ดูเหมือนสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันไว้ก่อนที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะผ่อนลงจนกลายเป็นโรคประจำถิ่น ว่าสภาวะเศรษฐกิจทั้งโลกจะเข้าสู่สภาวะถดถอยและเงินเฟ้อพุ่ง เนื่องจากในช่วงของการแพร่ระบาดที่กินเวลายาวนานเกือบสามปี ทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก การจะฟื้นกลับมาในเวลาอันรวดเร็วอาจไม่ใช่เรื่องง่าย
สิ่งที่ทุกคนต้องประสบตั้งแต่ช่วงปี 2565 มาจนถึงปัจจุบัน คือการพบกับสภาวะเงินเฟ้อ และการขึ้นดอกเบี้ยจากธนาคาร ขณะที่การทำธุรกิจและค้าขายไม่ค่อยมีสภาพคล่อง และจนมาถึงบัดนี้หลายคนบอกว่าแม้จะมีช่องทางในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่ดูเหมือนว่ากำลังซื้อจะลดลง ในขณะที่ต้นทุนก็เพิ่งสูงขึ้น
เมื่อเราต้องอยู่กับสภาวะการเงินเฟ้อแบบนี้ไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปี เพื่อให้สถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่าควรปรับตัวในการดำรงชีวิตสำหรับยุคข้าวยากหมากแพง หลัง “สงครามโรค” นี้อย่างไร
1. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหันมาออมเงินให้มากขึ้น
ในช่วงเวลาของเศรษฐกิจขาลงและเงินเฟ้อ จนทำให้หยิบจับอะไรก็แพงไปหมด การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและนำเงินดังกล่าวเป็นเงินออมน่าจะเป็นหนทางแรก ๆ ที่ควรคิดถึงกัน เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ควรรักษากระแสเงินสดไว้ให้ดีที่สุด โดยออมเงินแบบฝากประจำ หรือออมเงินแบบเท่ากันทุกเดือนที่ได้รับการยกเว้นภาษี เพราะการออมเงินในลักษณะดังกล่าวเป็นการฝากประจำ จะได้ดอกเบี้ยมากกว่าเงินฝากทั่วไป
2. ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อให้เห็นว่าแต่ละเดือนใช้เงินไปกับอะไรบ้าง
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ และข้าวของราคาแพง การทำบัญชีรายรับจ่ายในครัวเรือนคือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คุณได้เห็นรอยรั่วในการใช้จ่าย จากบัญชีคุณจะเห็นว่าแต่ละเดือนนั้นคุณใช้จ่ายหมดไปกับอะไรบ้าง การใช้เงินในชีวิตประจำวันมากเกินกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ หรือการซื้อของที่ไม่จำเป็นด้วยการรูดบัตรเครดิตนั้นมีบ่อยครั้งเกินไปเกินไปรึเปล่า
ซึ่งการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะทำให้คุณได้เห็นรอยรั่วและสามารถหยุดการไหลออกของเงินในส่วนนั้น ขณะเดียวกันการดำรงชีวิตของคุณจะอยู่ในทิศทางที่ประหยัดมากขึ้นใช้เงินกับสิ่งที่ควรใช้ เดินทางเท่าที่จำเป็นและหาวิธีในการสร้างความสุขง่าย ๆ ให้กับตนเอง
3. หากมีรายจ่ายก้อนใหญ่ให้วางแผนการชำระหรือดูโปรโมชันที่คุณจะได้ประโยชน์
เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็จะราคาสูงขึ้น หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ต้องพิจารณาด้วยการเปรียบเทียบราคา และดูโปรโมชันการผ่อนชำระ หรือแม้แต่ช่วงเวลาลดราคาเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด หรือใช้แต้มสะสมจากบัตรเครดิตมาเป็นส่วนลดให้ได้มากที่สุด
การวางแผนในการซื้อสำคัญมากในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย เพราะของที่ผลิตออกมาอาจได้คุณภาพไม่ตรงปก หรือสินค้าที่ได้มีคุณภาพที่ไม่ดี หากเราวางแผนในการซื้อของช่วงเวลานี้ ควรเลือกของดีสมราคามากกว่าของดีราคาถูก เพราะถ้าผลิตภัณฑ์นั้นดีจริง ราคาจะต้องสมเหตุสมผลตามกลไกตลาดที่ควรจะเป็น
4. ต้องมีงานที่สองและสาม เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ในอดีต การทำงานที่เดียวไปตลอดอายุจนกระทั่งเกษียณนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ในยุคสมัยนี้ เราไม่สามารถมีอาชีพเดียวได้ เพราะความไม่แน่นอนหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องตกงานชนิดที่คาดไม่ถึง ดังนั้น การมีงานที่สองเพื่อรองรับความเสี่ยงจากงานแรกจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ขณะเดียวกันการมีงานพิเศษเพิ่มขึ้นจากงานประจำจะเป็นหนทางที่ดีในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับคุณและครอบครัวเพราะค่าใช้จ่ายจากเดิม จะต้องเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสิบเปอร์เซ็นต์ในสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งนั่นจะทำให้คุณได้มีเงินมาเสริมในส่วนที่ต้องเพิ่มขึ้น และได้มีเงินเก็บจากการทำงานที่สองหรือที่สามของตนเอง
และทั้งหมดนี้คือแนวทางในการใช้ชีวิตให้รอดในช่วงสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ หากคุณปฏิบัติตามได้ เชื่อว่าไม่ว่าจะสภาวการณ์แบบไหน คุณก็สามารถเอาตัวรอดได้