สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมรู้สึกเสียดายแทนแฟนบอลซึ่งกำลังได้ชมเกมคุณภาพระดับห้าดาวครึ่งระหว่าง สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล อยู่ดี ๆ แต่สุดท้ายด้วยคุณภาพของการตัดสินได้ทำให้อรรถรสในการรับชมกร่อยลงไปถนัดตา
ช่วงออกสตาร์ตการแข่งขัน ทั้งสองทีมเชิดฉิ่งเข้าใส่กันด้วยความดุเดือด เมื่อ “ไก่เดือยทอง” งัดเกมเพรสซิ่งขึ้นมาเล่นงานเจ้าตำรับ “เกเก้นเพรสซิ่ง” อย่างทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งก็พยายามต่อบอลเร็วแก้ลำ ถือว่าผู้จัดการทีมของทั้งสองทีมโชว์แผนและกึ๋นในการอ่านเกมกันอย่างยอดเยี่ยม
ไม่นาน สเปอร์สต่อบอลทะลุเข้าไปยิงหงส์ แต่ อลีซง เบ็กเกอร์ นายด่านทีมเยือนเหนียวชะมัดยาด โชว์ซูเปอร์เซฟไปตั้ง 2-3 หน จวบจนกระทั่งนาที 26 หัวเลี้ยวหัวต่อ เคอร์ติส โจนส์ เข้าสกัดแต่ยกเท้าสูงไปนิด ตีนก็เลยโดนบริเวณยอดของลูกหนังก่อนจะแฉลบไปสู่หน้าแข้งของคู่ต่อสู้เต็มเปา
ผู้ตัดสิน ไซม่อน ฮูเปอร์ วิ่งมาแจกใบเหลืองทันที แต่ทีมงาน VAR ของดาร์เรน อิงแลนด์ เรียกร้องให้ช่วยดูภาพช้าซ้ำอีกครั้ง โดยหยุดภาพนิ่งไว้ตอนที่เท้าของ โจนส์ เหยียบอยู่ที่ข้อเท้าคู่ต่อสู้พอดิบพอดี (สังเกตจากจอมอนิเตอร์ข้างสนาม) แทนที่จะเน้นจังหวะก่อนหน้าว่าสกัดโดนบอลหรือไม่โดน
สุดท้ายสิงห์เชิ้ตดำก็เลยบ้าจี้ตาม เปลี่ยนคำตัดสินของตัวเอง ควักเป็นใบแดงมาแจกแทน ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในสนาม ทำให้เกมที่กำลังเมามันต้องลดระดับดีกรีความร้อนแรงลดมา เพราะหงส์ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
มิหนำซ้ำไม่กี่นาทีถัดมา ทีมงาน VAR ยังทำให้เกมอัปยศป่นปี้ ด้วยการปฏิเสธการทำประตูอันสุดสวยของ หลุยส์ ดิอ๊าซ บอกว่าเป็นลูกล้ำหน้า โดยไม่เชื่อไลน์แมนที่ยืนอยู่ไลน์เดียวกับนักเตะและอยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุดแต่ไม่ได้ยกธง
ไม่มีใครแน่ใจว่าทีมงาน VAR พิจารณาให้ถ้วนถี่แล้วหรือยัง เพราะไม่ได้มีการรีรันภาพและตีเส้นสมมติให้ดูตามปกติ เหตุการณ์มันหายไปดื้อ ๆ ราวกับภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านกำนันรายหนึ่งในเมืองไทย
สุดท้ายผู้ตัดสินปฏิเสธไม่ให้ประตูสำคัญเอาเสียอย่างนั้น ช่างน่าเคลือบแคลงใจยิ่งนัก ทีมงานแจ้งว่าทำอะไรไม่ได้เพราะสเปอร์ส เล่นไปแล้ว นั่นหรือคือเหตุผล?
หลังเกม PGMOL บริษัทผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ VAR นั้นออกมายอมรับการตัดสินที่ผิดพลาด แต่ไม่ได้ระบุชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ และใครควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งต่อไปจะป้องกันอย่างไร?
ประมวลจากเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ได้เวลาที่ประธานผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกอย่าง ฮาเวิร์ด เว็บบ์ จะต้องพิจารณาทำอะไรแล้วหรือยังครับ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่แฟนบอลบางคนบอกว่าผิดตั้งแต่เอาเว็บบ์ มาเป็นหัวหน้าผู้ตัดสินแล้ว 555
หลังจากนั้นช่วงครึ่งหลังผู้ตัดสิน ฮูเปอร์ ยังสนุกไม่พอ ไล่แจกสองเหลืองให้ ดิโอโก้ โชต้า ออกจากสนามไปอีก จนทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนเท่านั้นในสนาม ตามด้วยการตัดสินที่น่าหงุดหงิดใจอีกหลายครั้ง ทั้งจังหวะ โม ซาลาห์ โดนจับฟาวล์ และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โดนใบเหลืองแบบไม่ได้ทำอะไรรุนแรง ปิดท้ายด้วยการทดเวลาให้เล่นอีกถึง 6-7 นาทีในเกมหลัง 90 นาที ทั้ง ๆ ไม่ได้มีจังหวะหยุดอะไรมากมายนักในครึ่งหลัง ราวกับจะเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เข่นฆ่าฝ่าย 9 คนจนอาสัญให้ได้
อยากจะบอกเพิ่มเติมว่าปีนี้ทดเวลากันจนยืดยาวเล่นเกินกว่า 100 นาทีกันจนน่ารำคาญหลายนัดอย่างผิดปกติ เหมือนมีการกำชับจากทีมงานผู้ตัดสินให้ทำอย่างนั้น
เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้ถ้าเกิดขึ้นในสมัยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือกุนซืออย่าง อาร์แซน เวนกอร์ คงได้จวกกรรมการกันสนุก แต่มาในยุคนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่กล้าพูดอะไรรุนแรงมากนัก อาจจะด้วยมาตรการเข้มข้นในการห้ามวิพากษ์วิจารณ์ผู้ตัดสินในซีซันนี้
สุดท้ายได้แต่บอกว่า น่าเสียดายแทนแฟนบอล ที่ตั้งตารอชมเกมพรีเมียร์ลีกแมตช์ระดับโลก กลายเป็นได้ดูจำอวดผู้ตัดสินแทน
ไม่น่าเชื่อว่าเกมระดับหมื่นล้านก็ยังมีแบบนี้!