“ออปชั่น” ที่รถเมืองไทยควรมี!

ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ผมเพิ่งจะนำประเด็นรถยนต์ยกสูงที่ไม่ใช่รถกระบะมาพูดคุยกัน เพราะทำใจแล้วว่าเส้นทางในกทม. เมื่อฝนตกหนัก ยังไงก็ท่วมครับ แต่จะท่วมนานหรือไม่ก็อยู่ที่การระบายน้ำในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากไล่เรียงดูรถยนต์ไซซ์เล็กที่ไม่ใช่กระบะแต่ขับลุยน้ำท่วมได้ปลอดภัย บอกเลยว่าแทบจะไม่มีเลยในแต่ละโชว์รูม

หรือหากมีก็อาจเป็นรถที่นำมาปรับแต่งด้วยการยกสูงขึ้นมาเอง ซึ่งบางทีมันก็ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การแก้ปัญหาด้วยการหารถคันที่ 2 เพื่อขับลุยน้ำในวันที่น้ำท่วมในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่อง รวมไปถึงในแต่ละวันเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า วันนี้เส้นทางที่จะขับไปนั้นน้ำจะท่วมหรือไม่

ยิ่งเห็นคลิปเหล่าซูเปอร์คาร์ลุยน้ำก็ยิ่งเสียดายแทน ทำให้สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลย คือ รถสะเทินน้ำสะเทินบก! ผมคิดไปถึงขั้นนั้นเลยนะครับ (ฮา ๆ) เพราะไหน ๆ จะท่วมแล้วจากรถก็เปลี่ยนเป็นเรือมันเสียเลย อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงหากน้ำท่วมเส้นทาง มันก็คงไม่ได้ท่วมลึกเป็นเมตร หรือจะต้องเปลี่ยนรถเป็นเรือขนาดนั้น

เมื่อ 6 ปีก่อนในงาน “ธรรมศาสตร์วิชาการ” มีการนำเอารถ EV ยี่ห้อหนึ่ง มาดัดแปลงเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบก และทดสอบให้เห็นว่าใช้งานได้จริงมาแล้ว และในงบประมาณการดัดแปลงไม่เกิน 3 แสนบาท แน่นอนครับมันคือผลงานวิชาการที่ต้องปรบมือให้ แต่อย่างที่บอกไป ผมเชื่อว่าคนกรุงต้องการรถที่ขับลุยน้ำมากกว่า

ฉะนั้น “ออปชั่น” อะไรที่ค่ายรถที่ทำตลาดในบ้านเราควรจะพิจารณาเพิ่มเติมเข้าไปบ้าง ความเห็นส่วนตัวของผมหากให้คิดแบบรวดเร็วเลย คือ รถทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คาร์ รถสปอร์ต รถเก๋งซีดานปกติ รวมไปถึงรถที่มีช่วงล่างสูงไล่ระดับขึ้นไปอย่าง SUV, PPV ไปจนถึงรถกระบะ ควรมีระบบช่วงล่างยกสูงอัตโนมัติ!

แน่นอนครับมันคือเรื่องใหญ่แน่นอนหากมีออปชั่นนี้เพิ่มเข้ามาในรถแต่ละรุ่น และตามมาซึ่งราคาที่สูงลิ่วแน่ ๆ อย่างไรก็ดีมันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะจะว่าไปรถในยุคปัจจุบันบางรุ่น ก็มีระบบที่ว่านี้ติดตั้งมาแล้ว เพียงแต่ว่าจุดประสงค์มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ขับหนีน้ำท่วมโดยเฉพาะ

รถยุโรปหลาย ๆ รุ่นปัจจุบันใช้โช้กอัปแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้เพื่อสมรรถนะในการขับขี่ บางรุ่นสามารถลดระดับความสูงลงมาได้แทบจะติดพื้นถนนเพื่อเพิ่มดาวน์ฟอร์ซขณะที่รถขับด้วยความเร็ว และสามารถยกช่วงล่างให้สูงขึ้นได้เล็กน้อยหากเจอเส้นทางที่น้ำท่วมไม่ลึกมาก

ที่สำคัญระบบช่วงล่างแบบถุงลมนี้มันก็อยู่ในรถบรรทุกหรือรถโดยสารขนาดใหญ่มานานแล้ว ฉะนั้น คงไม่ใช่ออปชั่นที่เกินความเป็นจริงหากจะมีใครนำมาติดตั้งในรถยนต์ทั่วไป และยกรถดับช่วงล่างให้สูงพอที่จะหนีน้ำได้ เพราะในการขับลุยน้ำ เราไม่ต้องการเรื่องความเร็ว เราขอแค่ให้ขับผ่านให้ไปให้ได้เท่านั้นเองครับ

ออปชั่นที่ผมฟุ้งมานี้ อาจะเป็นช่วงล่างแบบถุงลม หรือระบบไฮโดรลิกแบบที่ผมเคยเห็นในรถยี่ห้อ “ซีตรอง” เมื่อหลายปีก่อนก็ได้ครับ คือจะทำอย่างไรก็ได้ให้มันสามารถติดตั้งในรถทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะขับรถสูงรถเตี้ยก็รอดปลอดภัยเมื่อเจอน้ำท่วม โดยที่ใช้รถแค่คันเดียวไม่ต้องไปหาซื้อรถคันที่ 2 ให้วุ่นวาย

งานนี้ผมคิดว่าหากค่ายรถไม่ว่าจะเป็นรถแบบใช้เชื้อเพลิง หรือค่ายรถ EV หากมีออปชั่นกดปุ่มยกสูงติดรถมาด้วย และทำราคาไม่แพงเวอร์จนเกินไป รับรองตอบโจทย์แน่นอน เพราะปัญหาน้ำท่วม อีกร้อยปีก็คงยังแก้กันไม่ได้ ว่าไหมล่ะครับ (ฮา ๆ)