“คล็อปป์” เดินหน้าสร้างตำนาน

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวกระเซ็นกระสายเรื่องเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล จะโยกไปคุมทีม “อินทรีเหล็ก” แทนที่ ฮันซี่ ฟลิค ทีมเชฟซึ่งยังเรียกศรัทธาคืนมาไม่ได้หลังบอลโลก 2022 รวมทั้งบรรดาเกจิหลายคนที่จับตามองว่า กุนซือผู้นี้อาจจะถอดใจเหมือนในอดีตสมัยคุมดอร์ทมุนด์หรือไม่ หลังจากไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในฤดูกาลที่ผ่านมา รวมทั้งใช้เวลาในการคุมทีมพอ ๆ กับสมัยที่อำลาทีม “เสือเหลือง” เช่นเดียวกัน

แต่ถึงเวลานี้ คล็อปป์ ยังคงยืนยันว่า ลิเวอร์พูล ยังเป็นสโมสรที่เขารักที่สุดและพร้อมจะเดินหน้าต่อ แถมสตาฟโค้ชยังอยู่กันครบก่อนเปิดฤกาลใหม่ 2023-24 บวกกับได้ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่อย่าง ยอร์ค ชมัดท์เค่อ เข้ามาช่วยเรื่องการซื้อขายนักเตะด้วย น่าจับตามองยิ่งนักว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง

สร้างตำนาน

หลังจากที่ผ่านการทำงานในถิ่นแอนฟิลด์มาแล้ว 7 ปีครึ่ง เริ่มตั้งแต่เมื่อฤดูกาล 2015-16 คล็อปป์ มีลุ้นที่จะกลายเป็นผู้จัดการทีมระดับตำนานในถิ่นแอนฟิลด์ (ถ้าอยู่ครบสัญญา) เพราะมันเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กุมบังเหียนทีมอันยิ่งใหญ่นี้ถึง 1 ทศวรรษ ซึ่งหาคนที่ทำได้แบบนี้คนสุดท้ายนั่นก็คือ บิล แชงค์ลีย์ ยอดประมาจารย์ 15 ฤดูกาล ในยุคตั้งแต่ปี 1959 จนถึง 1974 เท่านั้น

ขนาดซือแป๋อย่าง บ๊อบ เพสลี่ย์ ยังคุมทีม “หงส์แดง” ได้แค่ 9 ซีซันแล้วก็ต้องตัดสินใจโบกมือลา ต่อมาโจ เฟแกนทำได้ 2 ปี เคนนี่ ดัลกลิช ที่ว่าแน่ ๆ ก็อยู่แค่ 6 ปี รุ่นใหม่ขึ้นมาไม่ต้องพูดถึงไม่ว่าจะเป็น เชราร์ อุลลิเย่ร์, ราฟาเอล เบนิเตซ, แบรนดอน ร็อดเจอร์ส อยู่ไม่ถึง 10 ปีด้วยกันทั้งนั้น

ถ้าคล็อปป์ อยู่คงกระพันถึงขนาดนั้นได้จริงก็จะถือว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกฟุตบอลปัจจุบันอันสุดจะผันผวน

บิวต์ทีมใหม่ทาบ “เรือใบสีฟ้า”

หลังจากประสบความสำเร็จคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2019 และแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2020 ด้วยทีมซึ่งมีสามกองหน้ามหากาฬอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ แถมด้วยแกนหลักอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จินี่ ไวนัลดุม และเฟอร์กิล ฟาน ไดค์

ถึงเวลานี้ ยอดกุนซือเยอรมัน ต้องสร้างทีมเจเนอเรชันใหม่ของเขาขึ้นมา เพื่อความสำเร็จในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า ด้วยการทยอยซื้อผู้เล่นอย่าง อิบราฮิม่า โคนาเต้, หลุยส์ ดิอ๊าซ, ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป และล่าสุดยอดมิดฟิลด์จากไบรท์ตันอย่าง อเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์ เข้ามา โดยซัมเมอร์นี้หวังว่าจะสามารถดึงยอดแข้งเข้ามาเพิ่มได้อย่างใจปรารถนาอีกสัก 2-3 คนเพื่อทาบรัศมีทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ที่กวาดเทรเบิลแชมป์ในปีที่ผ่านมา

แต่หากทำได้ไม่ถึงขนาดนั้น เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเงิน ทีมก็ยังมีผู้เล่นวัยรุ่นที่พร้อมจะขึ้นมาเสริม อย่างในแดนหลังก็มีแบ็กขวา คอนอร์ แบรดลี่ย์ เซ็นเตอร์ รีส วิลเลี่ยมส์ กับ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก แดนกลางแน่นอน เคอร์ติส โจนส์, ฮาวี่ย์ เอลเลียต, สเตฟาน บายเซติช และไทเลอร์ มอร์ตัน รวมทั้ง เบน โค๊ค ในแดนหน้า

ต้องเห็นใจว่าสโมสรเองเพิ่งลงทุนในการยกเครื่องอัฒจันทร์ใหม่ฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด เพิ่มความจุสนามไปถึง 61,000 ที่นั่ง ซึ่งหากเปิดใช้งานแล้วจนเรียกทุนคืนมาได้บ้าง ก็เชื่อแน่ว่าคงถึงเวลาให้ คล็อปป์ ได้จับจ่ายใช้สอยอย่างเต็มที่เหมือนทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้, อาร์เซนอล หรือเชลซี เขาบ้าง ทั้งเรื่องของค่าตัวและเพดานค่าเหนื่อยนักเตะ แต่เชื่อว่าน่าจะใช้เวลาอีก 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย ไม่ทราบว่าเมื่อถึงตอนนั้นกลุ่มทุนเดิมยังเป็นเจ้าของอยู่ หรืออาจจะขายให้เจ้าของใหม่จากตะวันออกกลางไปแล้วก็ได้ ฮ่า ฮ่า

ติดตามกันต่อไปครับว่า คล็อปป์ จะสร้างทีมเจนใหม่ของเขาได้ดีขนาดไหน และสามารถไปถึงระยะเวลา 10 ปี ในการคุมทีมในถิ่นแอนฟิลด์ได้สำเร็จหรือไม่?.