จักรวาลไลฟ์ของ “เจนนี่ รัชนก” บทเรียนการตลาดยุคดิจิทัล

สุดสัปดาห์แห่งวันหยุดยาว เชื่อว่าหลายท่านคงได้เห็นปรากฏการณ์ไลฟ์ (Lives) ของเจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ AKA “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” จากวันศุกร์ที่นักร้องและ Influencer วัย 30 ปีออกมาไลฟ์เล่าปัญหาในครอบครัวชนิดที่ทำให้ทุกเพจสื่อทั้งเล็กและใหญ่ร้อนฉ่า หลังจากเปิดหมดเปลือกในทุกประเด็น เจนนี่ ซึ่งปกติไลฟ์ขายของอยู่แล้ว ประกาศขายของต่อ นัยว่าชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป เพราะในห้วงเวลาที่ตัวเลขคนเข้ามาดูไลฟ์อยู่ในหลักแสน ทำให้เจนนี่ที่เป็นทั้งนักร้อง เจ้าของค่ายเพลง และ Influencer เบอร์ต้น ๆ ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เธอฉกฉวยห้วงเวลาดังกล่าวมาต่อยอดได้อย่างคุ้มค่า

หลายคนอาจมองว่า เจนนี่ เอาเรื่องในบ้านมาเปิดเผยเรียกยอดวิว แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปหน่อย จะเห็นว่าเธอคิดมาเรียบร้อยที่จะเป็นคนเล่าเรื่องนี้เองเพื่อจบทุกปัญหา ซึ่งเป็นวิธีคิดแบบควบคุม Narrative หรือการเล่าเรื่องก่อนที่คนอื่น (สื่อ) จะนำไปเล่า ขณะเดียวกันการ Collaboration หรือร่วมมือกับแบรนด์ และดาราที่มีแบรนด์เป็นของตนเอง คือวิธีการที่เรียกว่าจับมือกันสร้างพลัง เพราะทำให้ยอดวิวตลอดทั้งสามวันมีตัวเลขคนดูในหลักแสน และมียอดขายรวมระดับร้อยล้านบาท

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนอาจมองว่าเจนนี่คิดแบบเรียล ๆ แต่ในความเรียลนั้นเกิดจากประสบการณ์ในการไลฟ์ขายของที่เธอทำมานานแล้ว รวมไปถึงคอนเนกชันที่มีทั้งในวงการบันเทิง และ Influencer ที่สำคัญที่สุด คือเจนนี่รู้จังหวะเวลาในการไลฟ์เป็นอย่างดี รวมไปถึงความอึดที่เธอนั่งขายของจนโต้รุ่ง ทั้งหมดนี้รวมกันให้เห็นว่าสิ่งที่ เจนนี่ รัชนก ทำได้นั้น อาจไม่ง่ายถ้าจะหาคนทำได้เท่ากับเธอ

การไลฟ์ของ เจนนี่ รัชนก นั้นเป็นบทเรียนชั้นดีสำหรับนักการตลาดและนักสื่อสารมวลชน เพราะนี่คือตัวอย่างจากชีวิตจริง ที่ทำให้เห็นแล้วว่าการสื่อสารที่ชัดเจนและจริงใจ จะทำให้เกิดผลที่สะท้อนกลับไปสู่คนเล่าเรื่องอย่างไร (ในกรณีที่เรื่องนั้นจริงและไม่ถูกบิดเบือน)

ขณะเดียวกันการสร้างคอนเทนต์แบบ Collaboration ยิ่งพิสูจนให้เห็นแล้วว่า โลกของการตลาดได้เดินทางมาถึง จุดที่ “จับมือร่วมกันคือพลัง” การจะยืนอยู่เพียงลำพังโดยไม่เปิดความร่วมมือร่วมกับใคร เท่ากับปิดกั้นโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เหมือนกับที่คุณได้เห็นคลิปที่มาจากเจนนี่ คลิปจากเจ้าของแบรนด์ และแฟนคลับของเจนนี่ และของแบรนด์ ปรากฏอย่างมากมายบนหน้าฟีด

บทเรียนทางการตลาดสำหรับการไลฟ์ที่มีมูลค่าการขายระดับร้อยล้านของ เจนนี่ รัชนก เปรียบเสมือนการส่งสัญญาณให้เหล่านักการตลาดและนักประชาสัมพันธ์ทั้งหลายได้เห็นว่า โลกเก่าได้เปลี่ยนผ่านสู่โลกใหม่เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณยังไม่ยอมปรับตัว จมอยู่กับความสำเร็จเก่า ๆ โอกาสที่จะรอดในโลกที่หมุนเท่ากับความเร็วอินเทอร์เน็ต ดูจะยากเต็มที

แล้วพบกันใหม่สัปดาหหน้าค่ะ