เทคนิคบรรลุเป้าหมายประจำปี ใช้ 6 เดือนที่เหลืออยู่ ไปให้ถึงฝัน

ในแต่ละปีจะมีคนมากมายที่ตั้งเป้าในการเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงตัวเองช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่ แต่จากผลสำรวจกลับพบว่า New Year Resolution สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วมักจะล้มเหลวเมื่อผ่านไปได้ประมาณ 1 เดือน

แต่โอกาสแก้ตัวยังมีเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางปี ที่ยังมีเวลาเหลืออีก 6 เดือน สำหรับการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตคุณดีขึ้นในทุกทาง และรอบนี้ลองใช้เทคนิคการตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ โดยลองทำตามเทคนิคที่ Tonkit360 นำมาฝากคุณผู้อ่านในสัปดาห์นี้กันดู

  1. เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับไปสู่เป้าใหญ่

คนทั่วไปเมื่อตั้งเป้าหมายมักจะเริ่มจากเป้าหมายใหญ่เอาไว้ก่อน ซึ่งทำให้เกิดอาการท้อถอยได้ง่าย ดังนั้น จึงควรเริ่มต้นจากเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เป็นการแบ่งย่อยออกมาจากเป้าหมายใหญ่ เพราะทุกครั้งที่ทำเป้าหมายเล็ก ๆ นั้นสำเร็จก็จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น แล้วเราก็จะสะสมความสามารถและกำลังใจจนไปได้ถึงด่านสุดท้าย หรือเป้าหมายสูงสุดของเราในที่สุด

  1. ประเมินความสามารถตัวเองและ Passion ของเรา

ในการไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ข้อสำคัญต้องประเมินศักยภาพของตนเองก่อน ถ้ารู้สึกว่าตัวเองยังมีทักษะความสามารถหรือแรงจูงใจไม่มากพอที่จะให้ลงมือทำตามสิ่งที่คิดไว้ ให้ลองตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ดูก่อนเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง ก่อนที่จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายต่อไป

  1. มุ่งมั่น จดจ่อ แน่วแน่ในเป้าหมาย

ไม่ว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้จะเป็นอะไรก็ตาม จะใหญ่หรือเล็ก จะยากหรือง่าย หากเรามีความเชื่อมั่นว่า เรามีความสามารถมากเพียงพอ และมีแรงจูงใจแรงปรารถนาในเป้าหมายนั้นอย่างแรงกล้า (Passion) ก็จงอย่าลังเลที่จะทำมันแต่จงแน่วแน่ในเป้าหมาย แม้บางคราจะรู้สึกว่ายากเหลือเกิน โดยเฉพาะในช่วงแรก แต่จงบอกตนเองไว้เสมอว่า ถ้าเรามุ่งมั่นมากพอ ผลลัพธ์จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

  1. วางแผนให้ชัดเจน

หลังจากตั้งเป้าหมายได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ การวางแผน ซึ่งการวางแผนให้ชัดเจนประกอบไปด้วย

  1. กำหนดขั้นตอนการไปถึงเป้าหมายว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
  2. กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เพราะถ้าไม่มีกรอบเวลาชัดเจนจะทำให้เราหลงลืม และเลิกทำไปในที่สุด  
  3. กำหนดการประเมินผลในแต่ละขั้น ว่ามีความคืบหน้าและเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
  4. ทบทวนและปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ เราควรทบทวนตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงตามแผนหรือไม่ หรือควรปรับแผนตรงไหนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้น แม้ว่าจะมีการวางแผนมาอย่างชัดเจน

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนแผนไม่ได้ เพราะถ้ายึดติดมากเกินไปก็จะทำให้เราเครียดจนเลิกทำได้เช่นกัน ดังนั้น แผนที่วางไว้อาจสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม

  1. ลงมือทำทันที

การผัดวันประกันพรุ่ง คืออุปสรรคใหญ่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้น หลังจากเรากำหนดเป้าหมาย และวางแผนเสร็จแล้ว เราควรเริ่มต้นลงมือทำโดยทันที อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย