แล้ววงการกีฬาก็เดินทางมาถึงวันนี้ วันที่มีรายงานข่าวลีกฟุตบอลซาอุฯ ไปทั่วโลก เหตุเพราะมีดาวดังในวงการลูกหนังจากทั้งพรีเมียร์ลีก บุนเดสลีก้า หรือแม้แต่ลีกเอิง ยินดีลงนามเซ็นสัญญาไปค้าแข้งในลีกซาอุฯ ด้วยตัวเลขที่เชื่อว่าใครก็ไม่อยากปฏิเสธ ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า หรือซาดิโอ มาเน่ อดีตนักเตะลิเวอร์พูล ที่ตัดสินใจย้ายจากบาเยิร์น มิวนิก มาร่วมทีมอัล นาสเซอร์ รวมไปถึง โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ทันทีที่หมดสัญญากับลิเวอร์พูล ก็หันไปเซ็นสัญญาร่วมทีมอัล อาห์ลียาวถึง 3 ปี
นับเป็นการรุกสู่วงการลูกหนังอย่างชัดเจนที่สุดของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะสร้างความฮือฮาให้กับวงการกอล์ฟ ด้วย LIV Golf จนทำให้ทัวร์อาชีพใหญ่อย่าง PGA Tour ต้องยอมกลืนน้ำลายมาร่วมจอยกับ LIV Golf เพราะเงินทุนของ LIV ที่ได้รับความสนับสนุนจาก PIF หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียนั้น มีกระสุนใส่ให้ LIV อย่างมหาศาลชนิดที่ประธาน PGA Tour ยอมรับว่าสู้ไม่ได้จริง ๆ
หลังจากกลุ่มทุนซาอุฯ ใช้เงินสร้างความสำเร็จในวงการกอล์ฟอาชีพไปแล้ว วงการฟุตบอลที่ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ชั้นดีที่จะทำให้คนทั่วโลกมองภาพลักษณ์ของซาอุดีอาระเบียที่อดีตมีภาพจำว่าเป็นพี่ใหญ่ของประเทศส่งออกพลังงานรายใหญ่ และอยู่เบื้องหลังเหตุไม่สงบในหลาย ๆ แห่งทั่วโลก กลายเป็นซาอุดีอาระเบียที่เปิดประเทศพร้อมรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
การสร้างลีกอาชีพในซาอุฯ ไม่ใช่เพียงแค่การเอาสตาร์ดังมาทำให้เกิดไวรัลไปทั่วโลก แต่เป็นการแสดงให้เห็นศักยภาพของกลุ่มทุนซาอุฯ ในฐานะยักษ์หลับที่ขอตื่นมาในโลกดิจิทัล เพื่อให้ประเทศในดินแดนตะวันออกกลางนั้นกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับนักลงทุนและเทคโนโลยี
นอกเหนือจากสร้างลีกอาชีพแล้ว กลุ่มทุนซาอุฯ ได้ลงทุนในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยการซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสร นิวคาสเซิล ขณะที่สายการบินแห่งชาติอย่าง ริยาร์ด แอร์ เซ็นสัญญาร่วมกับแอตเลติโก้ มาดริด ในการเป็นสปอนเซอร์ บนหน้าอกเสื้อทีม
ขณะที่การกระจายของกลุ่มทุนซาอุฯ นั้น ยังได้ครอบคลุมไปถึงวงการกีฬาราคาแพงอย่างฟอร์มูล่า วัน ด้วยการแข่งขัน ซาอุดีอาระเบียน กรังด์ปรีซ์ ที่เริ่มมีการจัดอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2021 และยังคงจัดอยู่ในปี 2023
แน่นอนว่าการลงทุนในวงการกีฬาของกลุ่มทุนจากซาอุฯ นั้น เกิดขึ้นได้เพราะนโยบายเปิดประเทศของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ซาอุดีอาระเบีย อันทำให้คนทั่วโลกได้เห็นความเคลื่อนไหวสำคัญของกลุ่มทุนจากซาอุฯ อยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่ปี 2564 และการใช้กีฬาเป็นอาวุธสำคัญเพื่อทำให้คนทั่วโลกจดจำซาอุดีอาระเบียในฐานะมิตรไม่ใช่ศัตรู ก็ดูจะใช้ได้ผล
ถึงเวลานี้คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าถนนทุกสายนั้นมุ่งสู่ซาอุดีอาระเบีย ไม่เพียงแค่ในวงการกีฬาแต่แวดวงธุรกิจอื่น ๆ ทางกลุ่มทุนซาอุฯ ก็แสดงความสนใจ และเปิดรับนักลงทุนทั้งจากโลกตะวันออกและตะวันตก
ต้องบอกว่า ถึงเวลานี้ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ซาอุดีอาระเบีย และนับเป็นการแจ้งเกิดของยักษ์หลับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยกให้แนวความคิดของมกุฎราชกุมาร มุฮัมมัด บิน ซัลมาน ที่ต้องการเปิดประเทศ และทำให้ซาอุฯ เป็นมากกว่าประเทศส่งออกพลังงาน ครั้งหนึ่งเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ได้ให้เหตุผลที่ท่านสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันกลัวว่าฉันจะตายก่อนที่ซาอุดีอาระเบียจะไปได้ถึงเป้าหมายที่ฉันวางเอาไว้ในใจ…ชีวิตนั้นสั้นนัก และเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ตลอดเวลานั้น ดังนั้น ฉันจึงอยากเห็นทุกอย่างสำเร็จตามความตั้งใจด้วยตาของฉันเอง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้เร่งในการลงทุนและสร้างสิ่งใหม่ให้กับซาอุดีอาระเบีย”
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ