Hellbound 2 ฟื้นศรัทธาพระเจ้า ด้วย “ผู้ฟื้นคืนชีพ” ที่กลับจากนรก

สัปดาห์ที่แล้ว จำได้ว่าทิ้งท้ายเอาไว้ว่ามีซีรีส์ภาคต่อเรื่องหนึ่งได้เวลาลงสตรีม แต่ด้วย Netflix ปล่อย 6 ตอนจบในวันศุกร์ ก็เลยตามเก็บไม่ทัน ขอติดเอาไว้ก่อน และก็ค่อย ๆ ทยอยดูตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาแบบวันละตอนพอ เพราะมันค่อนข้างดูยาก และต้องไปรื้อฟื้นภาคแรกอยู่พอสมควร เนื่องจากทิ้งระยะเวลาห่างกันนานถึง 3 ปีจนลืมเรื่องเก่าไปหมดแล้ว แถมต้องมาค่อย ๆ สร้างอารมณ์ให้อินตามอีกนิดหน่อยด้วย ด้วยมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำ เพราะนักแสดงคนเก่าในภาคแรกมีปัญหาเรื่องคดียาเสพติด นักแสดงคนใหม่ที่มาแทนก็เล่นดีนะ เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีเลยล่ะ เพียงแต่เราไม่ค่อยอิน เพราะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของคน 2 คน

Hellbound 2 กลับมาสานต่อปมยุ่งเหยิงที่ทิ้งไว้ใน Hellbound โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากภาคแรก 8 ปี ช่วงที่อำนาจของกลุ่มสัจธรรมใหม่ค่อย ๆ เสื่อมลง เนื่องจากผู้นำที่ดูจะเห็นแต่ผลประโยชน์มากกว่าเรื่องประกาศิตจากพระเจ้า ในขณะเดียวกัน กลุ่มหัวศรกลับแข็งแกร่งขึ้น เพราะพฤติกรรมสุดโต่งที่ชวนให้ยิ่งศรัทธาในพระเจ้า แต่มันเป็นพฤติกรรมที่ล้ำเส้นกฎหมาย ใครก็เอาไม่อยู่ รัฐบาลจึงต้องพยายามใช้เรื่องความเชื่อใหม่เป็นเครื่องมือในการควบคุมคนกลุ่มนี้

ภาพจาก IG: netflixkr

ซึ่งเครื่องมือที่รัฐบาลเลือกใช้ก็คือ กลุ่มสัจธรรมใหม่ที่มีความเป็นองค์กรที่มั่นคงมากกว่า ควบคุมง่ายกว่าพวกบ้าคลั่งอย่างกลุ่มหัวศร และเพราะล่วงรู้ถึงสิ่งที่กลุ่มสัจธรรมใหม่ซ่อนเอาไว้ ซึ่งก็คือ “ผู้ฟื้นคืนชีพ” ในบรรดาคนที่ถูกไฟล้างบาปส่งไปลงนรกด้วยประกาศิตจากพระเจ้า มีอยู่คนหนึ่งที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา เธอจึงเป็นสัญลักษณ์ของ “ของจริง” ที่มีประสบการณ์ถูกไฟนรกแผดเผา เคยได้ไปนรก และได้กลับมา ทำให้ในเวลานี้หลาย ๆ ฝ่ายต้องการใช้ประโยชน์จากเธอ โดยที่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า “ผู้นำกลุ่มคนแรก” ที่หายตัวไป แท้จริงแล้วก็หายไปตกนรกมา และตัวเขาก็เพิ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมาเหมือนกัน

แต่เรื่องทั้งหมดนี้กลุ่มโซโด นำทีมโดยคุณทนายที่มีบทบาทอย่างมากในภาคแรก ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านลัทธินี้รู้เข้า พวกเขาพยายามจะช่วยเหลือผู้ฟื้นคืนชีพให้ได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือการเผยแผ่ลัทธิลวงโลกของใคร ในขณะเดียวกันก็พยายามจะตามหาผู้นำกลุ่มคนแรกที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเหมือนกัน เพื่อทำการวิจัยเรื่องฟื้นคืนชีพ และเรื่องในอดีตที่เด็กทารกเมื่อ 8 ปีก่อนคนหนึ่ง ที่สามารถหลีกเลี่ยงการลงทัณฑ์จากพระเจ้าได้ทั้งที่ได้รับประกาศิต ซึ่งเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ในเวลานี้ เรื่องราวในภาคนี้จึงเน้นไปที่เรื่องของความเชื่อที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงการเมือง เพื่อควบคุมผู้คนให้อยู่ในกรอบของกฎเกณฑ์ โดยใช้ทั้งความเชื่อและคนที่ฟื้นคืนชีพมาเป็นเครื่องมือ

ภาพจาก IG: netflixkr

สำหรับใครที่คิดไว้แล้วว่าจะตัดสินใจดู อาจจะต้องเคลียร์สมองให้โล่ง ๆ สักหน่อยนะ เพราะภาคนี้เน้นเดินเรื่องด้วยบทสนทนา และวุ่นวายอยู่กับการตามล่า ชิงตัวผู้ฟื้นคืนชีพ เพราะใครที่ได้ตัวเธอไปสามารถนำไปต่อยอดได้หลายอย่าง ไม่ได้ใส่ปมการพิพากษาจากพระเจ้าเท่ากับภาคแรก ทั้งนี้ก็ยังมีการชิงไหวชิงพริบของผู้นำในแต่ละกลุ่มอยู่นะ ถึงแม้ว่าช่วง 3 อีพีแรกจะชวนเหม่อลอยมากเลยก็เถอะ ในหัวมีความคิดอยู่ตลอดว่าตูดูอะไรอยู่วะเนี่ย ภาคแรกทำดีนะ แต่ภาค 2 ทำทำไม 55555 พอเข้าอีพีที่ 4 เครื่องเริ่มร้อน เริ่มมีเหตุการณ์ชวนลุ้นยาว ๆ ไปยันจบ ทว่าในแง่ของการเล่าเรื่องแล้ว ภาคแรกที่ว่างง ก็ยังดีกว่าเยอะ

ช่วยตั้งสติหน่อยนะ ตั้งสติให้ดี แล้วกลับมาใช้ชีวิตธรรมดา ๆ แบบเดิมเถอะนะ

ใช่แล้ว! ใช่เลย! ตามนี้แหละ 555 จริง ๆ คือรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ดูภาคแรกเมื่อ 3 ปีก่อนล่ะ ตัวละครหลายตัวคือหัวอ่อนแล้วก็เชื่ออะไรแบบงมงายจนน่าหงุดหงิด ถ้าอยู่ใกล้ ๆ นะจะเข้าไปเขย่าตัวแรง ๆ ไม่ก็เบิ๊ดกะโหลกสักที แล้วบอกว่าช่วยตั้งสติหน่อยเถอะว้อย คือก็เข้าใจความโกลาหลตามท้องเรื่องได้อยู่แหละนะ จู่ ๆ ก็มีปีศาจหน้าตาเหมือนคิงคองโผล่มาฉีกทึ้งคนกลางท้องถนน จากนั้นก็ฉายไฟแรงสูงจนร่างคนเหลือแต่ตอตะโก ไม่ก็เจอแสงไฟปีศาจที่โผล่มาบอกว่าแกจะต้องตายในวันนั้นวันนี้และต้องไปลงนรก ถ้าต้องเจอเหตุการณ์ประหลาดระทึกขวัญแบบนั้นขึ้นมาจริง ๆ ให้สงบจิตสงบใจมันก็คงทำไม่ไหวแหละ แต่หลาย ๆ อย่างมันก็น่ารำคาญเกิน โดยเฉพาะการเชื่อคำพูดของคนด้วยกัน

ภาพจาก IG: netflixkr

จากภาคที่แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ว่านั่นกลางเมือง ก็มีกลุ่มลัทธิหนึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่ากลุ่มสัจธรรมใหม่ และมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นผู้นำลัทธิ สถาปนาตัวเองว่าเป็นผู้ที่พระเจ้าเลือกให้เป็นผู้ส่งสาส์น จากนั้นเที่ยวป่าวร้องให้ผู้คนได้รับรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์นั้นว่ามันเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการกำจัดคนบาป เป้าหมายหลัก ๆ ก็คือเพื่อให้โลกใบนี้มันดีขึ้น พยายามส่งต่อคำสอนสิ่งที่ตนเองได้รับจากพระเจ้า เหมือนกับศาสดาเผยแผ่ศาสนาไม่มีผิด เมื่อผนวกรวมเข้ากับเหตุการณ์สาธิตการลงทัณฑ์จากพระเจ้าในที่สาธารณะที่มีคนเห็นกับตาตัวเองกันทั้งประเทศ ผู้คนก็หันมาเชื่อในพระเจ้าเพียงชั่วข้ามคืน และหันมานับถือเด็กหนุ่มผู้นำลัทธิว่าเป็นคนของพระเจ้า

ภาพจาก IG: netflixkr

เหตุการณ์ในภาค 2 นี้ เกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวในภาคที่แล้ว 8 ปี ซึ่งในฐานะของคนดู เราจะเห็นว่าซีรีส์ยังคงเล่นกับความเชื่อของคนได้เป็นอย่างดี รักษาแก่นเรื่องเอาไว้ได้แข็งแกร่งมาก พฤติกรรมการเชื่อแบบลุ่มหลงงมงายก็ยังทำออกมาได้น่าหงุดหงิดเหมือนเดิม ธีมความเชื่อแบบสุดโต่งก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่เพราะมันสุดโต่งมากเกินไป ในภาคนี้จึงเกิดการแบ่งฝ่ายที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าภาคที่แล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่ฝ่ายเชื่อกับฝ่ายไม่เชื่อ แต่ฝ่ายเชื่อก็ยังตีกันเอง เหมือนแบ่งออกเป็น 2 นิกาย 2 ขั้วความเชื่อที่เชื่อแตกต่างกัน

ภาพจาก IG: netflixkr

ขั้วแรกคือกลุ่มสัจธรรมใหม่ที่พอผู้นำคนแรกหายตัวไป ผู้นำคนที่ 2 ที่ขึ้นมาแทนก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือในแง่ของตัวบุคคลเลยสักนิด ไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มจะหางโผล่ว่าอาจจะไม่ได้เชื่อในพระเจ้าอะไรขนาดนั้นหรอก แต่เหมือนหากินกับความเชื่อความศรัทธาของคน แสวงหาผลประโยชน์ และเพื่อต้องการควบคุมให้คนกลุ่มนี้อยู่ในกรอบภายใต้ความเชื่อเดียวกัน มันง่ายต่อการบริหารควบคุม ส่วนอีกขั้วคือพวกกลุ่มหัวศร พวกนี้เป็นกลุ่มหัวรุนแรง บ้าคลั่ง และสุดโต่ง เป็นกลุ่มที่ยังรอผู้นำคนแรกกลับมา และเชื่อในพระเจ้าตามสิ่งที่เห็นจากการสาธิตและสาส์นประกาศิตเท่านั้น รวมถึงเชื่อว่ากลุ่มสัจธรรมใหม่ก็แค่พวกขี้โกหกที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์

ภาพจาก IG: netflixkr

นอกจากฝั่งที่เชื่อที่แบ่งออกเป็น 2 พวกแล้ว ก็ยังมีพวกฝ่ายรัฐบาลที่จะออกไปทางไม่เชื่อ แต่เห็นประโยชน์ของการที่ความเชื่อในลัทธิที่เหมือนกันนี้สามารถควบคุมคนได้ รัฐบาลไม่พอใจที่ไม่สามารถควบคุมพวกสุดโต่งบ้าคลั่งที่ไม่สนใจกฎหมายอย่างกลุ่มหัวศรได้ จึงหวังใช้กลุ่มสัจธรรมใหม่และผู้ฟื้นคืนชีพจัดการเผยแผ่คำสอนใหม่เพื่อทำลายศรัทธาพวกหัวศร และยังมีกลุ่มโซโดที่ไม่เชื่อในเรื่องของลัทธินี้ตั้งแต่แรก กลุ่มนี้จะนำทีมโดยคุณทนายสาวคนเดิมที่เคยมีบทบาทอย่างมากในการต่อต้านลัทธินี้ในภาคที่แล้ว

การเอากฎเกณฑ์ของการกระทำฝากไว้ในใจมนุษย์แต่ละคนเท่านั้น ทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นเดียวกับโลกที่ไม่มีกฎเกณฑ์

ภาพจาก IG: netflixkr

สืบเนื่องมาจากการมีความเชื่อที่แตกต่างกัน คนกลุ่มหนึ่งเชื่อแบบศรัทธา คนอีกกลุ่มหนึ่งเชื่อแบบคลั่งไคล้ และคนอีกกลุ่มหนึ่งทำเหมือนเชื่อเพราะเล็งเห็นประโยชน์ จะเห็นว่ามนุษย์แต่ละคนมีกฎเกณฑ์ที่จะเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแตกต่างกัน และการที่คนเรามีความเชื่อกระแสหลัก มันก็จะมาพร้อมกับการต่อต้านด้วย การต่อต้านที่ควบคุมไม่ได้จนข้ามเส้นกฎเกณฑ์ของสังคม ทำให้เกิดองค์กรอย่างกลุ่มหัวศรขึ้นมา องค์กรที่พร้อมจะป้อนข้อมูลสุดโต่งใส่หัวเหล่าสมาชิกอยู่ตลอดเวลา พยายามปลุกปั่นให้เกิดความเชื่ออย่างแรงกล้าและการกระทำที่ไม่กลัวเกรงกฎหมาย คิดอยากจะเอาไม้ไปฟาดใครก็ทำ คิดอยากกระทืบใครก็ทำ แล้วหาข้ออ้างว่าเป็นความชอบธรรม เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า

ภาพจาก IG: netflixkr

หากใครดูซีรีส์เรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคที่แล้ว จะเห็นว่าการทำงานของกลุ่มสัจธรรมใหม่ในช่วงที่ผู้นำคนแรกยังอยู่ และการทำงานของกลุ่มหัวศรที่มาพร้อมกับความก้าวร้าวรุนแรง สามารถฆ่าคนบริสุทธิ์ได้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง มันคือการพยายามล้างสมองให้ผู้คนที่มีแนวโน้มว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางความเชื่อของกลุ่มตัวเองเกิดความเชื่ออย่างลุ่มหลงและถอนตัวไม่ขึ้น ยิ่งเวลาผ่านไป คนหลงเชื่อก็มีมากขึ้น และเชื่อฝังหัวแบบงมงาย เชื่อเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ ปฏิเสธที่จะรับรู้ข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม จึงก่อให้เกิดกลุ่มลัทธิที่แข็งแกร่งและมีอิทธิพลมาก ๆ ชนิดที่บอกให้คนในกลุ่มพลีชีพซะ ก็มีคนที่พร้อมจะยอมทำตามมากมายโดยปราศจากการไตร่ตรอง

ภาพจาก IG: netflixkr

แล้วมันก็เป็นไปตามที่ทีมงานของรัฐบาลที่ทำงานร่วมกับกลุ่มสัจธรรมใหม่วิเคราะห์เลย สิ่งที่พวกหัวศรเชื่อและลงมือทำแบบสุดโต่ง มันไม่ต่างอะไรกับการเอากฎเกณฑ์ของการกระทำไปฝากไว้ในใจของคน แค่ขยันป้อนข้อมูลเข้าไป ใส่เชื้อเพลิงแห่งความเชื่อเข้าไปนิดหน่อย คนพวกนั้นก็สามารถทำทุกอย่างที่ข้ามเส้นกฎเกณฑ์ของสังคม ผลลัพธ์ก็คือ มันทำให้เกิดโลกที่ไม่มีกฎเกณฑ์ ใครก็ทำอะไรพวกหัวศรไม่ได้เลย พวกนั้นหัวรุนแรงมาก เผลอ ๆ โดนทำร้ายจนตายเลยก็ได้ แต่การจะควบคุมคนพวกนี้ได้ ก็ต้องสร้างความเชื่อบางอย่างขึ้นมา ความเชื่อที่ทำให้คนพวกนี้ยอมคล้อยตามในที่สุด เพราะเป็นพระประสงค์ใหม่ของพระเจ้า ซึ่งก็จะเป็นไปตามเกมที่รัฐบาลพยายามจะควบคุมคนกลุ่มนี้ให้ได้ และใช้ประโยชน์จากคนที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา คนที่เคยไปนรกจริง ให้เป็นคนถ่ายทอดพระประสงค์ของพระเจ้า

ภาพจาก IG: netflixkr

จริง ๆ แล้วตัวละครเลขาของประธานาธิบดีที่เป็นคนเดินเกมนี้เนี่ย เป็นตัวละครที่โคตรจะน่าหมั่นไส้ ทั้งบุคลิกท่าทาง การวางตัว ความฉลาด และวาทศิลป์ในเชิงข่มหน่อย ๆ เพื่อโน้มน้าว ทำให้ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่โคตรไม่น่าคบหาเป็นพันธมิตรในชีวิตจริง ดูก็รู้ว่านางไม่ได้เชื่ออะไรพวกนี้เลย แต่นางฉลาดมากพอที่จะทำการบ้านเกี่ยวกับความเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางพูดเพื่อนำมากล่อมคนอื่น เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และนางอ่านเกมขาด จนสามารถควบคุมคนที่ฉลาดน้อยกว่านางให้ยอมทำตามสิ่งที่นางต้องการโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย จะมีก็แต่คนที่ฉลาดพอ ๆ กับนาง หรือฉลาดกว่าเท่านั้นที่นางควบคุมไม่ได้และถูกต้อนให้จนมุมเอง ซึ่งคนคนนั้นก็คือ ผู้นำกลุ่มสัจธรรมใหม่คนแรก

นรกของคุณกับนรกของฉัน คงไม่เหมือนกันน่ะสิ

จริง ๆ แล้ว เหมือนประเด็นนี้จะเป็นพอยต์หลักของซีรีส์ในซีซันนี้ก็ว่าได้นะ เพราะมันดูน่าสนใจกว่าประเด็นที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีซันนี้ หรือก็คือประเด็นการฟื้นคืนชีพของผู้ก่อตั้งและอดีตประธานกลุ่มสัจธรรมใหม่คนแรก กับคนบาปสาวที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่งซะอีก ทั้งที่ใครก็ตามที่เปิดซีรีส์ซีซัน 2 นี้ขึ้นมาดู เชื่อเถอะว่าต่างก็เปิดมาเพื่อจะหาคำตอบของปมที่ว่าทำไม 2 คนนี้ที่โดนไฟแห่งการล้างบาปแผดเผาจนมอดไหม้ไปในซีซันที่แล้ว ถึงฟื้นกลับคืนมาอีกทั้งนั้นแหละ แต่ซีรีส์ซีซันนี้กลับทำให้ประเด็นนี้ยังคงเป็นปมต่อไป ไม่มีการเฉลยหรือพยายามจะให้คำตอบในประเด็นนี้เลย ความน่าสนใจในประเด็นนี้จึงค่อย ๆ จางลงไปในที่สุด

ภาพจาก IG: netflixkr

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ว่า 2 คนนี้ที่ฟื้นคืนชีพกลับมาเหมือนกัน ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาของความทุกข์ทรมานจากการตกนรกมาเหมือนกัน แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นหลังจากที่ได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งดันไม่เหมือนกัน ภาพที่อดีตผู้นำกลุ่มสัจธรรมใหม่เห็นทุกครั้งเวลาที่มองกระจก คือเจ้าอสุรกายลึกลับที่เคยลงทัณฑ์เขาอย่างโหดร้ายตามประกาศิตจากพระเจ้าเมื่อ 8 ปีก่อน ที่เหมือนมันจะคอยติดตามเขาไปทั่วทุกหนทุกแห่งแบบล่องหน และจะปรากฏกายขึ้นเมื่อเขามองกระจก แต่ภาพที่หญิงสาวธรรมดา ๆ เห็น เหมือนจะเป็นอนาคตในช่วงเวลาตายของคนอื่น และจิตสำนึกเดียวของเธอที่ยังคงอยู่ในใจ ไม่ว่าตัวเธอจะไปผจญกับนรกที่ไหนก็ตาม คือเธอเป็นแค่ “แม่” ของเด็ก 2 คน

ภาพจาก IG: netflixkr

มันมีอะไรที่พอจะตีความได้จากประเด็นนี้เยอะอยู่นะ สำหรับสิ่งที่ติดตามคน 2 คนนี้ ทำไมคนที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้นำลัทธิกลุ่มสัจธรรมใหม่ บอกใครต่อใครว่าตัวเองเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือกให้เป็นผู้รับสาส์นและส่งต่อคำสอนตามพระประสงค์ กลับต้องคอยหวาดกลัวทุกครั้งเวลาที่มองกระจก แล้วเห็นอสุรกายหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวนั่นอยู่ตลอด แต่กับผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยยินดีกับประกาศิตจากพระเจ้า ไม่เคยที่จะโอ้อวดว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษกว่าใคร ๆ เธอเป็นเพียงคนธรรมดาที่ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพราะลูก ๆ ยังเล็ก แต่เมื่อเธอฟื้นคืนชีพกลับมา เธอดันมองเห็นอนาคตที่เป็นช่วงเวลาตายของผู้อื่นซะงั้น และสามารถเอ่ยเตือนพวกเขาได้ด้วย ส่วนจะเชื่อหรือไม่ แล้วแต่บุญกรรม

ภาพจาก IG: netflixkr

ความสงสัยและความคับข้องใจ เป็นเหตุให้อดีตผู้นำกลุ่มสัจธรรมใหม่ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา พยายามตามหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงเห็นภาพนั้นในกระจกซ้ำไปซ้ำมา ถึงขั้นที่วางแผนทำทุกอย่างเพื่อปั่นหัวทุกคนที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือการตามหาหญิงสาวอีกคนที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเหมือนกัน เพื่อถามว่าเธอเห็นแบบเดียวกับที่เขาเห็นหรือเปล่า แต่คำตอบของเธอทำให้เขากระจ่าง ว่านรกของเธอกับนรกของเขามันไม่เหมือนกัน นรกของเธอคือการทรมานจากการเป็นแม่ที่ต้องทิ้งลูกไว้ เธอหมกมุ่นอยู่กับการเป็นแม่ด้วยความรักและเป็นห่วงลูก ส่วนนรกของเขาคือความขี้ขลาด ไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับว่าจริง ๆ แล้วปีศาจมันอยู่ในตัวของเขาเอง

ภาพจาก IG: netflixkr

จะว่าไปแล้ว จริง ๆ น่าจะมีอีกอย่างที่ทำให้ 2 คนนี้เกี่ยวข้องกันในอีกแง่มุม เธออยู่ในฐานะแม่ที่กลัวความตาย ไม่กล้าตายเพราะลูกยังเด็กมาก ๆ ทิ้งลูกไปไม่ได้ ส่วนเขา เป็นเด็กกำพร้าที่พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ทั้งที่ตอนเด็ก ๆ เขาคือคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตโดยเชื่อว่าถ้าเป็นเด็กดีแล้วแม่จะกลับมาหา แต่สำหรับเขามันไม่มีวันนั้น เขาเติบโตขึ้นมาเองในบ้านเด็กกำพร้า ทะเยอทะยานที่จะโดดเด่นให้ได้แม้จะไม่มีพ่อไม่มีแม่ก็ตาม และในที่สุด เขาก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็ศรัทธา ใคร ๆ ก็เชื่อว่าเขาคือคนที่พระเจ้าเลือก ทว่าสุดท้าย ก็ได้เท่านั้นจริง ๆ ถ้าการรับประกาศิตจากพระเจ้าคือคนบาป ตัวเขาเองก็คือคนบาปคนหนึ่งเหมือนกัน

หลังจากที่ดู Hellbound 2 ครบจบทั้ง 6 อีพี (แบบทรมานนิด ๆ) ก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้มีภาค 3 ต่อเลยพ่อคุณ! 555 คือเหนื่อยจะงงแล้วจ้า ทั้งที่การต่อยอดประเด็นความเชื่อที่มาจากภาคแรกเนี่ยมีคอนเซปต์ที่น่าสนใจมากนะ แถมยังตัดจบด้วยการทิ้งปมฟื้นคืนชีพอีกต่างหาก ก็นะ ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา เพราะนอกจากสารพัดปมที่ทิ้งไว้ในภาคแรกแทบไม่มีอะไรคลี่คลายแล้ว มาในภาคนี้ก็ยังจะสรรหาปมมาใส่เพิ่มแล้วก็ไม่แก้อีกตามเคย ถ้าจะจบแบบปลายเปิดให้คนดูไปคิดต่อเองก็พอเข้าใจได้อยู่ ถึงอย่างนั้น บทสรุปของตัวละครแต่ละตัวมันก็ไม่ควรจะไปต่อได้อีกแล้วน่ะสิ เพราะฉะนั้น ก็ให้มันจบแบบสวย ๆ เท่านี้ดีแล้ว อย่าให้มันเละเทะออกมหาสมุทรไปมากกว่านี้เลย🤦‍♀️