
ในช่วงระยะเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุเฮอร์ริเคนที่พัดถล่มถึง 2 ลูก ในช่วงคาบเกี่ยวกัน จนส่งผลให้บ้านเรือนพักเสียหาย น้ำท่วมหนัก และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
โดยเฮอร์ริเคน “ฮาร์วีย์” ที่ถล่มรัฐเท็กซัส ในระหว่างวันที่ 17 สิงหาคม – 2 กันยายน มีความรุนแรงสูงสุดอยู่ที่ระดับ 4 สร้างความเสียหายมากกว่า 70 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอยู่ที่ 71 ราย
ขณะที่เฮอร์ริเคน “เออร์มา” ที่พัดถล่มรัฐฟลอริดา มาตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม และเพิ่งอ่อนกำลังลงเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา วัดความรุนแรงสูงสุดได้ถึงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของพายุเฮอร์ริเคน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 55 ราย (ข้อมูลล่าสุด 12 กันยายน) และสร้างความเสียหายในวงกว้างจนถึงขณะนี้มากกว่า 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับ “เฮอร์ริเคน” นั้น เป็นชื่อเรียกพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดบริเวณทิศตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก โดยตามมาตรวัด “แซฟไฟร์-ซิมป์สัน” แบ่งระดับความรุนแรงอยู่ 5 ระดับ ตามความเร็วของลม ดังนี้
ระดับ 1 (Category One)
ความเร็วลม : 119-153 กม./ชม.
ความสูงของคลื่น : 4-5 ฟุต จากระดับปกติ
ความรุนแรงในการสร้างความเสียหาย : บ้านเคลื่อนที่, ท่าเรือ, ไม้พุ่ม และต้นไม้ตามชายฝั่งได้รับผลกระทบเล็กน้อย และน้ำท่วมถนนริมชายฝั่ง
ระดับ 2 (Category Two)
ความเร็วลม : 154-177 กม./ชม.
ความสูงของคลื่น : 6-8 ฟุตจากระดับปกติ
ความรุนแรงในการสร้างความเสียหาย : พัดหลังคา ประตู หน้าต่างพังเสียหาย , บ้านเคลื่อนที่ ต้นไม้ และท่าเรือได้รับความเสียหายหนัก
ระดับ 3 (Category Three)
ความเร็วลม : 178-209 กม./ชม.
ความสูงของคลื่น : 9-12 ฟุตจากระดับปกติ
ความรุนแรงในการสร้างความเสียหาย : บ้านเคลื่อนที่ บ้านเรือนหรือตึกขนาดเล็กถูกพัดพังเสียหาย ต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม
ระดับ 4 (Category Four)
ความเร็วลม : 210-249 กม./ชม.
ความสูงของคลื่น : 13-18 ฟุตจากระดับปกติ
ความรุนแรงในการสร้างความเสียหาย : บ้านที่อยู่บริเวณแนวชายฝั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะชั้นล่าง หลังคาบ้านเรือนขนาดเล็กถูกพัดปลิว บ้านเคลื่อนที่ถูกพัดพังทลาย ต้นไม้ เสา และป้ายต่างๆ ถูกพัดโค่นล้ม
ระดับ 5 (Category Five)
ความเร็วลม : มากกว่า 249 กม./ชม.
ความสูงของคลื่น : มากกว่า 18 ฟุตจากระดับปกติ
ความรุนแรงในการสร้างความเสียหาย : หลังคาตึกและอาคารต่างๆ ได้รับความเสียหายทั้งหมด ประตู หน้าต่าง ถูกพักเสียหายอย่างหนัก
ที่มา : www.cnn.com