาอวดเพื่อน
  49. วิ่งซื้อขนม/เครื่องดื่ม ทีละ 5-10 บาท ที่ร้านโชว์ห่วยในซอยบ้าน
  50. กินไอศกรีมแบบแท่ง พร้อมกับลุ้นอย่างมีความหวังว่าจะเจอไม้ฟรี