เส้นทางใหม่ของ “มาเน่”

ในที่สุด 3 ทหารเสือแดนหน้าแห่งแอนฟิลด์อย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และโรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็ถึงวันที่อยู่กันไม่ครบ โดย มาเน่ ตัดสินใจจากไปเป็นคนแรก ไปเปิดตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี เป็นที่เรียบร้อย

ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานของลิเวอร์พูล กล่าวอย่างงง ๆ ว่าเขาไม่อยากจะเชื่อว่าทีมเก่าของเขายอมปล่อยตัว ดาวเตะแอฟริกันผู้นี้ออกมาได้อย่างไร?

“มาเน่” นั้นพิสูจน์และพัฒนาตัวเองให้เห็นเด่นชัดตลอด 6 ฤดูกาลที่รับใช้ลิเวอร์พูล นับจากวันที่เขาย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาด้วยราคา 34 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 เป็นดีลสุดยอดคุ้มค่าตัวที่สุด เพราะแม้กระทั่งวันที่เขาอำลายังทำเงินคืนให้กับสโมสรได้ใกล้เคียงกับตอนที่ลงทุนซื้อมาจาก “นักบุญ” อีกด้วย

คำถามที่ยังติดอยู่ในใจแฟน “หงส์แดง” หลายคนคือ ทำไมสโมสรไม่พยายามรั้งตัวเขาเอาไว้ด้วยการเพิ่มค่าเหนื่อยให้ หรือ มาเน่ น้อยใจอะไรถึงไม่ยอมอยู่ต่อ?

ล่าสุดตัวแทนของ มาเน่ ออกมาเล่าแจ้งแถลงไขแล้วว่า ข่าวลือที่เคยมีออกมาว่า ลิเวอร์พูล ด้อยค่ากดค่าเหนื่อยเขาเพียงแสนปอนด์ต่อสัปดาห์นั้นไม่เป็นความจริง ตัวเลขระดับนั้นดาวเตะเซเนกัล ได้ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาอยู่กับ “หงส์แดง” แล้ว เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องน้อยใจคงตัดทิ้งไปได้

ปัจจัยเรื่องค่าเหนื่อยก็คงเป็นเรื่องรอง ๆ ลงไป เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวการต่อรองตัวเลขรายได้ระหว่างสโมสรกับตัวแทนเหมือนในรายของ โม ซาลาห์ ตัวเลขที่เขาไปรับกับ “เสือใต้” ก็ไม่ได้สูงมากมายอย่างที่ออกมาในช่วงแรก บางกระแสบอกว่าได้เพียง 250,000 ปอนด์ต่อวีคด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดาวเตะเซเนกัลสนใจอะไรมากนัก เพราะแค่นี้ก็น่าจะใช้ไม่หมดไปตลอดชีวิตแล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดผมมองว่า มาเน่ ต้องการ “ไปต่อ” ครับ เขาต้องการยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกให้ได้ ซึ่งทั้ง เยอร์เก้นน์ คล็อปป์และสโมสรก็เข้าใจดี จึงยอมให้ดาวเตะผู้นี้ไปแสวงหาความท้าทายใหม่โดยไม่เหนี่ยวรั้ง (แต่ต้องได้ราคาที่เหมาะสม 555)

คนที่ประสบความสำเร็จมาหมดแล้ว ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ฟุตบอลสโมสรโลก, เอฟ.เอ.คัพ ฯลฯ รวมทั้งการพาทีมบ้านเกิดคว้าแชมป์ แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ และไปบอลโลกรอบสุดท้าย มันจะหาความท้าทายต่อให้กับตัวเองได้อย่างไร?

ด้วยวัย 30 ปีถ้าเขายังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเก่า เพื่อนร่วมทีมเดิม ลีกเดิม มันอาจเป็นอุปสรรคต่อการก้าวต่อไปของอาชีพค้าแข้ง ความรู้สึกของ มาเน่ คงเหมือนวันที่เควิน คีแกน ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ฮัมบวร์ก เอสวี วันที่เอียน รัช ย้ายไป ยูเวนตุส วันที่สตีฟ แม็คมานามาน ย้ายไปเรอัล มาดริด วันที่หลุยส์ ซัวเรซ และเฟลิปเป้ คูตินโญ่ ย้ายอยู่กับ บาร์เซโลน่า 

ยิ่งถ้าสามารถไปร่วมทีมกับผู้เล่นระดับ มานูเอล นอยเออร์, โธมัส มุลเล่อร์, โจชัว คิมมิช หรือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แล้วประสบความสำเร็จในบุนเดสลีกาได้อีกหนึ่งลีก ก็จะเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือนักเตะฝีเท้าระดับโลกอย่างแท้จริง ไม่ต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาของ โม ซาลาห์ อีกต่อไป

ก้าวต่อไปข้างหน้าเถิด ซาดิโอ มาเน่ ทำให้ดีที่สุดเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อประเทศชาติ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง และไม่ได้มีอะไรติดค้าง ลิเวอร์พูล อีกต่อไปแล้ว

ในอนาคตชื่อของคุณจะกลายเป็นตำนานในถิ่นแอนฟิลด์ไปตลอดกาลอย่างที่ คล็อปป์ ยกย่องอย่างไม่ต้องสงสัย.