ลองขับ “MG4 Electric” รถไฟฟ้าขับหลัง

กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ในบ้านเรายังคงมาแรง มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะค่ายใหญ่หรือเล็ก มีเสียงตอบรับและยอดจองชนิดถล่มทลาย ทำให้ “เอ็มจี” (MG) ยักษ์ใหญ่จากจีนอีกค่าย ที่ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยหลังเปิดตัวในมืองไทย ด้วยหลากหลายรุ่น และหลากหลายเครื่องยนต์ ส่งรถ “MG4 ELECTRIC” ที่สร้างชื่อไปแล้วทั่วโลกทั้งยุโรปและสแกนดิเนเวีย โดยติดท็อป 10 รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม

ถือเป็นรุ่น “BORN TO BE EV” ออกแบบพื้นฐานเพื่อใช้กับรถ EV โดยเฉพาะ แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ของเอ็มจี ที่บางครั้งใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรถยนต์กลุ่มพลังงานทั้งเลือกทั้งไฮบริดหรือปลั๊กอินไฮบริด สร้างบนแพลตฟอร์ม “NEBULA PURE ELECTRIC” พัฒนาขึ้นเพื่อรถ EV โดยเฉพาะ สามารถรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุปรับใช้ได้กับรถ EV หลากหลายเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ตำแหน่งการติดตั้งแบตเตอรี่จะเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างรถยนต์ ความปลอดภัย และการปกป้องแบตเตอรี่จะถูกยกระดับให้มีมากขึ้น โดยเอ็มจีเตรียมใช้แพลตฟอร์มนี้กับรถ EV รุ่นอื่น ๆ ในอนาคตด้วย

และเป็นครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ขุมพลังใหม่ในรถยนต์ EV มาพร้อม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่พัฒนาให้แบตเตอรี่ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง และระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION ช่วยเพิ่มการเกาะถนน เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ให้ความเร็วในการขับขี่คงเสถียรภาพได้อย่างดีเยี่ยม

โครงสร้างที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ สู่การเป็นต้นแบบมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ EV ชาร์จชีวิตให้พุ่งทะยาน ไปได้เร็ว และแรงกว่าที่เคย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นไอคอนของบางสิ่ง NEW MG4 ELECTRIC มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่

นอกจากนี้ ยังจุดประกายจากความคิดที่แตกต่าง จึงสรรค์สร้างสิ่งใหม่ ให้สะกดทุกสายตา กับงานดีไซน์แบบ RACING SPIRIT IDENTITY เพื่อแสดงอัตลักษณ์อันงดงามที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจละสายตา ถ่ายทอดผ่านเส้นสายทรงสปอร์ตตั้งแต่ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX พร้อม DAYTIME RUNNING LIGHTS สอดรับกับความล้ำสมัยของไฟท้าย LED โฉบเฉี่ยวด้วยหลังคาแบบ 2-TONE พร้อมสปอยเลอร์หลัง TWIN ARROW WING พาคุณเฉิดฉายทุกเส้นทางด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER ที่ช่วยเพิ่ม AERODYNAMIC เป็นอย่างดี

ทำให้ดีไซน์โดดเด่นอย่างลงตัวทุกองค์ประกอบ ด้วยการออกแบบห้องโดยสารภายในแบบ MINIMAL SPORTINESS เพื่อให้ดูโปร่ง เรียบง่ายแต่เน้นอารมณ์ความเป็นสปอร์ตพร้อมคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ทั้งคอนโซลกลาง ดีไซน์แบบ FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM ไร้กังวลเรื่องการติดต่อด้วย WIRELESS CHARGER รองรับการทำงานกับ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ผ่าน USB TYPE C และ A แสดงผลอย่างล้ำสมัยใช้งานง่ายผ่าน 10.25″ TOUCHSCREEN และหน้าจอแสดงผลการขับขี่ ในรูปแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว

เพิ่มพื้นที่ให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะด้านหลังปรับพับได้ แบบ 60:40 พร้อมช่องใส่สมาร์ตโฟนหลังเบาะนั่งคู่หน้า และ TRUCK DOUBLE COMPARTMENT สามารถปรับความลึกได้ 2 ระดับเสริมพื้นที่วางของมากขึ้น

“MG4 ELECTRIC” ออกแบบสไตล์ Hatchback 5 ประตู เน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวฝากระโปรงหน้ามีลูกเล่นไม่ดูโล้นเกินไปกระจังหน้าดีไซน์ “shark-nosed” ยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้นเมื่ออยู่คู่กับ ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX ออกแบบทรงเฉี่ยวคล้ายตาเหยี่ยว พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home มีแผงไฟเดย์ไทม์แบบ LED เช่นกัน

ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมและช่วยในเรื่อง Aero Dynamic ไฟท้าย LED แนวตั้งพาดยาวครอบทั้งฝาท้ายลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED หลังคาแบบทูโทนสีดำ เช่นเดียวกับกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวและพับ-ปรับไฟฟ้า ชายประตูด้านล่างตกแต่งสีดำเช่นกัน จนดูดุดันมากขึ้น

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,000-3,500 รอบ/นาที ความจุแบตเตอรี่ 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง (kWh) วิ่งไกลสุด 425 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โหมดการขับขี่มีให้เลือก 5 รูปแบบ ประกอบด้วย SNOW, ECO, NORMAL, SPORT และ CUSTOM ตั้งค่าลักษณะการขับขี่ได้แบบเฉพาะตัว

มี KERS MODE ตั้งค่ามาตรฐานได้ถึง 4 ระดับ ตั้งแต่ LOW, MEDIUM, HIGH สามารถเลือกแบบ ADAPTIVE ที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับลักษณะการขับขี่อัตโนมัติ ราคาอย่างเป็นทางการ MG 4 Electric : 869,000-969,000 บาท