ปัจจุบัน ร้านแบบ Stand Alone หรือร้านที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อขยายธุรกิจในทุกพื้นที่ที่มองเห็นโอกาส และขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ชุมชน ดังที่เราจะเห็นร้านค้าหรือแบรนด์ต่าง ๆ ที่เคยคุ้นหน้าคุ้นตาในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้ มอลล์ แม้แต่ร้านกาแฟหรือร้านอาหารที่พบเจอบ่อยตามปั๊มน้ำมัน ก็แยกตัวออกมาเช่าพื้นที่ด้านนอกห้างอยู่ตามแหล่งชุมชน แล้วเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบ Stand Alone อาจมีพื้นที่จอดรถด้านหน้าร้านได้หลายสิบคัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อยู่บริเวณโดยรอบ
การทำร้านในรูปแบบ stand alone ที่แยกออกมาเป็นเอกเทศจากห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคไปสู่เมืองชั้นนอก โดยให้ความสำคัญกับการบริการและสินค้าที่หลากหลายในราคาจับต้องได้ให้กับลูกค้า เพื่อสร้างการเข้าถึงในทุก ๆ พื้นที่ เพราะมีคนบางกลุ่มที่อยากซื้อของบางอย่างแต่ไม่อยากไปถึงห้างสรรพสินค้า ก็สามารถแวะร้านแบรนด์เดียวกันกับที่เปิดบนห้าง แต่เป็นสาขาที่เปิดตามหัวมุมถนนแทนได้เลย
โดยทั่วไปของร้านแบบ stand alone ที่ตั้งเดี่ยว ๆ นอกห้างสรรพสินค้า เมื่อเทียบกับการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า จะมีข้อดี คือ ค่าเช่าพื้นที่มีราคาถูกกว่า สามารถจัดวางร้านได้อย่างอิสระ กำหนดเวลาเปิด-ปิดได้เองไม่ต้องอิงตามเวลาเปิด-ปิดห้าง โดยร้านที่เปิดจะเป็นจุดเด่นในพื้นที่นั้น ๆ และมีเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย แต่ข้อเสียก็คือ ยากต่อการรับรู้และเข้าถึงสินค้า ด้วยลูกค้าจะมีกลุ่มเฉพาะที่จำกัด เนื่องจากลูกค้าที่แวะเข้ามาคือมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการสินค้าของร้าน (ถ้าไม่อยากได้จะไม่แวะ) ไม่ใช่ลูกค้าแบบที่มีจุดประสงค์หลากหลายเวลาเดินห้าง แล้วแวะเข้ามาเยี่ยมชมเมื่อเดินผ่าน เนื่องจากสินค้าและบริการในบริเวณโดยรอบไม่หลากหลายเท่ากับในห้างนั่นเอง
ในมุมของลูกค้า ร้านแบบ stand alone จะเหมาะกับคนที่มีเป้าหมายจะซื้อของที่อยากได้เท่านั้นแล้วกลับเลย จึงไม่อยากจะไปไกลถึงที่ห้างสรรพสินค้า หรืออาจจะไม่ชอบเข้าใช้บริการสาขาในห้างเพราะไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะ เข้าห้างทีหาที่จอดรถก็ยาก ในขณะเดียวกัน หน้าร้านแบบ stand alone ส่วนใหญ่มักรองรับการจอดรถหน้าร้านได้จำนวนหนึ่ง เมื่อเทียบกับจำนวนคนใช้บริการที่เข้ามาแบบทยอยแวะเวียนมาตลอดวัน ซื้อเสร็จก็ออก แต่ไม่ได้มีเป้าหมายอื่นที่สามารถเดินเตร็ดเตร่ได้ทั้งวันแบบการซื้อของในห้างสรรพสินค้า
ส่วนในมุมของผู้ประกอบการ การขยายสาขาออกมาทำ stand alone นอกห้างสรรพสินค้า ถือเป็นเทรนด์การปรับตัวที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ การประกาศปิดห้างสรรพสินค้าในช่วงการระบาดของโควิด-19 นั่นเอง มันกลายเป็นว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม จากห้างสรรพสินค้าที่ไม่เคยมีวันหยุด ไม่เคยปิดทำการ ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งเริ่มเล็งเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ในอนาคต คงจะดีกว่าหากมีร้านแบบเดียวกันเปิดนอกห้างด้วย ในกรณีที่ห้างปิด ร้านนอกห้างยังอาจเปิดได้
แม้ว่าการปรับตัวไปยังออนไลน์จะเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและต่อยอดได้มากกว่าในยุคดิจิทัล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจำนวนหนึ่งยังชอบที่จะเดินดูเดินเลือกสินค้าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ต้องการเห็นของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ จึงจำเป็นต้องมีหน้าร้านควบคู่ไปกับการขายผ่านทางออนไลน์เพิ่มมาอีกช่องทาง ร้านจึงทำสาขานอกห้างในรูปแบบ stand alone หรือ Pop-up Store หรือหน้าร้านขนาดเล็กนอกห้างสรรพสินค้า โดยเลือกทำเลในแถบที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา เดินทางสะดวก มีที่จอดรถเพียงพอต่อความต้องการ ตามย่านชุมชน ย่านศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้จะเป็นทำเลที่คนไม่ค่อยพลุกพล่าน แต่ถ้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีความพิเศษด้านพื้นที่ที่กว้างขวางกว่าสาขาในห้าง ก็จะมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ทำให้คนรับรู้ และจดจำแบรนด์สินค้าได้มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตั้งร้านในพื้นที่นั้น ๆ เพราะในความเป็นจริง ถ้ามีร้านหรือแบรนด์จากในห้างมาเปิดบุกเบิกพื้นที่ ไม่นานนัก ก็จะมีร้านค้าร้านอาหารของชาวบ้านมาเปิดด้วยในบริเวณใกล้เคียง ผลพวงคือช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมได้
อย่างไรก็ตาม ร้านในรูปแบบ stand alone อาจไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมในการเดินห้างสรรพสินค้าของคนไทย ที่มักจะไม่ได้ไปห้างเพื่อซื้อของเพียงเท่านั้น แต่ห้างเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะจะกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ชอปปิงทั้งสิ่งอุปโภคและบริโภคครอบคลุมทุกหมวดหมู่ มีธนาคารที่เปิดทำการทุกวัน มีแทบทุกสิ่งอย่างให้เลือกสรรครบครัน ไปห้างสรรพสินค้าที่เดียวก็สามารถได้ของแทบทุกอย่างตามที่ต้องการแบบที่เดียวจบ มีสารพัดร้านค้าที่ขายของเหมือน ๆ กัน ให้เราสามารถเดินดูหลาย ๆ ร้าน เดินเทียบราคา เทียบคุณภาพ เมื่อได้ที่พอใจที่สุดแล้วค่อยซื้อ ระหว่างทางก็แวะร้านอื่น ๆ ไปได้เรื่อย ๆ
แต่ในขณะที่ร้านแบบ stand alone ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า มันเป็นเพียงร้านเดี่ยว ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ไม่ได้มีลักษณะเป็นศูนย์รวมแบบที่เดียวจบหาซื้อได้แทบทุกอย่างแบบการไปห้าง ดังนั้น การแวะร้านแบบ stand alone ผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องมีจุดประสงค์จริง ๆ ว่าต้องการสินค้านั้น ๆ ถึงจะแวะซื้อ แต่ถ้าไม่ได้ต้องการสินค้า ร้าน stand alone ก็อาจจะเป็นเพียงทางผ่านเฉย ๆ เท่านั้น เป็นเรื่องยากที่เราจะขับรถแวะเข้าไปเพื่อไปเดินดูสินค้าเล่น ๆ แล้วไม่ได้อะไรติดมือมาแบบที่แวะร้านในห้างสรรพสินค้า ซึ่งการแวะหรือไม่ของลูกค้า ก็ส่งผลต่อโอกาสที่จะขายของได้หรือไม่ได้ด้วย หากมีคนแวะเวียนเข้ามาดูเล่น ๆ เยอะ ก็มีโอกาสที่เขาจะซื้ออะไรติดมือมามากกว่าร้านที่ไม่ค่อยมีคนแวะอยู่แล้ว