“กระทรวงอว. – ว.นวัตกรรม ธรรมศาสตร์” หนุนไทยสู่ชาติพร้อมใช้ AI ขับเคลื่อนประเทศ

“กระทรวงอว. – ว.นวัตกรรม ธรรมศาสตร์” หนุนไทยสู่ชาติพร้อมใช้ AI ขับเคลื่อนประเทศ ดึงความร่วมมือองค์กรระดับโลก สู่หัวเรือใหญ่จัดประชุม “IACIO 2024″ พร้อมเผยสัญญาณอาเซียนใช้ AI โตอันดับ ของโลก มูลค่าซื้อขายแตะ แสนล้าน

วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (CITU) ร่วมกับ International Academy of CIO (IACIO) จัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติประจำปี 2024 IACIO Annual Conference 2024 ภายใต้หัวข้อ “AI Strategic Transformation Principles and Practices for CIOs” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดมุมมองใหม่ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาปรับใช้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม

โดยงานนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยด้านสารสนเทศจากทั่วโลก ที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิธีการใช้งาน AI อันเป็นนวัตกรรมเพื่อผลักดันธุรกิจให้มีความยั่งยืนและเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิต การแพทย์ การเงิน และการขนส่ง พร้อมเจาะลึกประเด็นสำคัญหลายประการ อาทิ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการจัดอันดับรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคและระดับโลก ความท้าทายในการนำ AI ไปใช้ในภาครัฐบาล และจัดการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ แนวทางการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ การจัดการ AI การกำหนดบทบาทกลุ่ม CIO ที่ควรจะเป็นสำหรับการนำ AI มาใช้ในองค์กรในโลกยุคใหม่ ฯลฯ

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในปีนี้ วิทยาลัยนวัตกรรม ม.ธรรมศาสตร์ ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ IACIO Annual Conference 2024 ในหัวข้อ AI Strategic Transformation Principles and Practices for CIOs” เนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งในด้านการศึกษา การแพทย์ การเงิน การผลิต ไปจนถึงการขนส่ง ดังนั้น การประชุมดังกล่าวจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยในงานได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้นำองค์กรด้านสารสนเทศจากทั่วโลกมาร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ตลอดจนการรับมือกับความท้าทายและการใช้เทคฯ AI ในภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐบาล

การที่ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนา AI ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในประเทศไทย โดยมุ่งหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกได้แลกเปลี่ยนแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ ๆ และการพัฒนาธุรกิจในทิศทางที่ยั่งยืน ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ ต่อยอดไปถึงการประยุกต์ใช้ในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการและทิศทางการพัฒนาในอนาคต

ในขณะเดียวกันภายในงาน IACIO Annual Conference 2024 ตลอดระยะเวลา วัน ตั้งแต่วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2567 ยังเจาะลึกประเด็นสำคัญหลายประการ อาทิ

  • ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการจัดอันดับรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป็นการประเมินเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในภูมิภาคและระดับโลก โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการของภาครัฐในอนาคต เนื่องจากสามารถช่วยให้เรามองเห็นแนวโน้มในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุงการทำงานของทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สอดรับกับความคาดหวังและความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
  • ความท้าทายในการนำ AI ไปใช้ในภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูล ความเป็นส่วนตัว รวมถึงข้อกำหนดทางกฎหมายที่ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอสำหรับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้งาน AI โดยมีนโยบายการพัฒนาทักษะบุคลากรและสร้างความโปร่งใสในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ
  • แนวทางการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ (Professional Network) เครือข่ายวิชาชีพที่เข้มแข็งจะช่วยให้บุคลากรจากภาคส่วนต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการนำ AI ไปใช้ในองค์กรได้อย่างเหมาะสม

“ในด้านการศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ มีนโยบายการขับเคลื่อนการใช้ AI เพื่อยกระดับสถาบัน โดยมีการปรับการเรียนรู้ให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน (Personalized Learning) ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการมากขึ้น ซึ่ง AI จะช่วยจัดการกระบวนการบริหารจัดการ ในการจัดตาราง การจัดทรัพยากร และการลงทะเบียนนักศึกษา ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนและเกิดการประเมินผลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในภาพรวม AI ยังช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมให้กับประชาชนหลายกลุ่มได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”

“อย่างไรก็ตาม ได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นภูมิภาคที่มีการใช้เอไอในการขับเคลื่อนธุรกิจเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยคาดว่าความต้องการด้านเทคโนโลยี AI ในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 3 เท่า ระหว่างปี พ.ศ. 25702580 ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในภูมิภาค โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับ AI จะสูงถึงประมาณ 500,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจท้องถิ่นในการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีและสร้างมูลค่าเพิ่ม” ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวเสริมว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยี AI ในประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ที่ดีในเชิงปฏิบัติ ซึ่งการร่วมมือในการประชุมหารือ IACIO ในครั้งนี้จะช่วยกำหนดทิศทางและเป้าหมายการพัฒนา AI ของประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสในการประสานพลังร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการจัดสรรทรัพยากร ทั้งบุคลากร เทคโนโลยี และงบประมาณ ที่จะต้องตอบสนองต่อความต้องการและความเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล

การจัดงานประชุมวิชาการในครั้งนี้ยังมุ่งหวังที่จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นโอกาสอันดีในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI อย่างเต็มที่ในอนาคต

ขณะที่ ดร. ฌอง-ปิแอร์ อัฟเฟรต ประธานกรรมการ IACIO กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่ IACIO เป็นสมาคมของ CIO ระดับโลก ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสารสนเทศจากทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการใช้มุมมองของ CIO ในการปรับเปลี่ยนและนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรในยุคดิจิทัลที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีการก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและซับซ้อน จนทำให้การบริหารจัดการองค์กรจำเป็นต้องอาศัยแนวทางใหม่ ๆ ที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ CIO สามารถตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทบาทของ CIO จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ในการสร้างกลยุทธ์ที่จะช่วยให้เทคโนโลยีถูกนำไปใช้อย่างมีคุณค่าและมีประสิทธิผลสูงสุด การเตรียมความพร้อมด้านทักษะความรู้และการเข้าถึงเครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ เป็นสิ่งที่ IACIO เล็งเห็นถึงความสำคัญ และมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับ CIO ทั่วโลก เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้อย่างยั่งยืน ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความยั่งยืนในการเติบโตในระยะยาว

นอกจากนี้ การกำหนดบทบาทของกลุ่ม CIO (Chief Information Officer) ในโลกยุคใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่จะถูกนำเสนอในงานประชุมครั้งนี้ เรามีความตั้งใจที่จะเน้นย้ำถึงบทบาทที่เหมาะสมในการนำ AI มาใช้งานในองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในด้านการจัดการและการกำกับดูแลให้ AI ถูกใช้ในขอบเขตที่ชัดเจน มีความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับตามหลักการที่เหมาะสม การใช้งาน AI ที่มีกำกับดูแลอย่างถูกต้องจะช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่า AI ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสอดคล้องกับมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม