‘ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์’ เก่งที่สุด แต่ยังไม่ดีที่สุด?

ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เพิ่งจะสร้างสถิติใหม่ ด้วยการเป็นนักชกคนแรกของโลกที่รักษาสถิติไร้พ่ายในการชกอาชีพได้ยาวนานถึง 50 ไฟต์ หลังไล่ถลุง “หมาบ้าไอริช” คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ แชมป์โลกมวยยูเอฟซี ในยกที่ 10 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาพจาก themoneyteam.com

ตามสถิติแล้วไม่มีใครปฏิเสธว่า “เดอะ มันนี่” คือนักชกที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาตร์วงการมวยโลก อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายเหตุผลที่ ยอดกำปั้นไร้พ่ายชาวอเมริกันอาจยังไม่สามารถก้าวผ่านคำว่า “นักชกที่ดีที่สุดตลอดกาล” ได้ ซึ่งจะมีเหตุผลใดบ้างนั้น Tonkit360 รวบรวมมาฝากกัน

ไม่ได้เหรียญทองมวยโอลิมปิก
แม้จะเป็นการแพ้คะแนนแบบกังขา ต่อซาราฟิม โตโดรอฟ ในการชกมวยสากลสมัครเล่นกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 1996 รอบรองชนะเลิศ รุ่นเฟเธอร์เวท ที่แอตแลนต้า จนทำให้เจ้าตัวอกหักไม่ได้เข้าไปชิงเหรียญทองกับ สมรักษ์ คำสิงห์ แต่หนึ่งในสถิติที่ฟลอยด์ไม่อาจเอื้อมถึง คือการที่เขาไม่สามารถคว้าเหรียญทองในการชกสมัครเล่นได้ ก่อนที่หลังจากนั้นจะเบนเข็มเข้าสู่การชกอาชีพแบบเต็มตัว ซึ่งเจ้าของเหรียญทองในครั้งนั้นก็คือ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยนั่นเอง

ไฟต์ที่ 50 ชกจริงหรือแค่ “โชว์”
แม้สำนักข่าวต่างประเทศทุกสำนักจะรายงานตรงกันว่า ฟลอยด์ สร้างสถิติไร้พ่ายเหนือตำนานกำปั้นอย่าง ร็อกกี้ มาเซียโน่ หลังชกชนะคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไฟต์ดังกล่าวอาจเป็นเพียงแค่ “โชว์” เท่านั้น โดยปีเตอร์ มาร์เซียโน่ น้องชายของ ร็อกกี้ ผู้ครองสถิติ 49-0 ออกมาวิจารณ์ว่า ไฟต์ดังกล่าวไม่ควรจะถือเป็นการชกไฟต์ที่ 50 เพราะแม้จะเป็นการชกของ 2 นักมวยเหมือนกัน แต่เบสิคทุกอย่างระหว่าง มวยสากลอาชีพ กับ มวยในกรง มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญเป็นการชกภายใต้กติกามวยสากลอาชีพ ซึ่งฟลอยด์ได้เปรียบทุกประต

สถิติชนะน็อกยังห่างชั้น “ร็อกกี้ มาร์เซียโน่”
สถิติ 50-0 ในการชกอาชีพของฟลอยด์นั้น จำแนกเป็นชนะน็อก 27 ครั้ง และชนะคะแนน 23 ครั้ง ทว่าหากย้อนดูสถิติของ ร็อกกี้ มาร์เซียโน่ ตำนานมวยเอฟวี่เวทผู้ล่วงลับ 49-0 เขาสามารถเอาชนะน็อกคู่แข่งได้ถึง 43 ไฟต์ ที่สำคัญสื่อต่างประเทศให้ความเห็นด้วยว่า การต่อสู้ของ “ร็อกกี้” ในรุ่นเอฟวี่เวทนั้น โหดสาหัสกว่าการชกในพิกัดน้ำหนักของฟลอยด์หลายเท่า โดยเฉพาะน้ำหนักหมัดในของคู่ชกในการต่อสู้กันแต่ละไฟต์

ไม่ได้ดวลหมัด “ปาเกียว” ในช่วงพีค
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของไฟต์หยุดโลก “ฟลอยด์-ปาเกียว” ที่ต้องล่าช้าออกมาร่วม 5 ปี นับจากปี 2010 คืออะไร แต่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฟลอยด์ไม่สามารถย้อนกลับไปพิสูจน์เสียงวิจารณ์ที่บอกว่าไฟต์ระหว่างฟลอยด์-ปาเกียว ไม่ควรจะล่าช้ามาจนถึงปี 2015 ได้ เพราะว่ากันว่าหากย้อนเวลาจากนั้นไปราว 2-4 ปี นั่นคือช่วงเวลาที่ แมนนี่ ปาเกียว อยู่ในฟอร์มที่พีคที่สุด ก่อนที่สุดท้ายทั้งคู่จะตัดสินใจดวลกันในปี 2015 ก่อนที่ฟลอยด์จะเอาชนะคะแนนไปแบบที่ทั่วหลายคนยังข้องใจ

ชนะ “หลุยส์ คาสติลโญ่” ปี 2002 แบบค้านสายตา
มีหลายไฟต์ที่ “เดอะ มันนี่” เอาชนะคะแนนคู่แข่งแบนค้านสายตา แต่ไฟต์ที่แฟนหมัดมวยทั่วโลกจดจำมากที่สุดเห็นจะเป็นการชกอาชีพครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2002 ณ สังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ การ์เดน อารีน่า พบกับ หลุยส์ คาสติลโญ่ กำปั้นชาวเม็กซิกัน ในครั้งนั้นเป็นการชกในพิกัดน้ำหนักใหม่ ที่ทุกคนคาดว่าฟลอยด์น่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก ทว่าเกมการชกกับเป็นนักชกจากแดนจังโก้ที่รัวหมัดใส่ฟลอยด์แบบไม่ยั้ง ทว่าผลการให้คะแนนของกรรมการหลังครบ 12 ยก กลับชูมือให้ฟลอยด์เป็นผู้ชนะแบบหน้าตาเฉย ท่ามกลางความมึนงงของของแฟนมวยทั่วโลก แม้หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเจ้าตัวจะมีไฟต์ล้างตากับคาสติลโญ่คนเดิมให้ทุกคนได้หายข้องใจก็ตาม

ด้วยสไตล์การชกที่แคล่วคล่องว่องไว และรู้กลยุทธ์ในการชกชนะคู่ต่อสู้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาผู้นี้คือนักชกที่เก่งที่สุดคนในประวัติศาสตร์กำปั้นโลก แต่จะเป็นนักชกที่ดีที่สุดตลอดกาล เหนือ มูฮัมหมัด อาลี,ชูก้าร์ เรย์ โรบินสัน ,ชูก้าร์ เรย์ เลนเนิร์ด รวมถึง ร็อกกี้ มาร์เซียโน่ หรือไม่นั้น คงต้องให้แฟนมวยทั่วโลกเป็นผู้ตัดสินเอาเอง