แชมป์บาวคัพ…น้อยแต่มาก

1. แชมป์สูงสุด 10 สมัย

การที่ “หงส์แดง” ภายใต้การคุมทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เอาชนะเชลซี 1-0 คว้าแชมป์คาราบาวคัพมาได้ ถือเป็นการผงาดก๋าสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในการเป็นแชมป์ถ้วยนี้มากที่สุดถึง 10 สมัย ไล่เรียงมาตั้งแต่ปี 1981, 1982, 1983, 1984, 1995, 2001, 2003, 2012, 2022 และล่าสุด 2024 รองลงมา คือสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 8 หน

2. อดีตถ้วยอาถรรพ์

ผู้จัดการที่เคยพาทีมคว้าถ้วยใบนี้มากครั้งที่สุดของ ลิเวอร์พูล ก็คือ ปรมาจารย์ บ็อบ เพสลี่ย์ ในช่วงสามสมัยแรก รองลงมาคือ เชราร์ อุลลิเย่ร์ และคล็อปป์ 2 หนเท่ากัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าก่อนหน้านั้น ลีกคัพ เคยเป็นถ้วยอาถรรพ์ที่สโมสรลิเวอร์พูลมิอาจไขว่คว้ามาได้ตลอดยุค 70 อันเกรียงไกร จนมาเปิดบริสุทธิ์ได้เมื่อปี 1981 โดยเอาชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในการรีเพลย์ที่สนาม วิลล่า ปาร์ค 2-1 หลังจากเสมอกันในนัดแรกที่เวมบลีย์ 1-1

3. มิ้กกี้เมาส์คัพ?

แชมป์ลีกคัพ หรือคาราบาวคัพในปัจจุบัน เคยถูกค่อนขอดมาตลอดว่าเป็น “ถ้วยมิ้กกี้เมาส์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ ยังกุมบังเหียนอาร์เซนอล กุนซือเฟรนช์ผู้นั้นแทบจะไม่ใส่ใจใยดี และมักส่งผู้เล่นสำรองหรือนักเตะเยาวชนลงมาหาประสบการณ์กับเวทีนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ 

แต่เชื่อหรือไม่ว่าสโมสรที่ได้แชมป์ 11 ปีหลังสุดมีแต่ทีมใหญ่ทั้งสิ้น นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2014, 2016, 2018, 2019, 2020, 2021) ลิเวอร์พูล (2022, 2024) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2017, 2023) และเชลซี (2015)

4. น้อยแต่มาก

แชมป์คาราบาวคัพ ศักดิ์และสิทธิ์ แม้จะถือเป็นถ้วยเล็กที่สุดของอังกฤษ แต่ในอีกทางหนึ่งมันคือโทรฟี่ แรกของฤดูกาล จังหวะนี้คือความมั่นใจมหาศาลให้กับสโมสรที่คว้ามาครองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นทีมที่ลุ้น 4 ถ้วยอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่อย่าง ลิเวอร์พูล หากพลาดไปก็ย่อมกระทบต่อการลุ้นแชมป์อื่น ๆ ตามมาอย่างแน่นอน 

เชลซีก็ตระหนักดีว่าถ้าได้ถ้วยใบนี้ไปจะช่วยสร้างพลังและต่ออายุการทำงานให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ

5. แชมป์ที่แลกมาด้วยอาการบาดเจ็บ

ลิเวอร์พูล ต้องเสียมิดฟิลด์ตัวสำคัญอย่าง ไรอัน กราเฟนแบร์ช จากการเสียบสกัดอันรุนแรงของ มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางดัตช์ถูกหามออกจากสนามกลางคัน ส่งผลให้ยอดนักเตะเจ็บของทีมจากถิ่นมิดฟิลด์นั้นเกินกว่าโหลเข้าไปแล้ว

ไล่เรียงมา 13 รายตั้งแต่ อลีซง เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, สเตฟาน บายเซติช, เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, โดมินิค โซโบสไล, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, เบน โด๊ค, ดิโอโก้ โชต้า และวาตารุ เอ็นโด 

ภาวนาให้บางคนกลับมาได้เร็วที่สุด แต่ คล็อปป์ ก็ยังพออุ่นใจได้ว่าบรรดาเด็กสร้างที่เขาดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ไม่มีใครโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังแม้แต่คนเดียว ไล่มาตั้งแต่ คลีวีน เคลเลเฮอร์, คอนอร์ แบรดลี่ย์, ยาเรลล์ ควอนซาร์, บ็อบบี้ คลาร์ค, เจมส์ แม็คคอนเนลล์ และ เจเดน แดนน์ส

ทั้งหมดก็คือควันหลงจากศึกคาราบาวคัพ นัดชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ.