สิงห์โตสายสปีด

พักคิวจากสโมสร ทีมชาติ “สิงโตคำราม” ลงสนามในศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก ด้วยการเคี้ยวสมันน้อย มอลตาไปอย่างนิ่ม ๆ 2-0 แต่อาจไม่ค่อยสะใจแฟนบอลสายซาดิสม์ เพราะยิงสลุตได้น้อยไปหน่อย ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสมากมาย โดยเฉพาะในครึ่งหลัง เราลองไปดูประเด็นที่น่าสนใจในทีมของ แกเร็ธ เซาท์เกต ชุดนี้กันครับ

ขาดแคลนแบ็กซ้ายมืออาชีพ

อังกฤษชุดนี้ประสบปัญหาการขาดกองหลังฝั่งซ้ายอีกแล้ว เมื่อทั้ง ลุค ชอว์ เจ้าของตำแหน่ง และตัวสำสำรองอย่าง เบน ชิลเวลล์ นัดกันเจ็บไปทั้งหมด ก่อนหน้ากุนซือ เซาท์เกต แก้ปัญหาโดยการโยกทริปเปียร์ ไปเล่น แล้วใช้ ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นแบ็กขวา แต่ในเกมนี้เขาให้ ฟิกาโย่ โทโมริ ซึ่งปกติเล่นเซ็นเตอร์ ไปยืนแทน ก็ยังดูขัด ๆ เขิน ๆ ยังมี ริคกี้ ลูอิส จากแมนฯ ซิตี้ ที่มีรายชื่ออีกคน แต่ไม่ถูกเรียกใช้งาน ระยะยาวจำเป็นต้องหาผู้เล่นเท้าซ้ายธรรมชาติมาช่วยเสริมทัพอย่างแน่นอน

ขณะที่ทางฝั่งแบ็กขวานั้นกลับมีล้นจนเลือกไม่ถูกเลย ไล่มาตั้งแต่ ไคล์ วอล์คเกอร์, เคียร์แรน ทริปเปียร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, รีส เจมส์, ริคกี้ ลูอิส และแอรอน แวน บิสซาก้า 

นั่นล่ะครับ งานของผู้จัดการทีมชาติ ซึ่งไม่มีอะไรสมดุลง่าย ๆ เลยจริง ๆ 

กองกลางไร้จินตนาการ

เมื่อขาด จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไป แผงมิดฟิลด์ของอังกฤษก็ดูจืดชืดไปโดยปริยาย นายใหญ่สิงโตคำราม ยังคงให้โอกาส จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามเป็นหัวใจในห้องเครื่อง ทั้ง ๆ ที่โดนเสียงวิจารณ์ว่าด้วยสภาพเขาได้เลยจุดสูงสุดไปแล้ว แถมยังไปเล่นในลีกรองอย่าง ซาอุฯ

กองกลางอีกสองคนที่ได้ลงสนามคือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ถูกดันจากแบ็กขวาขึ้นมา และคอนอร์ กัลลาเกอร์ จากเชลซี ทั้งสามคนไม่มีใครเป็น เพลย์เมกเกอร์ ได้ ทำให้แฟนบอลที่ชื่นชอบในเกมบุก อาจจะดูแล้วอึดอัดและจืดชืดไปสักนิด แต่พอใส่ ซาก้า ลงไปในครึ่งหลัง เกมรุกทางริมเส้นของทีมผู้ดีก็มีประสิทธิภาพวูบวาบขึ้นมาทันตาเห็น 

มีดีที่ม้านั่งสำรอง

รายชื่อผู้เล่นที่นั่งรอโอกาสบนม้านั่งสำรอง กลับเป็นสิ่งที่น่าอุ่นใจมากที่สุดสำหรับ แกเร็ธ เซาท์เกต ในเกมนี้ เพราะเขามีทั้ง เดแคลน ไรซ์ ซึ่งถูกเปลี่ยนลงสนามไปแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ไคล์ วอล์คเกอร์ กัปตันเรือใบ ที่ได้ลงไปแตะมือกับ โทโมริ 

ยังมี บูกาโย่ ซาก้า และ โคล พาล์มเมอร์ ที่ลงเล่นในครึ่งหลังเช่นเดียวกัน หนำซ้ำบรรดาผู้เล่นระดับดาราจากพรีเมียร์ลีกอย่าง แจ็ค กรีลิช, คัลวิน ฟิลลิปส์, โอลี่ วัตกินส์, จาร็อด โบเว่น นั่งตบยุงกันเป็นแถว ยังไม่นับรวมตัวเจ็บอย่าง จอห์น สโตนส์ และอีกหลายรายที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้น เรื่องความอุดมสมบูรณ์ของขุมกำลังจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาของ เซาท์เกต 

สปีดบอลอันรวดเร็ว

ณ เวลานี้ อังกฤษ มีดาวรุ่งพุ่งแรงมากมายกว่าชาติไหนในยุโรปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาสายสปีดอย่าง ฟิล โฟเด้น, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บูกาโย่ ซาก้า ฯลฯ ทำให้ทีมนั้นได้เปรียบคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก เพราะทั้งเร็ว ทั้งสด และความฟิต ทำให้ยิ่งเล่นท้ายเกมยิ่งได้ขย่ม เพราะคู่ต่อสู้ยุบกันไปหมดแล้ว เกมต่อไปในการไปเยือน มาซิโดเนียเหนือ “สิงโตคำราม” ก็น่าจะใช้จุดเด่นอันนี้ในการทำลายล้างคู่ต่อสู้ให้สิ้นซากอย่างไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน

ระยะยาวอยู่ที่ว่ากุนซือชาวอังกฤษจะเลือกแทคติคและทีม 11 ตัวจริงอย่างไรให้สอดคล้อง และมีความเฉียบขาดมากที่สุด เพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน นั่นก็คือแชมป์รายการเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 58 ปี 

เอาใจช่วยครับ!