ช่างแม่ง!! แล้วมันก็จะผ่านไป

เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว (ประมาณปี 2018) ผู้เขียนเคยแนะนำหนังสือที่มีชื่อว่า “The Subtle Art of not giving a F_ck” เขียนโดย มาร์ก แมนสัน มีชื่อภาษาไทยว่า “ชีวิตติดปีกด้วย ศิลปะแห่งการช่างแม่_ง” (คลิกอ่านได้ที่นี่) เป็นหนังสือที่ต้องบอกว่าเหมาะสมกับยุคสมัย และหลายครั้งที่ผู้เขียนซื้อหนังสือเล่มนี้เป็นของขวัญให้กับคนรอบข้างที่อยู่ในภาวะต้องการกำลังใจเพื่อสู้กับชีวิต

ที่ยกเอาหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพราะผู้เขียนมาได้ยินคำว่า “ช่างแม่ง” อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการพูดถึงการใช้ชีวิตในยุคนี้อย่างไรเพื่อให้มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน เมื่อบทสนทนาเคลื่อนเข้าสู่เรื่องความเครียดของผู้คนในยุคที่เรียกได้ว่าเศรษฐกิจและสังคมเต็มไปด้วยความรู้สึกย่ำแย่ในทุกหย่อมหญ้า

“เราจะมีความสุขได้ต้องรู้จัก ‘ช่างแม่ง’ ไม่เช่นนั้นเราจะเอาอดีตมาทำร้ายตัวเอง และกังวลใจกับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น คำว่า ‘ช่างแม่ง’ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ดูดำดูดี หรือไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง แต่คำว่า ‘ช่างแม่ง’ ในที่นี้หมายถึงการทิ้งความกังวลใจ หรือความคิดที่ยึดติดอยู่กับอดีตออกไปให้หมด แล้วลงมือทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาหนึ่งสิ่งที่เราคิดว่ายากที่สุดในชีวิตก็จะผ่านไป”

สมองมนุษย์มีการทำงานที่ซับซ้อน เรามักจะคิดถึงอดีตที่แก้ไขไม่ได้ด้วยการใช้วิธีคิดประเภท “What if” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเพราะเราไม่เคยลงมือทำ ขณะเดียวกันเรามักจะกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความกลัว นั่นเป็นเพราะอนาคตคือสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และทั้งสองประเด็นนี้ล้วนทำให้มนุษย์มีความรู้สึกทุกข์ หากต้องการปลดเปลื้องตนเองจากพันธนาการทางความคิดแบบนี้ หนทางเดียวคือ “ช่างแม่ง”

คำนี้คำเดียวจะทำให้ทุกความคิดมากของคุณจบลง หากคุณพูดคำว่า “ช่างแม่ง” ออกมา นั่นหมายความว่า คุณไม่สนแล้วว่าอดีตจะตามมาหลอกหลอน หรืออนาคตจะเป็นอย่างไรคุณก็พร้อมรับมือ เพราะคุณได้เรียกสติกลับมาด้วยคำว่า “ช่างแม่ง” และคุณยังบอกตัวเองด้วยว่าปัญหาที่ว่าหนัก สุดท้ายมันจะผ่านไป

“ช่างแม่ง” แรกจากหนังสือของมาร์ก แมนสันนั้น เป็น “ช่างแม่ง” ที่ต้องการบอกให้ทุกคนยอมรับสิ่งที่เราเป็น ไม่พยายามเป็นตามคำพูดของคนอื่น ขณะที่ “ช่างแม่ง” ครั้งที่สองนั้น ผู้พูดคือบุคคลที่เห็นโลกใบนี้มาเนิ่นนาน อยู่ทั้งในจุดที่สูงสุดและต่ำสุดของสังคมมาแล้ว คำว่า “ช่างแม่ง” ของเขาคือพร้อมรับทุกแรงกระแทก และรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสติ ก่อนทุกสิ่งจะผ่านพ้นไปเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

ในสภาพสังคมทุกวันนี้ เศรษฐกิจถดถอยจนทำให้ผู้คนแทบจะไม่เหลือที่ให้ถอยกันแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนกัดฟันสู้กันอย่างสุดความสามารถ หลายคนแทบจะไม่ค่อยได้ยิ้มนับตั้งแต่ต้นปี ดังนั้น เรามา “ช่างแม่ง” กับในทุกสิ่งที่สร้างความเครียดให้กับเรากันค่ะ

มองปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้มุมมองแบบคนนอก เพราะเมื่อคุณมองเข้ามา คุณอาจเจอกับวิธีแก้ปัญหาได้มากกว่าหมกหมุ่นอยู่กับตัวเอง และเหมือนที่หลายคนเคยได้ยินกันมา “ทุกปัญหามีทางออก ถ้าหาทางออกไม่เจอก็ให้หันกลับไปออกที่ทางเข้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา” จากนั้นก็เริ่มต้น “ช่างแม่ง” กันได้เลยค่ะ (ฮา)

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ